อัยการยื่นฟ้อง “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณ “ถั่งเช่า” เกินจริงต่อผู้บริโภค ศาลตัดสินจำคุกรวม 2 ปี ปรับ 5 หมื่น รับสารภาพลดโทษเหลือคุก 1 ปี ปรับ 2.5 หมื่น ให้รอลงอาญา
วานนี้ (4 ก.พ.) พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงนนทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประยงค์ ยอดบัวงาม หรือ ยิ่งยง ยอดบัวงาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดังต่อศาลแขวงนนทบุรี ในความผิดฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควรและร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ
กรณีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 จำเลยได้โฆษณาคุณประโยชน์ สรรพคุณอาหารเสริม สารสกัด ถั่งเช่า ผสม ยูซีทู ผ่านทางโทรทัศน์ ว่า ผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกและเข่า ลุกขึ้นก็ปวด หลังจากทานแล้วสามเดือน เดี๋ยวนี้อาการปวดไม่มีเลย อยากจะบอกต่อให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาข้อเข่า ซึ่งเป็นการโฆษณามุ่งหมายว่าผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว ทำหน้าที่เหมือน “ยา” และได้ร่วมกับบริษัท นายเพอร์เฟคท์ มีเดีย จำกัด โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ สารสกัดถั่งเช่าดังกล่าว เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ผ่านการตรวจพิจารณาและไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 40, 41, 70 71 ปอ.ม.83, 91
ขณะที่ศาลมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 91 ฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์อาหารเป็นเท็จจำคุก 2 กระทงๆ ละ 1 ปี และปรับ 2 กระทงๆ ละ 2 หมื่นบาท เป็นจำคุก 2 ปีและปรับ 4 หมื่นบาท และฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์อาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ 2 กระทงๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 1 หมื่นบาท โดยเมื่อรวมจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี และปรับ 50,000 บาท
ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ.มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 1 ปี และปรับ 25,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
วานนี้ (4 ก.พ.) พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงนนทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประยงค์ ยอดบัวงาม หรือ ยิ่งยง ยอดบัวงาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดังต่อศาลแขวงนนทบุรี ในความผิดฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควรและร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ
กรณีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 จำเลยได้โฆษณาคุณประโยชน์ สรรพคุณอาหารเสริม สารสกัด ถั่งเช่า ผสม ยูซีทู ผ่านทางโทรทัศน์ ว่า ผู้สูงอายุที่มีปัญหากระดูกและเข่า ลุกขึ้นก็ปวด หลังจากทานแล้วสามเดือน เดี๋ยวนี้อาการปวดไม่มีเลย อยากจะบอกต่อให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาข้อเข่า ซึ่งเป็นการโฆษณามุ่งหมายว่าผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว ทำหน้าที่เหมือน “ยา” และได้ร่วมกับบริษัท นายเพอร์เฟคท์ มีเดีย จำกัด โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ สารสกัดถั่งเช่าดังกล่าว เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ผ่านการตรวจพิจารณาและไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 40, 41, 70 71 ปอ.ม.83, 91
ขณะที่ศาลมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 91 ฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์อาหารเป็นเท็จจำคุก 2 กระทงๆ ละ 1 ปี และปรับ 2 กระทงๆ ละ 2 หมื่นบาท เป็นจำคุก 2 ปีและปรับ 4 หมื่นบาท และฐานร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์อาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ 2 กระทงๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 1 หมื่นบาท โดยเมื่อรวมจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี และปรับ 50,000 บาท
ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ.มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 1 ปี และปรับ 25,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี