นายกฯนั่งเป็นประธานการประชุม ก.ตร.วันนี้ (12 มี.ค.) จับตาเคาะตำแหน่ง "บิ๊กโจ๊ก" หลังมีคำสั่งโอนย้ายกลับ สตช. ด้าน ผบ.ตร.ปัดขอรับ "บิ๊กโจ๊ก" กลับ ตร. แขวะสนใจอะไรหนักหนา กางระเบียบตำแหน่งเท่าเดิม-สูงขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2564 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ มีวาระพิเศษ ขออนุมัติเปิดตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. (พล.ต.ท.) จำนวน 1 ตำแหน่ง, ผบช. (พล.ต.ท.) จำนวน 4 ตำแหน่ง และผบก. (พล.ต.ต.) จำนวน 4 ตำแหน่ง ไว้รองรับการโยกย้ายนายตำรวจที่มีส่วนพัวพัน ปล่อยปละละเลย และย่อหย่อน ตามนโยบายของนายกฯ และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เรื่องบ่อนการพนันและการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบ 2
โดยก่อนหน้านี้เคยเสนอเรื่องขออนุมัติเปิดตำแหน่ง ในที่ประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ที่ประชุม ก.ตร.มีมติให้นำเรื่องกลับมาศึกษารายละเอียดอีกครั้ง เพื่อกำหนดกรอบการทำหน้าที่บริหารและขับเคลื่อนงานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตามที่ ผบ.ตร. เสนอขออนุมัติในการเปิดตำแหน่ง คาดว่าอาจจะมีการนัดประชุม ก.ต.ช.ในคราวเดียวกัน เพื่อขอความเห็นชอบตามที่ก.ตร.เสนอขออนุมัติเปิดตำแหน่งให้ ก.ต.ช. พิจารณา สำหรับการเสนอขอเปิดตำแหน่งจะมีการเสนอในการประชุม ก.ตร. เพื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการการตำรวจช่วงปลายเดือน เม.ย.
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้โอนย้ายพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี กลับเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ หลังจากวันที่ 6 เม.ย.62 ใช้คำสั่ง คสช.โอนย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาเป็นข้าราชการพลเรือน ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) โดย ก.ตร.ต้องมีการพิจารณาเก้าอี้ที่จะให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาดำรงตำแหน่ง ตามระเบียบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมคือ ผู้บัญชาการ หรือตำแหน่งเทียบเท่า หรือตำแหน่งที่สูงกว่า โดยคาดหมายว่าอาจจะเป็นตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ (สบ.9) เทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่เป็นตำแหน่งประจำเฉพาะตัว โดยมีกระแสว่าอาจจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปพร้อมกันในวาระ เม.ย.นี้
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงการประชุม ก.ตร. และ ก.ต.ช.วันนี้ว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการโอนย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมารับราชการใน สตช.ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในการกระบวนการพิจารณาของที่ประชุม ก.ตร. และ ก.ต.ช. โดยยืนยันว่า สตช.ไม่ได้ส่งเรื่องขอตัว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมา แต่ตามขั้นตอนการรับโอนบุคคลใดกลับมารับราชการตำรวจ จะมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจน โดยส่วนใหญ่ต้องเริ่มจากความต้องการของหน่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมามีตำรวจที่กลับมารับราชการในตำแหน่งเท่าเดิม หรือสูงขึ้น เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็จะได้รับการพิจารณาในแนวทางนี้เช่นกัน
“ยังไม่ได้หมายตาว่าจะให้มารับผิดชอบงานด้านใด แต่ยอมรับว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้มีความสามารถ ขณะนี้จึงยังตอบไม่ได้ว่า กระบวนการจะเสร็จสิ้นเมื่อใด ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งไม่ได้หนักใจที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะกลับมาเป็นตำรวจ และไม่เข้าใจว่า ทำไมสังคมจึงให้ความสนใจ ถามกันเยอะ ถ้าจบกระบวนการทั้งหมด จะแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง” พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2564 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ มีวาระพิเศษ ขออนุมัติเปิดตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. (พล.ต.ท.) จำนวน 1 ตำแหน่ง, ผบช. (พล.ต.ท.) จำนวน 4 ตำแหน่ง และผบก. (พล.ต.ต.) จำนวน 4 ตำแหน่ง ไว้รองรับการโยกย้ายนายตำรวจที่มีส่วนพัวพัน ปล่อยปละละเลย และย่อหย่อน ตามนโยบายของนายกฯ และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เรื่องบ่อนการพนันและการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบ 2
โดยก่อนหน้านี้เคยเสนอเรื่องขออนุมัติเปิดตำแหน่ง ในที่ประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ที่ประชุม ก.ตร.มีมติให้นำเรื่องกลับมาศึกษารายละเอียดอีกครั้ง เพื่อกำหนดกรอบการทำหน้าที่บริหารและขับเคลื่อนงานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตามที่ ผบ.ตร. เสนอขออนุมัติในการเปิดตำแหน่ง คาดว่าอาจจะมีการนัดประชุม ก.ต.ช.ในคราวเดียวกัน เพื่อขอความเห็นชอบตามที่ก.ตร.เสนอขออนุมัติเปิดตำแหน่งให้ ก.ต.ช. พิจารณา สำหรับการเสนอขอเปิดตำแหน่งจะมีการเสนอในการประชุม ก.ตร. เพื่อเสนอแต่งตั้งข้าราชการการตำรวจช่วงปลายเดือน เม.ย.
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้โอนย้ายพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี กลับเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ หลังจากวันที่ 6 เม.ย.62 ใช้คำสั่ง คสช.โอนย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาเป็นข้าราชการพลเรือน ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) โดย ก.ตร.ต้องมีการพิจารณาเก้าอี้ที่จะให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาดำรงตำแหน่ง ตามระเบียบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมคือ ผู้บัญชาการ หรือตำแหน่งเทียบเท่า หรือตำแหน่งที่สูงกว่า โดยคาดหมายว่าอาจจะเป็นตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ (สบ.9) เทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่เป็นตำแหน่งประจำเฉพาะตัว โดยมีกระแสว่าอาจจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไปพร้อมกันในวาระ เม.ย.นี้
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวถึงการประชุม ก.ตร. และ ก.ต.ช.วันนี้ว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการโอนย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมารับราชการใน สตช.ด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในการกระบวนการพิจารณาของที่ประชุม ก.ตร. และ ก.ต.ช. โดยยืนยันว่า สตช.ไม่ได้ส่งเรื่องขอตัว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมา แต่ตามขั้นตอนการรับโอนบุคคลใดกลับมารับราชการตำรวจ จะมีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจน โดยส่วนใหญ่ต้องเริ่มจากความต้องการของหน่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมามีตำรวจที่กลับมารับราชการในตำแหน่งเท่าเดิม หรือสูงขึ้น เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็จะได้รับการพิจารณาในแนวทางนี้เช่นกัน
“ยังไม่ได้หมายตาว่าจะให้มารับผิดชอบงานด้านใด แต่ยอมรับว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้มีความสามารถ ขณะนี้จึงยังตอบไม่ได้ว่า กระบวนการจะเสร็จสิ้นเมื่อใด ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งไม่ได้หนักใจที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะกลับมาเป็นตำรวจ และไม่เข้าใจว่า ทำไมสังคมจึงให้ความสนใจ ถามกันเยอะ ถ้าจบกระบวนการทั้งหมด จะแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง” พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุ