ผู้จัดการรายวัน360-“บิ๊กตู่”ไม่แคร์คะแนนโหวตมากน้อย วัดกันที่ผ่าน ไม่ผ่าน ยอมรับแซว “ธรรมนัส” แค่แหย่กันเล่น โยนปัญหาความขัดแย้งเป็นเรื่องพรรคการเมืองต้องไปคุยกันเอง ชี้กระแสข่าวปรับ ครม. สื่อปลุกปั่น “บิ๊กป้อม” ยันเคลียร์ใจพรรคร่วมแล้ว พปชร.ตั้งคณะกรรมการสอบ 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์และ 1 ส.ส.ระยอง แหกมติพรรค ขีดเส้น 15 วันรู้ผล “ณัฏฐพล” ไม่เสียกำลังใจ หลังได้คะแนนโหวตน้อยสุด “สงคราม” ระบุ 3 ส.ส.เพื่อชาติ โหวตไว้วางใจ “ธรรมนัส” เหตุชี้แจงเคลียร์ ไม่เกี่ยวรับเงิน ฝ่ายค้านตั้งทีมกฎหมาย เช็กบิล 10 รัฐมนตรี “คารม” แตกหักก้าวไกล ไม่สนถูกขับ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า เรื่องต่างๆ ที่มีการอภิปรายในสภา ก็รับทั้งหมด อะไรที่เป็นข้อสังเกต ที่เป็นประโยชน์ ที่ต้องแก้ไข ที่จะต้องติดตามสอบสวนอะไรก็ว่าไป อันนี้เป็นเรื่องการทำงานในระบบการบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องคะแนนโหวต จะส่งผลกระทบถึงการทำงาน ถึงขั้นปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ควันหลงเป็นเรื่องการเมือง ตนไม่ให้ความสำคัญตรงนี้สักเท่าไร ตนดูที่ว่าจะแก้ไขอย่างไร แต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไร ให้สามารถตอบรับความต้องการของประชาชนได้ และเรื่องการทุจริต ก็ไปสอบสวนกัน เรื่องระหว่างพรรค ก็เป็นเรื่องของพรรค มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด ไม่ใช่มาเกิดเฉพาะวันนี้ ก็ต้องปฏิรูปตัวเองกันด้วย ทั้งในสภา นอกสภา อะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ตำหนิใคร
ส่วนใครได้คะแนนมาก น้อย มันผ่านการอภิปรายก็จบ แม้ตนได้น้อย ก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะตนก็ผ่าน เขากำหนดกันตรงนั้นไม่ใช่หรือ และการปรับ ครม. สื่อเป็นคนปลุกปั่นขึ้นมาเอง ไม่เคยพูด สำหรับกรณีการแซว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ได้คะแนนมาก คราวหน้าให้มาเป็นนายกฯ นั้น พูดแหย่ พูดเล่นกัน ไม่ได้หรืออย่างไร จะจับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องไม่ได้ บางเรื่องก็แสดงความยินดี ได้มากหน่อย น้อยหน่อย ก็ไม่เป็นไร มันก็ผ่าน จะแซวอะไรกันเป็นเรื่องภายใน แหย่กันเล่นไม่ได้หรือไง
“บิ๊กป้อม”เคลียร์ใจพรรคร่วมเรียบร้อย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรค พปชร. กลุ่มดาวฤกษ์โหวตสวนมติพรรค ว่า เดี๋ยวจะไปชี้แจงกับพรรคร่วมเอง และกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็คุยแล้ว ไม่มีอะไร แต่หากถามว่าติดใจหรือไม่ ก็ธรรมดา ถ้าคุณโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างนี้ เขาก็อยากจะรู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร
เดือดจัดเอ่ยถึงขั้นตะเพิดพ้นพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธาน เพื่อพิจารณามาตรการลงโทษ กรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ และ 1 ส.ส.ระยอง ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สวนกับแนวทางของพรรค โดยพล.อ.ประวิตร แสดงท่าทีไม่พอใจต่อการกระทำของ ส.ส.ดังกล่าว พร้อมระบุว่า “โหวตอย่างนี้ รับไม่ได้ แล้วไม่ต้องโพสต์อะไรอีก อย่างนี้มันต้องขับออก ไปรับปากเขามา เขาก็ให้เราเต็ม แต่เรามีปัญหา พรรคเราเสียหาย มันต้องมีบทลงโทษ ทำไมตอนถามในการประชุมพรรค เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ว่ามีปัญหาอะไร แล้วไม่บอก” ส่งผลให้ กก.บห. ที่ร่วมประชุมต่างนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่ค่อยเห็นการแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้ของ พล.อ.ประวิตร จากนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ฝ่ายกฎหมาย ได้เสนอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณาก่อน
พปชร.ตั้งกรรมการสอบกลุ่มดาวฤกษ์
นายไพบูลย์กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี 7 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค จากการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีตนเป็นประธาน โดยจะเชิญ ส.ส.ทั้ง 7 ราย มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ดูตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร และข้อบังคับของพรรคอย่างเคร่งครัด มีระยะเวลาในการพิจารณา 15 วัน เมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอกรรมการบริหารพรรคต่อไป ยืนยันว่า มาตรฐานของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าสูงที่สุด
“เดียร์”ขออภัยนำกลุ่มสวนมติพรรค
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพปชร. โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก กรณีงดออกเสียงให้นายศักดิ์สยาม ว่า เดียร์และเพื่อน ส.ส.ต้องขออภัยพล.อ.ประวิตร และเพื่อนส.ส. แต่ยังเชื่อมั่นในการแสดงออก ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้ความเป็นประชาธิปไตย
พปชร.ต้องสางปม 6 ส.ส.ดาวฤกษ์
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานวิปพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ งดออกเสียงโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศักดิ์สยาม ว่า เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. และเป็นเรื่องภายในของพรรค พปชร. ที่จะต้องดำเนินการ เพราะเป็นมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องอยู่ร่วมกัน
“ณัฏฐพล”ยันไม่เสียกำลังใจ
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร คิดว่าตนเองตอบข้อซักถามได้ และสมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ลงคะแนนไว้วางใจให้ตนครบ มีเพียงในส่วนของพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือไม่พอใจในคำตอบที่ตนตอบ จึงเลือกที่จะไม่ไว้วางใจ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ทำให้เสียกำลังใจ
3ปชป.โหวตสวนมติรอ “เฉลิมชัย”สะสาง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการลงคะแนนเสียงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมี 3 ส.ส.จากพรรค ปชป. งดออกเสียงไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคว่า มันเป็นเรื่องภายในพรรคที่ต้องไปดำเนินการจัดการปัญหาภายในของพรรค โดยหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคไปดำเนินการ ก็ต้องคอยดูว่าเลขาฯ พรรค จะดำเนินการอย่างไร
“สงคราม” ปัดรับเงิน “ธรรมนัส”
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อชาติ 3 คน โหวตไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส ว่า เนื่องจากพรรคมีความเป็นประชาธิปไตย ยึดหลักความเป็นธรรม และ ส.ส. ของพรรคทำตามมติพรรค คือ ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 9 คน แต่สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรรคมีมติโหวตไว้วางใจ เพราะเห็นว่าสามารถชี้แจงข้อเท็จจริง และตอบข้อซักถามได้ จึงให้ความเป็นธรรม และยกมือโหวต และยึดหลักเหตุผลเป็นหลัก มิใช่รับเงินแต่อย่างใด ตนมีเงินมากพอแล้ว และไม่ใช่คนโลภ ไม่จำเป็นต้องรับเงินจากใคร
ฝ่ายค้านตั้งทีมกฎหมายเช็กบิลต่อ
ที่พรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า แกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมกันประชุมเพื่อสรุปผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยพบว่ามีรัฐมนตรีหลายคน อยู่ในข่ายที่จะพิจารณาส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป.ป.ช. โดยจะตั้งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายขึ้นมาหนึ่งคณะ เพื่อพิจารณาความผิดของรัฐมนตรีแต่ละบุคคลว่าจะยื่นในลักษณะใด หลังพิจารณาแล้ว คงต้องพึ่งทาง ป.ป.ช. โดยจะพิจารณา 2 กรณี คือ 1.ความผิดทางอาญา และ 2.ความผิดทางจริยธรรม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แต่ละพรรคมีเจ้าภาพหลักในการอภิปรายรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ดังนั้น จะแบ่งกันรับผิดชอบการยื่นเรื่องรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่ตัวเองอภิปรายไปยังองค์กรอิสระ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มี 3 คน ที่จะถูกยื่นร้องแน่นอน คือ พล.อ.ประยุทธ์ , นายจุรินทร์ และนายณัฏฐพล แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบแค่นี้ ไม่ได้มีมาตรการเพียงเท่านี้ เพราะรัฐมนตรีบางท่าน อาจไม่ถูกยื่นไปยังองค์กรอิสระ แต่จะมีมาตรการทางการเมือง ในการดำเนินการกับรัฐมนตรีทั้ง 10 คน ซึ่งทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบ
“คารม” แตกหักก้าวไกล ไม่แคร์ถูกขับ
นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีโหวตไว้วางใจนายอนุทิน กับนายศักดิ์สยาม ซึ่งเป็นการโหวตสวนมติพรรคก้าวไกลว่า ทราบว่าพรรคมีมติไม่ขับตนออกจากพรรค แต่จะมีนโยบายลงโทษทางวินัย โดยการไม่ให้ร่วมกิจการของพรรค หรือแม้แต่การประชุมของพรรค ซึ่งอยากบอกว่าที่ผ่านมา ไม่ได้ร่วมกิจการของพรรคมา 1 ปีแล้ว ส่วนการประชุมตน ก็เข้าน้อยมาก และพรรคก็ไม่เคยมอบหมายงานให้ทำ ส่วนการร่วมงานกับเพื่อนภายในพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และขณะนี้ ก็เป็นกรรมาธิการคมนาคมเพียงคณะเดียว ถ้าพรรคไม่ให้ทำงาน ก็คือ ในนามพรรค แต่ถ้านามส่วนตัว ส.ส.ห้ามไม่ได้ เพราะถ้าห้ามจะขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมายรับรองสิทธิไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติใคร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า เรื่องต่างๆ ที่มีการอภิปรายในสภา ก็รับทั้งหมด อะไรที่เป็นข้อสังเกต ที่เป็นประโยชน์ ที่ต้องแก้ไข ที่จะต้องติดตามสอบสวนอะไรก็ว่าไป อันนี้เป็นเรื่องการทำงานในระบบการบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องคะแนนโหวต จะส่งผลกระทบถึงการทำงาน ถึงขั้นปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ควันหลงเป็นเรื่องการเมือง ตนไม่ให้ความสำคัญตรงนี้สักเท่าไร ตนดูที่ว่าจะแก้ไขอย่างไร แต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไร ให้สามารถตอบรับความต้องการของประชาชนได้ และเรื่องการทุจริต ก็ไปสอบสวนกัน เรื่องระหว่างพรรค ก็เป็นเรื่องของพรรค มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด ไม่ใช่มาเกิดเฉพาะวันนี้ ก็ต้องปฏิรูปตัวเองกันด้วย ทั้งในสภา นอกสภา อะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ตำหนิใคร
ส่วนใครได้คะแนนมาก น้อย มันผ่านการอภิปรายก็จบ แม้ตนได้น้อย ก็ไม่ได้แคร์อะไร เพราะตนก็ผ่าน เขากำหนดกันตรงนั้นไม่ใช่หรือ และการปรับ ครม. สื่อเป็นคนปลุกปั่นขึ้นมาเอง ไม่เคยพูด สำหรับกรณีการแซว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ได้คะแนนมาก คราวหน้าให้มาเป็นนายกฯ นั้น พูดแหย่ พูดเล่นกัน ไม่ได้หรืออย่างไร จะจับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องไม่ได้ บางเรื่องก็แสดงความยินดี ได้มากหน่อย น้อยหน่อย ก็ไม่เป็นไร มันก็ผ่าน จะแซวอะไรกันเป็นเรื่องภายใน แหย่กันเล่นไม่ได้หรือไง
“บิ๊กป้อม”เคลียร์ใจพรรคร่วมเรียบร้อย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรค พปชร. กลุ่มดาวฤกษ์โหวตสวนมติพรรค ว่า เดี๋ยวจะไปชี้แจงกับพรรคร่วมเอง และกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็คุยแล้ว ไม่มีอะไร แต่หากถามว่าติดใจหรือไม่ ก็ธรรมดา ถ้าคุณโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างนี้ เขาก็อยากจะรู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร
เดือดจัดเอ่ยถึงขั้นตะเพิดพ้นพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธาน เพื่อพิจารณามาตรการลงโทษ กรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ และ 1 ส.ส.ระยอง ลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สวนกับแนวทางของพรรค โดยพล.อ.ประวิตร แสดงท่าทีไม่พอใจต่อการกระทำของ ส.ส.ดังกล่าว พร้อมระบุว่า “โหวตอย่างนี้ รับไม่ได้ แล้วไม่ต้องโพสต์อะไรอีก อย่างนี้มันต้องขับออก ไปรับปากเขามา เขาก็ให้เราเต็ม แต่เรามีปัญหา พรรคเราเสียหาย มันต้องมีบทลงโทษ ทำไมตอนถามในการประชุมพรรค เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ว่ามีปัญหาอะไร แล้วไม่บอก” ส่งผลให้ กก.บห. ที่ร่วมประชุมต่างนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่ค่อยเห็นการแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้ของ พล.อ.ประวิตร จากนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ฝ่ายกฎหมาย ได้เสนอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณาก่อน
พปชร.ตั้งกรรมการสอบกลุ่มดาวฤกษ์
นายไพบูลย์กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี 7 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค จากการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีตนเป็นประธาน โดยจะเชิญ ส.ส.ทั้ง 7 ราย มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ดูตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร และข้อบังคับของพรรคอย่างเคร่งครัด มีระยะเวลาในการพิจารณา 15 วัน เมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอกรรมการบริหารพรรคต่อไป ยืนยันว่า มาตรฐานของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าสูงที่สุด
“เดียร์”ขออภัยนำกลุ่มสวนมติพรรค
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพปชร. โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก กรณีงดออกเสียงให้นายศักดิ์สยาม ว่า เดียร์และเพื่อน ส.ส.ต้องขออภัยพล.อ.ประวิตร และเพื่อนส.ส. แต่ยังเชื่อมั่นในการแสดงออก ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้ความเป็นประชาธิปไตย
พปชร.ต้องสางปม 6 ส.ส.ดาวฤกษ์
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานวิปพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ งดออกเสียงโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศักดิ์สยาม ว่า เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. และเป็นเรื่องภายในของพรรค พปชร. ที่จะต้องดำเนินการ เพราะเป็นมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องอยู่ร่วมกัน
“ณัฏฐพล”ยันไม่เสียกำลังใจ
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร คิดว่าตนเองตอบข้อซักถามได้ และสมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ลงคะแนนไว้วางใจให้ตนครบ มีเพียงในส่วนของพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือไม่พอใจในคำตอบที่ตนตอบ จึงเลือกที่จะไม่ไว้วางใจ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ทำให้เสียกำลังใจ
3ปชป.โหวตสวนมติรอ “เฉลิมชัย”สะสาง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการลงคะแนนเสียงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมี 3 ส.ส.จากพรรค ปชป. งดออกเสียงไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคว่า มันเป็นเรื่องภายในพรรคที่ต้องไปดำเนินการจัดการปัญหาภายในของพรรค โดยหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคไปดำเนินการ ก็ต้องคอยดูว่าเลขาฯ พรรค จะดำเนินการอย่างไร
“สงคราม” ปัดรับเงิน “ธรรมนัส”
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อชาติ 3 คน โหวตไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส ว่า เนื่องจากพรรคมีความเป็นประชาธิปไตย ยึดหลักความเป็นธรรม และ ส.ส. ของพรรคทำตามมติพรรค คือ ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 9 คน แต่สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรรคมีมติโหวตไว้วางใจ เพราะเห็นว่าสามารถชี้แจงข้อเท็จจริง และตอบข้อซักถามได้ จึงให้ความเป็นธรรม และยกมือโหวต และยึดหลักเหตุผลเป็นหลัก มิใช่รับเงินแต่อย่างใด ตนมีเงินมากพอแล้ว และไม่ใช่คนโลภ ไม่จำเป็นต้องรับเงินจากใคร
ฝ่ายค้านตั้งทีมกฎหมายเช็กบิลต่อ
ที่พรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า แกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมกันประชุมเพื่อสรุปผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยพบว่ามีรัฐมนตรีหลายคน อยู่ในข่ายที่จะพิจารณาส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป.ป.ช. โดยจะตั้งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายขึ้นมาหนึ่งคณะ เพื่อพิจารณาความผิดของรัฐมนตรีแต่ละบุคคลว่าจะยื่นในลักษณะใด หลังพิจารณาแล้ว คงต้องพึ่งทาง ป.ป.ช. โดยจะพิจารณา 2 กรณี คือ 1.ความผิดทางอาญา และ 2.ความผิดทางจริยธรรม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แต่ละพรรคมีเจ้าภาพหลักในการอภิปรายรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ดังนั้น จะแบ่งกันรับผิดชอบการยื่นเรื่องรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่ตัวเองอภิปรายไปยังองค์กรอิสระ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มี 3 คน ที่จะถูกยื่นร้องแน่นอน คือ พล.อ.ประยุทธ์ , นายจุรินทร์ และนายณัฏฐพล แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบแค่นี้ ไม่ได้มีมาตรการเพียงเท่านี้ เพราะรัฐมนตรีบางท่าน อาจไม่ถูกยื่นไปยังองค์กรอิสระ แต่จะมีมาตรการทางการเมือง ในการดำเนินการกับรัฐมนตรีทั้ง 10 คน ซึ่งทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบ
“คารม” แตกหักก้าวไกล ไม่แคร์ถูกขับ
นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีโหวตไว้วางใจนายอนุทิน กับนายศักดิ์สยาม ซึ่งเป็นการโหวตสวนมติพรรคก้าวไกลว่า ทราบว่าพรรคมีมติไม่ขับตนออกจากพรรค แต่จะมีนโยบายลงโทษทางวินัย โดยการไม่ให้ร่วมกิจการของพรรค หรือแม้แต่การประชุมของพรรค ซึ่งอยากบอกว่าที่ผ่านมา ไม่ได้ร่วมกิจการของพรรคมา 1 ปีแล้ว ส่วนการประชุมตน ก็เข้าน้อยมาก และพรรคก็ไม่เคยมอบหมายงานให้ทำ ส่วนการร่วมงานกับเพื่อนภายในพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และขณะนี้ ก็เป็นกรรมาธิการคมนาคมเพียงคณะเดียว ถ้าพรรคไม่ให้ทำงาน ก็คือ ในนามพรรค แต่ถ้านามส่วนตัว ส.ส.ห้ามไม่ได้ เพราะถ้าห้ามจะขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมายรับรองสิทธิไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติใคร