xs
xsm
sm
md
lg

“กินบนเรือนขี้บนหลังคา” กับ “พวกลิงหลอกเจ้า”?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”


“บักกุย แซ่จู” ชาวนาจีนที่ตัดสินใจมาตายเอาดาบหน้า ด้วยการเดินทางหนีความยากจน จากเมืองซัวเถา ในแผ่นดินจีนอันไกลโพ้น เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระมหากษัตริย์ไทย

“หนุ่มซินตึ๊ง” เริ่มต้นอาชีพเข็นรถขายไอศกรีม อยู่บริเวณย่านบางกระบือ เก็บเงินส่วนใหญ่ส่งไปให้พ่อแม่ญาติพี่น้องที่เมืองจีน อีกส่วนหนึ่งสะสมไว้ นำมาลงทุนเช่าห้องแถวไม้สองชั้น ที่ซอยท่าเขียวไข่กาเปิดร้านกาแฟ “ง่วนยู่เชียง”

ซอยท่าเขียวไข่กาในอดีต มีท่าน้ำเล็กๆ ที่มี “เรือจ้าง” พายพาผู้คนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากบางกระบือไปบางพลัด สมัยนั้นยังไม่มีถนนหนทางเข้าถึงบ้านเรือน ซึ่งปลูกเรียงรายตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ยังมีรถรางไฟฟ้า วิ่งจากสนามหลวง มาสิ้นสุดปลายทางสี่แยกบางกระบือ ในซอยท่าเขียวไข่กา ทำให้ท่าน้ำแห่งนี้ คึกคักพลุกพล่านด้วยผู้คนสัญจรไปมามากยิ่งขึ้น

“บักกุย” เถ้าแก่ร้านกาแฟง่วนยู่เชียง ได้แต่งงานกับสาวชาวจีน “เซี่ยมง้อ” มีลูกชายหญิงด้วยกันถึงห้าคน ครอบครัวแซ่จู แม้มิได้ร่ำรวยเงินทอง แต่ก็อยู่กันตามอัตภาพอย่างมีความสุข บนผืนแผ่นดินไทยอันแสนสงบ

“บักกุย” กับ “เซี่ยมง้อ” เป็นชาวจีนคู่หนึ่ง ในหมู่ชาวจีนอพยพที่ล้วนพร้อมใจจงรักภักดีต่อ “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” เยี่ยงชาวไทย โดยพ่อแม่ปู่ย่าตายายชาวจีนในไทย จะสืบทอดคำสอนสั่ง ให้ลูกหลานจีนกตัญญูไม่ลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ที่สำคัญยิ่งคือจงรักภักดีต่อ “พระเจ้าแผ่นดินไทย”

ชาวจีนอพยพ-ที่ร่ำรวยนับพัน-นับหมื่น-นับแสนล้านบาท ฯลฯ “ลูกหลานจีนส่วนใหญ่” ล้วนจงรักภักดีด้วยใจจริง ต่อ “พระเจ้าแผ่นดินไทยทุกพระองค์” อีกทั้งลูกหลานจีนส่วนใหญ่ ล้วนรักแผ่นดินไทยด้วยใจจริงกันทั้งนั้น เพราะพวกเขามีจิตวิญญาณเยี่ยงคนไทย

แต่เพราะการเมืองประชาธิปไตยทุนสามานย์ไทยนั้น เนื้อแท้เป็น “ธนา-คณา-โจราธิปไตย” ทำให้ลูกจีนกับชาวไทยทุกคนได้รู้ว่า มีชาวจีนอพยพบางคนที่ร่ำรวยเงินทองมหาศาล มิได้จงรักภักดีต่อ “สถาบันพระมหากษัตริย์”

เรื่องคร่าวๆ ของ “เหลี่ยม” เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ซึ่งร่วมทำกับ “บิ๊กภรรยา” แต่ธุรกิจไม่ค่อยราบรื่น ด้วย “คู่จิ้นชิน”ขัดสนเงินทองพอสมควร จนธุรกิจเล็กๆจะล้มมิล่มแหล่ หนี้สินพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคดีที่ “เหลี่ยม” มี “พ่อ” กับเครือญาติ เป็น “นักการเมือง” แถวเมืองเหนือ จึงมีเครือข่ายทางการเมืองให้วิ่งเต้น แถมมี “นักการเมืองไทยขี้ฉ้อ” อยู่เต็มไปหมดในสภาฯ

รวมทั้ง “ผู้มีอำนาจ” ใหญ่น้อยในรัฐบาลยุคนั้น ก็เจรจาต้าอ่วยจ่ายใต้โต๊ะกันได้อีกด้วย จึงทำให้นักธุรกิจอย่าง “เหลี่ยมจน” โชคดีมีโอกาสพลิกชีวิตเป็น“เหลี่ยมรวย” จากการผูกขาดธุรกิจด้านโทรคมนาคม จนกลาย เป็น “เหลี่ยมมหาเศรษฐี” ร่ำรวยนับหมื่นๆล้าน..
“มนุษย์เหลี่ยมธรรมดา” ในวันก่อน จึงเป็น “มนุษย์เหลี่ยมมหาเศรษฐี” ในวันนี้!
ส่วน “เตี่ยพัด” ของ “ครอบครัวตี๋ทอน” ก็หนีความยากจนจากจีนมาอยู่ไทย โดยเริ่มจากการขายก๋วยเตี๋ยว จากนั้นนำเงินเก็บออมมาลงทุน เปิดร้านห้องแถวตัดเย็บเบาะรถบนถนนทรัพย์ และค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ

“เถ้าแก่พัด” ร้านทำเบาะปิ๊งกับ “หมวยพอน” ก่อเกิด “อาตี๋อาหมวยหลายคน” โดย “ตี๋ทอน” เป็นลูกชายคนโตของตระกูล ที่ได้ขยายกิจการมาผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบรถยนต์ เมื่อบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาค้าขายรถยนต์ในไทย บริษัท “เตี่ยพัด” ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทว่าห้วงที่กำลังร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล “ครอบครัวตี๋ทอน” ก็ต้องสูญเสีย “เตี่ยพัด” ชั่วนิรันดร์

“ครอบครัวตี๋ทอน” เหลือเพียง “เถ้าแก่เนี้ย” ทว่า เธอเป็น “มนุษย์แม่ไม่ธรรมดา” ด้วยความเป็น “มนุษย์แม่มหาเศรษฐี” ที่เอาอกเอาใจลูกราวเทวดา จนทำให้ “ตี๋ทอน” สันดานเสีย กลายเป็นโรคที่ผู้คนเรียกขานว่า “ฮ่องเต้ซินโดรม”

มนุษย์แบบ “เหลี่ยม-ทอน” พวกฝรั่งมังค่าถือเป็น “มนุษย์ขี้โอ่” หากยังไม่รวยก็โนพร็อบเบล็ม ทว่าเมื่อร่ำรวยก็จะหลับหูหลับตางดใช้สมองน้อยนิด หันไปเชื่องมงายว่า ตนเป็น “เทพเจ้าแห่งความถูกต้อง” เพราะ “เหลี่ยม-ทอน” เชื่อว่า ตนเป็น “ร่างทรงหนึ่งบวกสอง” นั่นคือ

หนึ่ง-เป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์ “เหมาเจ๋อตุง” สอง-เป็นจอมเผด็จการโหดหนวดจิ๋ม “ฮิตเลอร์” ผู้สวมเสื้อคลุมประชาธิปไตยเลือกตั้ง ที่มาสิงในร่าง “เหลี่ยม-ทอน”..

เฮ้อ..แค่ “นักการเมืองเหลี่ยม” คนเดียว ซึ่งดวงตาไม่เห็นธรรม กลับ “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” แถมยังดันได้เป็น “เบอร์หนึ่ง”ในการบริหารชาติไทย เล่นเอาชาติกับประชาชนไทย เสียหายวินาศสันตะโรอย่างมหาศาลมาแล้ว

ตอนนี้ “เหลี่ยม” จอมเขี้ยว ยังเล่นการเมืองลับๆ มาจากต่างแดน แบบ “สายลับหลายหน้า” โดยใช้แผนอุบาทว์ “โลกล้อมไทย” ที่ “เหลี่ยม” ใช้เงินจ้างบริษัทลอบบี้ยีสต์มะกัน ดึงนักการเมืองและสื่อตะวันตก ให้หนุนความปั่นป่วนและรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุม มุ่งให้บานปลายสู่การจลาจล ดังที่ “ตี๋ทอน” กำลังใช้ “แกนนำม็อบ” ป่วนชาติบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้เพื่อทำให้เกิดสถานการณ์เลวร้าย แบบเดียวกับที่เกิดในเวเนซูเอลา ซึ่งมี “นายกฯ กุยโด” ที่ชาติมะกันกับชาติตะวันตกหนุน ขึ้นมาซ้อนทับ “นายกฯ เลือกตั้ง” ของประชาชน

“เหลี่ยม-ทอน” จึงต้องสร้าง “นายกฯ หุ่น” ขึ้นมาซ้อนทับกับ “นายกฯ ตัวจริง” ของไทยโดยเร็วที่สุด!

“เหลี่ยม” รู้ว่า “ตี๋ทอน” กระหายอำนาจ อีกทั้งคิดน้อย และกล้าชนกับทุกฝ่าย ที่อยู่ตรงข้ามกับการเมืองทุนสามานย์แบบ “เหลี่ยม” และ “ตี๋ทอน” และพรรคพวก

“เหลี่ยม” ยังรู้ลึกถึงธาตุแท้ “ตี๋ทอน” ว่า พร้อมจะเป็น “นายกฯ หุ่น” ให้ชาติตะวันตกเชิด ทับซ้อนกับ “นายกฯ ตู่” หรือ “นายกฯ ไทย” คนไหนก็ตาม เพื่อทำให้สถานการณ์ชาติไทย วุ่นวายสุดๆ แบบเดียวกับเวเนซูเอลา เปิดทางให้มะกันกับชาติตะวันตก เข้ามาแสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์ในชาติไทย โดยมีอำนาจรัฐไทยอยู่ในมือ “เหลี่ยม-ตี๋ทอน” ไงล่ะ

“นักการเมืองตี๋ทอน” ที่หลงผิดอย่างมหันต์ ขนาดยังไม่มีโอกาสเป็น “เบอร์หนึ่ง” ยังกล้าจูง “นักการเมือง” ในอาณัติของตนในสภา พร้อมกับลากเอา “แกนนำม็อบ” ออกมาปฏิบัติการเคลื่อนไหวชุมนุมทุกรูปแบบ เพื่อป่วนชาติบ้านเมืองอย่างต่อเนื่องอยู่บนท้องถนน..

น่าเสียดาย! มหาเศรษฐี “เหลี่ยม” กับ “ตี๋ทอน” ลูกชายมหาเศรษฐี ควรจะใช้ชีวิตกับเงินทองมากมายกับครอบครัว อย่างสุขกายสุขใจบนแผ่นดินไทย..

บุญมีแต่กรรมบัง “เหลี่ยม-ตี๋ทอน” กลับยึดมั่นความคิดแบบผิดๆ เพราะดันทำร้ายทำลายตัวเองอย่างสิ้นคิด ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี กลับเป็น “วัวลืมตีน” จึง “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” ถึงกับเหิมเกริมบังอาจสมคบ “คิด” และ “ทำ” เรื่อง “ล้มเจ้า”!

ประจวบกับ “นายกฯ บิ๊กตู่” ทำให้รัฐประหาร “เสียของ” เป็น “มวยล้มต้มคนดู” เพราะ “เยี่ยวไม่สุด” ดันปล่อยให้การเลือกตั้งมีซื้อเสียงและโกงได้ “นักการเมือง” จึงสกปรกโสมม การคอร์รัปชั่นโกงชาติยังเบ่งบานทุกหย่อมหญ้า ความเหลื่อมล้ำทวีขึ้น การปฏิรูปชาติยังไม่เกิดยังไม่มีสักเรื่อง ฯลฯ

ถ้า “บิ๊กตู่” ยังคงเป็นนายกฯผลงานดีน้อย ยังคงไม่แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ให้ชาติ “บิ๊กตู่” จะทำให้สถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ กับประชาชน ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

“เหลี่ยม-ตี๋ทอน” กับมะกันและชาติตะวันตก จะใช้ “ม็อบล้มเจ้า” ออกมาป่วนชาติ เคลื่อนไหวสารพัดวิธี เพื่อสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนไทย ขับไล่รัฐบาลไทย กองทัพไทย บั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ฯลฯ

“บักกุย” เคยพูดกับ “ตี๋แมลงปอ” ผู้ลูกว่า “พวกลิงหลอกเจ้า” น่ากลัวที่สุด เพราะ “เขาชอบพูดว่ารักในหลวง-แต่เขาไม่ได้รักและไม่ทำเพื่อในหลวงจริง”!

ระวังเถอะ! “ลุงตู่-บิ๊กตู่-นายกฯ ตู่” ที่กล้าๆ กลัวๆ แถมไร้วิสัยทัศน์ ถ้ายังไม่เร่งแก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ให้ชาติกับประชาชน อันตรายอย่างใหญ่หลวงจะมาเยือนนะเว้ยเฮ้ย..!


กำลังโหลดความคิดเห็น