รัฐบาลทหารคณะรัฐประหารพม่าคงประเมินแรงต้านของประชาชนต่ำไปหลังจากเข้ายึดอำนาจโดยไม่เสียเลือดเนื้อ มีเพียงข้อกล่าวอ้างแบบไร้หลักฐานชัดเจนว่ามีการโกงการเลือกตั้งโดยคณะรัฐบาลพลเรือน โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้งรู้เห็นด้วย
อ้างอย่างนี้ ใครเชื่อหรือไม่เชื่อ คณะทหารพม่าไม่สนใจ มีอาวุธอยู่ในมือ ใครก็ไม่กล้าหืออย่างเปิดเผย เป็นอย่างนี้ในการรัฐประหารโดยกองทัพในประเทศอื่นๆ
ตามคาด มีเสียงประณามจากสารพัดประเทศ เรียกร้องให้กองทัพและผู้นำทหารคืนอำนาจให้พลเรือนซึ่งชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย มีคำเตือนจากหลายประเทศว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลผู้นำทหาร โดยนายพลมิน อ่อง หล่าย
ทำได้สำเร็จอย่างนี้ จะให้คายอำนาจออกมาง่ายๆ ผู้นำทหารพม่าไม่ยอมแน่
ครั้งนี้กลุ่มประเทศอาเซียนไม่ยุ่ง อ้างว่าเป็นเรื่องกิจการภายในของพม่า แม้แต่รัสเซียและจีน ก็ไม่เต็มใจด้วยนักเพราะเกรงจะเกิดความวุ่นวาย ส่งผลกระทบต่อการลงทุน โดยเฉพาะโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนซึ่งผ่านเข้าไปในพม่า
อย่างที่ว่า ทำรัฐประหารนั้นไม่ยาก แต่จะรักษาอำนาจไว้ให้ตลอดโดยไม่มีแรงต้านนั้นไม่ง่ายทุกครั้งไป และครั้งนี้ก็เช่นกัน ชาวพม่าเริ่มต่อต้านโดยอารยะขัดขืน ไม่ใช้ความรุนแรง เมื่อมีประกาศห้ามออกนอกบ้านในยามค่ำคืน ก็อยู่ในบ้าน
แต่ไม่อยู่แบบเงียบ เคาะถ้วยถังกะละมังชามไหต่างๆ พระตามวัดก็ย่ำฆ้องสนั่นเมือง คนขับรถก็กดแตรต่อเนื่อง เป็นการประท้วง ให้ทหารรู้ว่าคนไม่พอใจ
ยิ่งปิดอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดียต่างๆ หวังสะกดความเคลื่อนไหว ก็ไม่ง่าย บรรดาบุคลากรการแพทย์ตามโรงพยาบาล สถานพยาบาล 70 แห่งทั่วประเทศหยุดงาน ตามมาด้วยนักศึกษา ข้าราชการบางส่วน ร่วมใจกันหยุดงานประท้วง
จะตีกินด้วยกำลังกองทัพเหมือนในปี 1962 คงไม่ง่าย และอาจจะเป็นเพราะว่างเว้นจากการรัฐประหารมานาน การประเมินอาจผิดพลาด ทำให้เหิมเกริม
การรัฐประหารครั้งนี้กองทัพขาดเหตุผล ข้ออ้างเรื่องโกงเลือกตั้งก็ไม่มีหลักฐาน รายชื่อคนลงทะเบียนซ้ำซ้อนเป็นเรื่องปกติ กกต.พม่าก็บอกว่า มีซ้ำกันจริง แต่ไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผลซึ่งพรรคการเมืองเอ็นแอลดีชนะ 83%
ทิ้งให้ฝ่ายกองทัพเพียง 33% ในสภา ถือว่าเป็นการเสียหน้าอย่างมาก และการเสียหน้า การกลัวเสียผลประโยชน์ในการค้า การลงทุนมหาศาล ทำให้ผู้นำกองทัพตัดสินใจทำรัฐประหาร ดูแล้วว่าถ้าปล่อยไว้ อำนาจการยอมรับคงไม่เหลือ
เป็นที่รู้กันว่าช่วงกุมอำนาจมายาวนานก่อนการเลือกตั้งในปี 2015 ผู้นำทหารแต่ละรุ่นมีผลประโยชน์มหาศาลจากธุรกิจต่างๆ และสัมปทานทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งพม่ามีอุดมสมบูรณ์ ทั้งทองคำ หยก แร่ และเพชรนิลจินดา มั่งคั่งยาวนาน
ผู้นำกองทัพกับนักธุรกิจประสานมือกันโกยความร่ำรวย ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนซึ่งยังอยู่ในสภาพแร้นแค้น และยิ่งลำบากหนักช่วงการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส มีการติดเชื้อมากกว่า 1 แสนคน คนเสียชีวิตไม่น้อย
การรัฐประหารจึงเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความสัมพันธ์อันเปราะบางกับชนกลุ่มน้อยซึ่งยังมีกองกำลังเป็นเอกเทศ
ประชาชนพม่าก็จำบทเรียนอันเจ็บปวดขมขื่นครั้งก่อนได้ ถ้าออกมาประท้วง ใช้ความรุนแรง จะโดนปราบปรามอย่างหนัก มีคนบาดเจ็บล้มตาย ถูกจับกุมคุมขังลืมในคุก เป็นนักโทษโดยศาลเตี้ย จึงใช้วิธีอารยะขัดขืน มีกลุ่มผู้หญิงเดินนำขบวน
ครั้งก่อนพระสงฆ์ เณรนำหน้า ทหารพม่ายังฆ่าไม่ปรานี คราวนี้พระและเณรเป็นเพียงส่วนประกอบของนักเรียน นักศึกษาหญิง แม้แต่ผู้ชายยังอยู่ขบวนหลัง
ชาวบ้านและคนเดินขบวนยังแสดงน้ำใจไมตรีต่อตำรวจ มอบอาหารและน้ำดื่มให้ แสดงออกให้เห็นว่าต้องการแยกส่วนออกจากทหารที่เป็นกำลังหลัก การประท้วงครั้งนี้เกิดในหลายเมืองใหญ่ มีคนถูกจับกุมบ้างแต่ไม่มากนัก
พวกอองซาน ซูจี และนักการเมืองโดนจับกุมคุมขังด้วยข้อหาไร้สาระ เป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยตัวออกมาอาจนำไปสู่การเดินขบวนขนาดใหญ่ ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา คนเดินขบวนหลายหมื่นคน ถือว่าใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
กองทัพจะทำอย่างไร จะปราบปราม หรือปล่อยให้เดินขบวน ประจานการยึดอำนาจอย่างนี้ตลอดไปหรือไม่ เพราะประชาชนยิ่งต้องรุกคืบ ถ้าเห็นว่ามาตรการอารยะขัดขืนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ทหารพม่าไม่กล้าใช้ความรุนแรงเหมือนครั้งก่อน
รัฐบาลทหารยังต้องเฝ้าระวังด้านความมั่นคง เพราะอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่นการลุกฮือของทหารรุ่นใหม่ที่ไม่พอใจกับรุ่นกุมอำนาจและผลประโยชน์ ถ้ามีเหตุร้ายลุกลาม กองทัพชนกลุ่มน้อยอาจฉวยโอกาสก่อเหตุก็ได้
รัฐพม่ามีส่วนประกอบเป็นรัฐฉาน กะฉิ่น ว้า กะเหรี่ยง มอญ และฉิ่น ทั้งยังมีอาระกันและโรฮิงญาอยู่ด้านตะวันตก ถ้ามีปัญหาในส่วนกลาง รัฐบาลคุมไม่อยู่ อาจฉวยจังหวะประกาศแยกตัว เป็นประเทศเอกราชเหมือนดังเช่นยูโกสลาเวียก็เป็นได้
ปัจจุบัน พม่าก็เหมือนยูโกสลาเวียก่อนแตกตัวเป็นหลายรัฐประกาศอิสรภาพ ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยข้อตกลงแบบผ่อนปรน แต่ทุกชนเผ่ายังมีกองกำลังแข็งแกร่ง กองทัพรัฐฉานก็ได้ประกาศไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของกองทัพพม่า
น่าสนใจและน่าดูว่ารัฐบาลทหารพม่าจะอยู่และจัดการกับวิกฤตที่ตัวเองเป็นผู้ก่ออย่างไร จะตัดสินใจปิดประเทศ อย่างที่เคยทำอีกหรือ บอกได้ว่าครั้งนี้ไม่ง่ายแน่