จัดอันดับคอร์รัปชันในประเทศต่างๆ ทั่วโลกครั้งใด มักทำเอาคนไทยรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเพราะกลัวว่าอันดับโดดเด่นเสมอจะไม่ยอมลดถอยลง ทั้งๆ ที่ผู้นำแต่ละรัฐบาลต่างประกาศอย่างห้าวหาญว่าจะพยายามกำจัดให้ได้
สิ้นเสียงคำประกาศ กระแสคอร์รัปชันไม่ได้ลดน้อยถอยลง รอครั้งต่อไป ก็เหมือนเดิม บุญหลายแล้วถ้าระดับตำแหน่งไม่เลวร้ายกว่าเดิม
ประกาศครั้งล่าสุด ของเราอยู่อันดับ 36 ระนาบเดียวกับเพื่อนบ้านเวียดนาม แต่สู้สิงคโปร์ มาเลเซียไม่ได้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะไม่เคยสู้ได้อยู่แล้ว
ถ้าไม่มีเพื่อนบ้านอาเซียนอื่นๆ คงเอาปี๊บคลุมหัวเดิน เพราะดูระดับการพัฒนาแล้วไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย แต่สภาวะการทุจริต คอร์รัปชันน่ากลัวมาก อยู่ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับกลุ่มผู้นำชาตินั่นเลย
ผ่านมา 7 ปี ภายใต้คณะ 3 ลุง ทำไมระดับนักโกงจึงเก่งฉกาจติดอันดับโลก!
สำหรับประเทศไทย ชื่อเสียงด้านคอร์รัปชันในภาครัฐนั้นไม่แพ้ใครในย่านอาเซียน ทั้งๆ ที่เป็นเมืองพุทธ ประชาชนมีระดับศีลธรรมอันดี อาชญากรรม ไม่มากนัก ปัญหาความยากจนในกลุ่มประชากรก็มี แต่การโกงนั้น อื้อฮือ...เกินตัวมาก
เหลียวมองประเทศอื่นๆ การโกงในบ้านเราที่เขยิบขาขึ้นตามลำดับจนอยู่สูงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์นั้นมันเกินไปจริงๆ ก่อนหน้านั้นก็เหมือนประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในระดับ 10 เปอร์เซ็นต์ ตามประเภทมาดามกินจุ ช่วงหลัง เป็นไปอย่างก้าวกระโดด
ในยุคท่านเหลี่ยมเป็นใหญ่ มีหลายเจ๊ถนัดเปิบหนัก ผูกขาดการวางงบก่อสร้าง ทำเอาผู้รับเหมารายใหญ่กลายสภาพเป็นผู้รับเหมามือสอง เพราะเจ๊ฟาดเรียบ จากนั้นแจกจ่ายให้รายอื่นๆ ตัวเจ๊หัวคิวกินเปอร์เซ็นต์ไปเรียบร้อย
มีกี่เจ๊ยุคนั้น สายเลือดเดียวกัน ยิ่งแข่งกันเขมือบเพราะอยู่ในช่วงกุมอำนาจการเมืองขาขึ้น ทั้งการขายสินค้าเกษตร โภคภัณฑ์ เช่น ข้าว ลำไย ฯลฯ โควตาส่งออกสินค้ามันสำปะหลัง ข้าวโพด และสินค้าแปรรูป เจ๊ไม่รังเกียจเงินหัวคิว
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโครงการสัมปทานก่อสร้างต่างๆ ยิ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ งบเยอะ เจ๊และเครือข่ายขอล่วงหน้า ยกระดับความมูมมามเหมือนจะกินให้สิ้นชาติ
เมื่อสิ้นอำนาจ ประเทศไทยเผชิญเวรกรรมต่อไป จากยุคขิงแก่สั้นๆ มาเป็นยุคนอมินีท่านเหลี่ยม บรรดาเจ๊ได้หวนคืนสู่ความผยอง เขมือบหนักทั้งชดเชยการเสียโอกาสก่อนหน้านี้ และวางรากฐานถอนทุนใหม่ ทำให้บรรดาพยัคฆ์หิวทนไม่ไหว
อาศัยจังหวะความวุ่นวายทางการเมืองประกาศแอ่นแอ๊น...ขอสลับขั้วอำนาจมาเป็นชาวคณะ 3 ลุงผู้เกรียงไกร พร้อมคำประกาศจะชำระสะสางความเลวร้ายทั้งหลาย ขอเวลาอีกไม่นานเพื่อปฏิรูป ให้บ้านเมืองดูดีมีเกียรติภูมิ
คำประกาศเหมือนผายลมของสุนัขชรายามบ่ายแก่ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ว่าจะปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน ท่าทีขึงขังโออ่าน่าเชื่อถือ ชาวบ้านบ้องตื้นยกมืออนุโมทนาสาธุ บ้านเมืองจะดีขึ้นภายใต้การปฏิรูปยุค 3 ลุง สร้างความฝันบรรเจิด ความหวังเลอเลิศว่าจากนี้ไปคนยากไร้จะลืมตาอ้าปากได้ซะที
ที่ไหนได้ ปีแล้วปีเล่า หลังจากเดินขึ้นเวทีเดินคล้องแขนประกาศเจตนารมณ์แรงกล้าว่าจะปราบคอร์รัปชัน ร่วมกับองค์กรต่างๆ ระดับการงาบไม่ลดลง ทั้งๆ ที่ไม่มีนักการเมืองมีส่วนในการบริหารประเทศ มีแต่เพื่อนพ้องน้องพี่บริวารพวกลุงทั้งนั้น
และพวกลุงก็ไม่มีคำตอบว่าทำไมการทุจริต คอร์รัปชันไม่ยอมลด ทั้งยังมีเสียงบ่นว่านอกจากพวกหน้าเดิมแล้ว ต้องจ่ายให้ผู้มาใหม่ด้วยอัตราก้าวหน้า
ผู้มาใหม่เข้ามาพร้อมกับความหิวโหย เร่งทำเวลาหลังจากเห็นนักการเมืองฟาดหนักมาหลายปี คนจ่ายรับบทซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง นอกจากบริหารบ้านเมืองห่วยไม่น่าประทับใจแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่รู้ทำให้คนจนมีมากกว่า 14 ล้านคน
คณะผู้นำชาติก็ไม่รู้สึกอาย เมื่อตัวเลขการโกงกินไม่ลดลง ทำเป็นตีมึน อ้างโน่นอ้างนี่ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีองค์กรปราบโกงน่าจะมากที่สุดในโลก แต่ถูกมองว่าส่วนใหญ่เป็นพวกนักหมักดองเรื่องให้นานหลายปีกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
หลายกรณีหมักเรื่องไว้ ผลสุดท้าย ผู้ถูกกล่าวหาไม่ผิด ต้องเสียเวลา เสียโอกาสทำมาหากิน อยู่กับความมัวหมองเป็นสิบปี ไม่มีอะไรชดเชยความเสียหาย
และองค์กรปราบโกงไม่รู้สึกว่าต้องเสียหน้า หรือรับผิดชอบ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ เป็นอำนาจรัฐและเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ คนโดนกล่าวหาซวยฟรีๆ
ประกาศจัดอันดับล่าสุด ก็ไม่มีปฏิกิริยาสักแอะจากท่านผู้ใหญ่ผู้โตกุมอำนาจในแผ่นดิน ไม่รู้สึกว่าต้องอาย หรือคิดหาคำแก้ตัว ทำนองว่าใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวน่าจะดีกว่า ขืนพูดมากไปโอกาสจะโดนย้อนเข้าตัวมีอยู่สูง
คนไทยก็อยู่กับความซวย เพราะนักโกงกินยึดครองบ้านเมือง กระบวนการยุติธรรมไร้พลังที่จะทำอะไรได้ เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไม่ทำหน้าที่ เห็นได้จากการปล่อยให้หลงจู๊เจ้าของบ่อนลอยนวล นักค้ามนุษย์ทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19
เป็นความเสียหายจากการทุจริต คอร์รัปชันอำนาจของเจ้าหน้าที่ ผู้ใหญ่โต ไม่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบ และยังขอเสนอหน้าอยู่เป็นตัวปัญหาของบ้านเมืองต่อไป
ใครจะทำอะไรได้ นอกจากจะปล่อยให้โกงกินจนสิ้นชาติเช่นนั้นหรือ ทุกวันนี้มีแต่ลีลาเล่นลิ้น จะหวังให้นักการเมืองฝ่ายค้านแฉในสภาฯ ช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจคงไม่ได้ เพราะส่วนหนึ่งเคยเป็นสมุนบริวารของพวกเจ๊นักเปิบหนักด้วย
เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็อยู่อย่างไทย และยอมทำใจจนกว่าจะสิ้นเวร!