ผู้จัดการรายวัน360-คลังเล็งขอ ครม. อนุมัติงบโครงการ “เราชนะ” เพิ่ม หลังประเมินมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิถึง 32 ล้านคน จากเป้าหมายเดิม 31.1 ล้านคน เผยยอดลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนอาจพุ่งถึง 1.8 ล้านคน จากที่เคยประเมินจะอยู่ที่ 1 ล้านคนเท่านั้น เผยยอดใช้จ่ายเราชนะช่วงหยุดพุ่ง 2.16 หมื่นล้านบาท หนุนเม็ดเงินลงระบบเศรษฐกิจ 6.68 หมื่นล้านบาท
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติจัดสรรงบเพิ่มเติมเพื่อใช้ในโครงการ “เราชนะ” เนื่องจากประเมินว่าจะมีจำนวนผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการนี้มากกว่าเป้าหมาย 31.1 ล้านคน โดยอาจจะอยู่ที่ 32 ล้านคน
โดยปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะแล้วจำนวนประมาณ 31.05 ล้านคน จากกลุ่มต่างๆ ดังนี้ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคน กลุ่มผู้ร่วมโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน จำนวน 8.4 ล้านคน และกลุ่มทั่วไปที่เปิดให้ลงทะเบียน 8.95 ล้านคน โดย ครม. ได้อนุมัติงบโครงการเราชนะไว้จำนวน 2.1 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เปิดให้กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำการลงทะเบียนผ่านแบงก์รัฐและจุดบริการเคลื่อนที่ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้วประมาณกว่า 1.5 ล้านราย คาดว่าอาจจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1.7-1.8 ล้านราย มากกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งไว้เพียง 1 ล้านราย ดังนั้น เมื่อนำไปรวมกับกลุ่มที่ได้รับสิทธิเดิม จะทำให้มีจำนวนรายที่จะได้รับการเยียวยาเพิ่มจากเป้าหมายเดิม โดยอาจจะเพิ่มขึ้นไปถึงจำนวน 32 ล้านราย
“กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนที่มาลงทะเบียนผ่านแบงก์รัฐและจุดบริการเคลื่อนที่นี้ เราพบว่า มีจะมีความซ้ำซ้อนกับยอดที่ลงทะเบียนทั่วไปด้วยเช่นกัน โดยในระยะแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนอาจจะใช้สมาร์ทโฟนบุคคลในครอบครัวมาลงทะเบียนก่อน จากนั้นเมื่อรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนผ่านจุดบริการและแบงก์รัฐ จึงมาลงทะเบียนเพิ่มเติม ดังนั้น ยอดลงทะเบียนจริงของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนอาจจะอยู่ที่ 1.7-1.8 ล้านราย”
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยใช้เงื่อนไขเดียวกันกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-21 ก.พ.2564 จะเริ่มตรวจสอบสิทธิได้ในวันที่ 4 มี.ค.2564 และได้รับการโอนเงินรอบแรกวันที่ 5 มี.ค.2564 ส่วนในกลุ่มที่ลงทะเบียนในช่วงที่รัฐขยายระยะเวลาการลงทะเบียนให้ คือ นับจาก 21 ก.พ.-5 มี.ค.2564 จะค่อยๆ ทยอยประกาศสิทธิ์ และจะได้รับเงินโอนรอบแรกในวันที่ 19 มี.ค.2564
สำหรับผลการใช้วงเงินสิทธิ์โครงการเราชนะ ในช่วงวันหยุด 26–28 ก.พ.2564 มีการใช้จ่ายรวมกันมากกว่า 21,600 ล้านบาท ส่งผลให้ล่าสุด มีการใช้จ่ายผ่านโครงการและเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 6.68 หมื่นล้านบาท
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติจัดสรรงบเพิ่มเติมเพื่อใช้ในโครงการ “เราชนะ” เนื่องจากประเมินว่าจะมีจำนวนผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการนี้มากกว่าเป้าหมาย 31.1 ล้านคน โดยอาจจะอยู่ที่ 32 ล้านคน
โดยปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะแล้วจำนวนประมาณ 31.05 ล้านคน จากกลุ่มต่างๆ ดังนี้ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคน กลุ่มผู้ร่วมโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน จำนวน 8.4 ล้านคน และกลุ่มทั่วไปที่เปิดให้ลงทะเบียน 8.95 ล้านคน โดย ครม. ได้อนุมัติงบโครงการเราชนะไว้จำนวน 2.1 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เปิดให้กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำการลงทะเบียนผ่านแบงก์รัฐและจุดบริการเคลื่อนที่ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้วประมาณกว่า 1.5 ล้านราย คาดว่าอาจจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1.7-1.8 ล้านราย มากกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งไว้เพียง 1 ล้านราย ดังนั้น เมื่อนำไปรวมกับกลุ่มที่ได้รับสิทธิเดิม จะทำให้มีจำนวนรายที่จะได้รับการเยียวยาเพิ่มจากเป้าหมายเดิม โดยอาจจะเพิ่มขึ้นไปถึงจำนวน 32 ล้านราย
“กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนที่มาลงทะเบียนผ่านแบงก์รัฐและจุดบริการเคลื่อนที่นี้ เราพบว่า มีจะมีความซ้ำซ้อนกับยอดที่ลงทะเบียนทั่วไปด้วยเช่นกัน โดยในระยะแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนอาจจะใช้สมาร์ทโฟนบุคคลในครอบครัวมาลงทะเบียนก่อน จากนั้นเมื่อรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนผ่านจุดบริการและแบงก์รัฐ จึงมาลงทะเบียนเพิ่มเติม ดังนั้น ยอดลงทะเบียนจริงของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนอาจจะอยู่ที่ 1.7-1.8 ล้านราย”
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยใช้เงื่อนไขเดียวกันกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-21 ก.พ.2564 จะเริ่มตรวจสอบสิทธิได้ในวันที่ 4 มี.ค.2564 และได้รับการโอนเงินรอบแรกวันที่ 5 มี.ค.2564 ส่วนในกลุ่มที่ลงทะเบียนในช่วงที่รัฐขยายระยะเวลาการลงทะเบียนให้ คือ นับจาก 21 ก.พ.-5 มี.ค.2564 จะค่อยๆ ทยอยประกาศสิทธิ์ และจะได้รับเงินโอนรอบแรกในวันที่ 19 มี.ค.2564
สำหรับผลการใช้วงเงินสิทธิ์โครงการเราชนะ ในช่วงวันหยุด 26–28 ก.พ.2564 มีการใช้จ่ายรวมกันมากกว่า 21,600 ล้านบาท ส่งผลให้ล่าสุด มีการใช้จ่ายผ่านโครงการและเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 6.68 หมื่นล้านบาท