ผู้จัดการรายวัน360-กลุ่มราษฎรนัดรวมพลชุมนุม “ม็อบตำรวจล้มช้าง” วันที่ 23 ก.พ.นี้ 5 โมงเย็น ที่ราชประสงค์ พร้อมชวนตำรวจมาร่วมล้มช้าง โฆษกตำรวจเตือน มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.โรคติดต่อ หากชุมนุมจะผิดกฎหมาย เชื่อไม่มีตำรวจร่วมม็อบ “บิ๊กตู่” ย้ำหากมีเหตุรุนแรง สร้างความเดือดร้อน จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย พร้อมยันไม่มีความขัดแย้งในสตช. รับห้ามยากคนขอตำแหน่ง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ก.ตร. ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว “อานนท์-เพนกวิน” แกนนำคณะราษฎรกับพวกรวม 4 คน หลัง “ชาญวิทย์” นักวิชาการประวัติศาสตร์มายื่นประกัน ระบุไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ราษฎร” รวมถึงเพจเครือข่ายต่างๆ เช่น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมถึงช่องทางอื่นๆ ในทวิตเตอร์ และในเทเลแกรม ได้โพสต์แจ้งการชุมนุม โดยระบุข้อความว่า “ราษฎรกระจายข่าว ม็อบตำรวจล้มช้าง ผลงานดี ผลงานเด่น ถ้าไม่วิ่งเต้นก็อยู่กับที่ เราจะชวนพี่ตำรวจทุกคนที่ไม่มีตั๋วช้าง มาล้มช้างกัน ตำรวจเอ๋ยยย ถึงเวลาเลือก จะอยู่ข้างราษฎร หรือทรราชย์
วันอังคารที่ 23 ก.พ. พบกันราชประสงค์ เวลา 17.00 น. พบกิจกรรมสนุกๆ ภายในม็อบ ของแจก ของแถม ช้างๆ ทั้งนั้น ปิดท้ายด้วยบทเพลงที่คุณไม่ต้องซ้อม ก็ร้องกันได้ อย่าลืม!!! มาล้มช้างด้วยกันนนนน ผู้พิทักษ์สันติราษฎรจะฟาดตั๋วช้าง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีเฟซบุ๊ก ภาคีนิรนาม-Anonymous Party โพสต์ชักชวนร่วมม็อบตำรวจล้มช้าง ว่า ขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หากมาชุมนุมจะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ยืนยันว่าจะทำอย่างละมุนละม่อม ไม่ให้เกิดความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมในวันนี้ มีการเชิญชวนให้ตำรวจออกมาร่วมชุมนุมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า หากอยู่ในสภาวะปกติ คงเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ช่วงนี้การมารวมตัวชุมนุมเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย การที่ตำรวจจะมาเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ทำผิดเสียเอง ตนคิดว่าทุกคนคงพิจารณาว่าควรจะมาหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีตำรวจเข้าร่วมชุมนุม ส่วนการมาสังเกตการณ์เพื่อทำตามหน้าที่ สามารถทำได้ และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีนโยบายว่ามาได้หรือไม่ได้ เพราะกฎหมายบอกไว้อยู่แล้ว
ถามว่ากรณีสภาอภิปรายเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ตร. จะมีนโยบายให้ตำรวจมั่นใจอย่างไรว่าในอนาคตจะเป็นไปตามขั้นตอน พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า นโยบายของนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ที่ผ่านมา ก็เป็นไปตามอาวุโส ที่ ก.ตร. กำหนด และส่วนหนึ่งก็เป็นไปตามผู้มีความรู้ความสามารถ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมาย ก็ชุมนุมไป แต่ถ้าสร้างความเดือดร้อน สร้างความรุนแรง หรือมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายเท่านั้นเอง
ส่วนกรณีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่มีความขัดแย้งอะไรหรอก เดี๋ยวก็ทำให้มันถูกต้อง บางครั้ง เอกสารบางอย่างมันก็ไม่ควรจะออกมา อย่างไม่ควรจะออก เพราะมันเป็นเรื่องการดำเนินการภายในของตัวเอง ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง ตนเองก็เคยพูดไปแล้วว่าใครจะเสนออะไรมาก็ได้ แต่ก็เป็นเรื่องการพิจารณาของ สตช. ได้ หรือไม่ได้ ก็ว่ากันไปตามนั้น ตนในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็อนุมัติตามที่คณะกรรมการ ก.ตร. เสนอขึ้นมา ซึ่งคณะกรรมการมีหลายคณะและมีคณะอนุกรรมการตรวจสอบคัดกรองคุณสมบัติต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าขออะไรมาแล้วก็ได้หมด
“ยอมรับว่าห้ามคนขอเป็นเรื่องยาก ขอร้องอย่าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอื่นๆ ยืนยันว่าไม่เกี่ยว”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเรียก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า เอาไว้ฉันทำของฉันอยู่แล้ว นายกฯ ทำทุกเรื่องอยู่แล้ว ถ้าจะทำให้เร็วขึ้นตอบคำถามให้ได้ พวกเธอก็เรียกเขามาคุยเองซิ เธอเป็น ผบ.ตำรวจแห่งชาติหรือเปล่า ถ้าไม่ได้เป็น ก็ไม่ต้องพูดมาก โอเคนะ
วันเดียวกันนี้ ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการประวัติศาสตร์ และนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ได้เดินทางมายื่นประกันตัวนายอานนท์ นำภา , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน , นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 1-4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ซึ่งถูกคุมขังไม่ได้รับการประกันตัวจากคำสั่งศาลอาญาและศาลอุทธรณ์ หลังถูกยื่นฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ศาลให้เหตุผลว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยแสดงเหตุผลไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 4 คนไป อาจจะไปก่อเหตุภยันตรายเดียวกันกับที่ถูกฟ้องอีก จึงยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ยกคำร้อง คือ ยังไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ทั้ง 4 คน ต้องถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไปจนกว่าคดีจะเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ราษฎร” รวมถึงเพจเครือข่ายต่างๆ เช่น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมถึงช่องทางอื่นๆ ในทวิตเตอร์ และในเทเลแกรม ได้โพสต์แจ้งการชุมนุม โดยระบุข้อความว่า “ราษฎรกระจายข่าว ม็อบตำรวจล้มช้าง ผลงานดี ผลงานเด่น ถ้าไม่วิ่งเต้นก็อยู่กับที่ เราจะชวนพี่ตำรวจทุกคนที่ไม่มีตั๋วช้าง มาล้มช้างกัน ตำรวจเอ๋ยยย ถึงเวลาเลือก จะอยู่ข้างราษฎร หรือทรราชย์
วันอังคารที่ 23 ก.พ. พบกันราชประสงค์ เวลา 17.00 น. พบกิจกรรมสนุกๆ ภายในม็อบ ของแจก ของแถม ช้างๆ ทั้งนั้น ปิดท้ายด้วยบทเพลงที่คุณไม่ต้องซ้อม ก็ร้องกันได้ อย่าลืม!!! มาล้มช้างด้วยกันนนนน ผู้พิทักษ์สันติราษฎรจะฟาดตั๋วช้าง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีเฟซบุ๊ก ภาคีนิรนาม-Anonymous Party โพสต์ชักชวนร่วมม็อบตำรวจล้มช้าง ว่า ขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หากมาชุมนุมจะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ยืนยันว่าจะทำอย่างละมุนละม่อม ไม่ให้เกิดความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมในวันนี้ มีการเชิญชวนให้ตำรวจออกมาร่วมชุมนุมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า หากอยู่ในสภาวะปกติ คงเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ช่วงนี้การมารวมตัวชุมนุมเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย การที่ตำรวจจะมาเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ทำผิดเสียเอง ตนคิดว่าทุกคนคงพิจารณาว่าควรจะมาหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีตำรวจเข้าร่วมชุมนุม ส่วนการมาสังเกตการณ์เพื่อทำตามหน้าที่ สามารถทำได้ และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีนโยบายว่ามาได้หรือไม่ได้ เพราะกฎหมายบอกไว้อยู่แล้ว
ถามว่ากรณีสภาอภิปรายเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ตร. จะมีนโยบายให้ตำรวจมั่นใจอย่างไรว่าในอนาคตจะเป็นไปตามขั้นตอน พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า นโยบายของนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ที่ผ่านมา ก็เป็นไปตามอาวุโส ที่ ก.ตร. กำหนด และส่วนหนึ่งก็เป็นไปตามผู้มีความรู้ความสามารถ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมาย ก็ชุมนุมไป แต่ถ้าสร้างความเดือดร้อน สร้างความรุนแรง หรือมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายเท่านั้นเอง
ส่วนกรณีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่มีความขัดแย้งอะไรหรอก เดี๋ยวก็ทำให้มันถูกต้อง บางครั้ง เอกสารบางอย่างมันก็ไม่ควรจะออกมา อย่างไม่ควรจะออก เพราะมันเป็นเรื่องการดำเนินการภายในของตัวเอง ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง ตนเองก็เคยพูดไปแล้วว่าใครจะเสนออะไรมาก็ได้ แต่ก็เป็นเรื่องการพิจารณาของ สตช. ได้ หรือไม่ได้ ก็ว่ากันไปตามนั้น ตนในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็อนุมัติตามที่คณะกรรมการ ก.ตร. เสนอขึ้นมา ซึ่งคณะกรรมการมีหลายคณะและมีคณะอนุกรรมการตรวจสอบคัดกรองคุณสมบัติต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าขออะไรมาแล้วก็ได้หมด
“ยอมรับว่าห้ามคนขอเป็นเรื่องยาก ขอร้องอย่าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอื่นๆ ยืนยันว่าไม่เกี่ยว”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเรียก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า เอาไว้ฉันทำของฉันอยู่แล้ว นายกฯ ทำทุกเรื่องอยู่แล้ว ถ้าจะทำให้เร็วขึ้นตอบคำถามให้ได้ พวกเธอก็เรียกเขามาคุยเองซิ เธอเป็น ผบ.ตำรวจแห่งชาติหรือเปล่า ถ้าไม่ได้เป็น ก็ไม่ต้องพูดมาก โอเคนะ
วันเดียวกันนี้ ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการประวัติศาสตร์ และนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ได้เดินทางมายื่นประกันตัวนายอานนท์ นำภา , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน , นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 1-4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ซึ่งถูกคุมขังไม่ได้รับการประกันตัวจากคำสั่งศาลอาญาและศาลอุทธรณ์ หลังถูกยื่นฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ศาลให้เหตุผลว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยแสดงเหตุผลไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 4 คนไป อาจจะไปก่อเหตุภยันตรายเดียวกันกับที่ถูกฟ้องอีก จึงยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ยกคำร้อง คือ ยังไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ทั้ง 4 คน ต้องถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไปจนกว่าคดีจะเสร็จ