กองปราบฯส่งชุด “หนุมาน” สนธิกำลัง ศปอส.ตร.เปิดปฏิบัติการ "ชัตดาวน์กาแล็กซี่ออนไลน์" นำหมายจับชาร์จ "เสี่ยโป้" คาบ้านพักตอนเช้าตรู่ พร้อมบุกรวม 7 จุด 16 หมายจับ 31 เป้าหมายรอบกรุง สงสัยเชื่อมโยงเครือข่าย "หลงจู๊สมชาย"
วานนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 05.30 น. ชุดหนุมานกองปราบปราม พร้อมอาวุธครบมือ ถือหมายค้นเข้าตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย บ้านพักของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ (ชื่อเดิม นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์) เป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น 7 คูหา ตั้งอยู่ภายใน ซ.เพชรเกษม 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. โดย นายเสี่ยโป้ ลงมาเปิดประตูบ้านในสภาพนุ่งผ้าขนหนู ก่อนนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพร้อมกับไลฟ์สดนานประมาณ 15 นาที ก่อนสัญญาณตัดไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ปฏิบัติการจู่โจมของกองปราบปรามครั้งนี้ มาจากพฤติกรรมสะสมเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ที่นายเสี่ยโป้ มีส่วนพัวพัน โดยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับ “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อพนันแห่งภาคตะวันออก ที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมอันเป็นผลมาจากการใช้อิทธิพลเปิดบ่อนพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.ระยอง จนเป็นเหตุให้มีนักพนันติดเชื้อโควิด-19 กลายเป็นปัญหาลุกลามสร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวภาคตะวันออก และหลายจังหวัดทั่วประเทศ
โดย นายเสี่ยโป้ ยังมีในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน รวม 4 ข้อหา อยู่ในท้องที่ สน.ภาษีเจริญ เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ต.ค.63 กระทั่งมีการเปิดโปงธุรกิจสีเทาของ “หลงจู๊สมชาย” อย่างหนัก ทำให้ระยะหลัง นายเสี่ยโป้ เก็บตัวไม่เคลื่อนไหวหวือหวาแบบในอดีต กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปรามบุกเข้าค้นบ้านดังกล่าว
สำหรับปฏิบัติการ “ชัตดาวน์กาแล็กซี่ออนไลน์” ครั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., นำกำลังตำรวจหนุมานกองปราบปราม สนธิกำลังร่วมชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เข้าปิดล้อมจับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ของนายเสี่ยโป้ รวมทั้งหมด 7 จุด 16 หมายจับ 31 เป้าหมาย รอบ กทม. โดยนำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมายหลัก คือ บ้านพักนายเสี่ยโป้ พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ และสมคบกันให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พร้อมควบคุมตัวคนงานชาวเมียนมาได้ 25 คน และจับกุม นายพัชรพล จันทร์สว่าง ลูกน้องนายเสี่ยโป้ พร้อมยึดอาวุธปืน 1 กระบอก และกระสุนปืน 11 นัด
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.), พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายเสี่ยโป้ พร้อมเครือข่ายพนันออนไลน์รวม 12 คน โดยระบุว่า จากการสืบสวนชุดปฏิบัติการ ของกองบังคับการปราบปราม พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ของเครืองข่ายนายเสี่ยโป้ กับพวกรวม 31 คน ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันประกาศ โฆษณาชักชวนและร่วมกันจัดให้บุคคลทั่วไป เข้าเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ www.lagalaxy1.com,www.Gpbvegas.com, www.lagalaxy88.com, www.lagalaxy911.com, www.lagalaxy6.com และ www.lagalaxy168.com โดยนายเสี่ยโป้ จะทำหน้าที่ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ชักชวนให้คำแนะนำ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเอง, บัญชีเฟซบุ๊กของภรรยา และบัญชีเฟซบุ๊กของเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่นๆ โดยมีพฤติกรรมชี้นำให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนันผ่านเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่นายเสี่ยโป้เป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มของผู้ต้องหาได้สมคบคิดกันในการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านบัญชีธนาคารที่เปิดรองรับไว้จำนวนหลายบัญชี ในลักษณะเป็นบัญชี “รับแทง”, บัญชี “รับจ่าย”, บัญชี “แถว 2” และบัญชี “พัก”เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้จากการกระทำความผิด นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้ต้องหายังได้มีการนำเงินจากการกระทำความผิด ไปดำเนินการในกิจการอื่นๆ เพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดร่วมกันฟอกเงิน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน" และ "สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน"
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบและขยายผลเส้นทางการเงิน หรือบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าว ซึ่งพบกว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ที่พักของผู้ต้องหา อาคารพาณิชย์ 7 คูหา และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น สร้อยแหวน นาฬิกา เงินสด รถยนต์ เพื่อรายงานให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
ต่อมาเวลา 14.10 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ หรือ พ.ต.ท.สันธนะ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล ที่ถูกถอดยศเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 ที่มี่ความสนิทสนมกับนายเสี่ยโป้ ได้เดินทางมาที่ บก.ป. พร้อมทนายความ ประสานเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับฟังการสอบปากคำ นายเสี่ยโป้ ในฐานะที่ปรึกษาคดี
โดย นายสันธนะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบข่าวว่าจะมีการจับกุมเสี่ยโป้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นวันนี้ เมื่อทราบว่า จะมีการรวมพลของชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ก็เข้าใจว่าอาจจะมีการจับกุมบ่อนการพนันเตาปูนที่จะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง แต่ปรากฏว่าเป็นการจับกุมนายเสี่ยโป้ ในข้อหาชักชวนเล่นการพนัน จึงรู้สึกผิดหวังกับการปฏิบัติงานของหน่วยหนุมานในครั้งนี้ เพราะทำเกินกว่าเหตุ นายเสี่ยโป้ถือเป็นบุคคลสาธารณะ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ถ้ามีเหตุให้ศาลออกหมายจับ การจับกุมไม่ได้เป็นเรื่องยาก ทำไมต้องไปดำเนินการขนาดนี้
“ไม่เห็นต้องทำอะไรใหญ่โต ยกกำลังไปยังกับจะไปถ่ายหนังถ่ายละคร” นายสันธนะ กล่าว
โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายสันธนะ ได้โชว์รูป พล.ต.อ.สุวัฒน์ คู่กับชายคนหนึ่งให้สื่อมวลชนดู พร้อมเผยว่า อยากจะตั้งคำถามไปยัง “ปั๊ด” (ชื่อเล่นของ พล.ต.อ.สุวัฒน์) ว่าคนที่อยู่ข้างๆ เป็นใคร ถ้าอยากจะจับนายเสี่ยโป้จริง ไม่ต้องสูญเสียกำลังอะไร แค่ให้คนที่อยู่ข้างหลังคุณที่รู้จักกันในวงการว่า “พ่อบ้านโย” ยกหูโทรหานายเสี่ยโป้ก็ได้ เพราะส่วนตัวนายเสี่ยโป้กับพ่อบ้านโยก็คุยกัน รักใคร่ปรองดองกันอยู่แลัว ไม่ต้องมาแสดงละครจัดฉากทำแบบนี้
“การจับกุมเสี่ยโป้ครั้งนี้ เรียกว่าเป็นการตีไก่หรือตีเมืองขึ้น ซึ่งพ่อบ้านโยที่ถ่ายรูปยืนข้างๆ บิ๊กปั๊ด ก็โทรหาโป้ พยายามตีไก่ แต่ตีไม่ออก ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ อีกทั้งกองบัญชาการไซเบอร์ ถามตรงๆ ว่าเปิดรับตั๋วไหม คนที่นามสกุล “คล้ายคลึง” อย่าให้ผมพูด พวกคุณเปิดรับตั๋วแล้ว แต่มันไม่เข้าเป้าไง ก็เลยต้องดำเนินการกับเสี่ยโป้” นายสันธนะ กล่าว
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า นายเสี่ยโป้ก็ยังเป็นเหยื่ออารมณ์ กรณีนายสมชาย หรือ “หลงจู๊สมชาย” ที่ไม่พอใจนายเสี่ยโป้ ซึ่งตนขอท้าเลยว่าให้ไปจับนายสมชายให้ได้ก่อนดีกว่า เหตุใดตำรวจไม่กล้าจับนายสมชาย ทั้งที่ตนให้ข้อมูลไปหมด จนตอนนี้นายสมชายหนีไปไหนต่อไหนแล้ว จนล่าสุดหนีไปอยู่กับเมียที่กัมพูชาแล้ว ส่วนเสี่ยโป้จะจับเมื่อไรก็ได้ พร้อมยังได้เอ่ยถึงบุคคลที่ชื่อ “เอ็ดดี้” และ “เอี่ยว” ว่ามีพฤติกรรมเปิดเวบพนันออนไลน์เช่นเดียวกัน
“เรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้นอีกมาก ไปถามพ่อบ้านโยได้เลย เพราะเขาไปบ่อนได้ทุกที่ คนในวงการก็รู้ว่าเป็นมือของใคร นายคนนี้ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน แต่จะกิจการอะไรนั้นไม่ทราบ รู้เพียงว่าเขาสามารถยืนข้างๆ คนมีสีในสังคมได้” นายสันธนะ ระบุ
นอกจากนี้ทางนายสันธนะได้ลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.ท.เอกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อให้ตรวจสอบบุคคลที่มีฉายาว่า “พ่อบ้านโย” เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นกับการจับกุมเสี่ยโป้ในครั้งนี้ โดยมีรายงานข่าวว่า “พ่อบ้านโย” ที่นายสันธนะกล่าวอ้าง คือ พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ผกก.ดส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งมีความสนิทสนมกับทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ เป็นการส่วนตัว
วานนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 05.30 น. ชุดหนุมานกองปราบปราม พร้อมอาวุธครบมือ ถือหมายค้นเข้าตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย บ้านพักของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ (ชื่อเดิม นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์) เป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น 7 คูหา ตั้งอยู่ภายใน ซ.เพชรเกษม 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. โดย นายเสี่ยโป้ ลงมาเปิดประตูบ้านในสภาพนุ่งผ้าขนหนู ก่อนนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพร้อมกับไลฟ์สดนานประมาณ 15 นาที ก่อนสัญญาณตัดไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ปฏิบัติการจู่โจมของกองปราบปรามครั้งนี้ มาจากพฤติกรรมสะสมเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ที่นายเสี่ยโป้ มีส่วนพัวพัน โดยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับ “หลงจู๊สมชาย” เจ้าพ่อพนันแห่งภาคตะวันออก ที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมอันเป็นผลมาจากการใช้อิทธิพลเปิดบ่อนพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.ระยอง จนเป็นเหตุให้มีนักพนันติดเชื้อโควิด-19 กลายเป็นปัญหาลุกลามสร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวภาคตะวันออก และหลายจังหวัดทั่วประเทศ
โดย นายเสี่ยโป้ ยังมีในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน รวม 4 ข้อหา อยู่ในท้องที่ สน.ภาษีเจริญ เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือน ต.ค.63 กระทั่งมีการเปิดโปงธุรกิจสีเทาของ “หลงจู๊สมชาย” อย่างหนัก ทำให้ระยะหลัง นายเสี่ยโป้ เก็บตัวไม่เคลื่อนไหวหวือหวาแบบในอดีต กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปรามบุกเข้าค้นบ้านดังกล่าว
สำหรับปฏิบัติการ “ชัตดาวน์กาแล็กซี่ออนไลน์” ครั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., นำกำลังตำรวจหนุมานกองปราบปราม สนธิกำลังร่วมชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เข้าปิดล้อมจับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ของนายเสี่ยโป้ รวมทั้งหมด 7 จุด 16 หมายจับ 31 เป้าหมาย รอบ กทม. โดยนำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมายหลัก คือ บ้านพักนายเสี่ยโป้ พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ และสมคบกันให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พร้อมควบคุมตัวคนงานชาวเมียนมาได้ 25 คน และจับกุม นายพัชรพล จันทร์สว่าง ลูกน้องนายเสี่ยโป้ พร้อมยึดอาวุธปืน 1 กระบอก และกระสุนปืน 11 นัด
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.), พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายเสี่ยโป้ พร้อมเครือข่ายพนันออนไลน์รวม 12 คน โดยระบุว่า จากการสืบสวนชุดปฏิบัติการ ของกองบังคับการปราบปราม พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ของเครืองข่ายนายเสี่ยโป้ กับพวกรวม 31 คน ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันประกาศ โฆษณาชักชวนและร่วมกันจัดให้บุคคลทั่วไป เข้าเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ www.lagalaxy1.com,www.Gpbvegas.com, www.lagalaxy88.com, www.lagalaxy911.com, www.lagalaxy6.com และ www.lagalaxy168.com โดยนายเสี่ยโป้ จะทำหน้าที่ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ชักชวนให้คำแนะนำ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเอง, บัญชีเฟซบุ๊กของภรรยา และบัญชีเฟซบุ๊กของเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่นๆ โดยมีพฤติกรรมชี้นำให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนันผ่านเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่นายเสี่ยโป้เป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มของผู้ต้องหาได้สมคบคิดกันในการทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านบัญชีธนาคารที่เปิดรองรับไว้จำนวนหลายบัญชี ในลักษณะเป็นบัญชี “รับแทง”, บัญชี “รับจ่าย”, บัญชี “แถว 2” และบัญชี “พัก”เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้จากการกระทำความผิด นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้ต้องหายังได้มีการนำเงินจากการกระทำความผิด ไปดำเนินการในกิจการอื่นๆ เพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดร่วมกันฟอกเงิน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน" และ "สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน"
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบและขยายผลเส้นทางการเงิน หรือบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าว ซึ่งพบกว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ที่พักของผู้ต้องหา อาคารพาณิชย์ 7 คูหา และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น สร้อยแหวน นาฬิกา เงินสด รถยนต์ เพื่อรายงานให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
ต่อมาเวลา 14.10 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ หรือ พ.ต.ท.สันธนะ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล ที่ถูกถอดยศเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 ที่มี่ความสนิทสนมกับนายเสี่ยโป้ ได้เดินทางมาที่ บก.ป. พร้อมทนายความ ประสานเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับฟังการสอบปากคำ นายเสี่ยโป้ ในฐานะที่ปรึกษาคดี
โดย นายสันธนะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบข่าวว่าจะมีการจับกุมเสี่ยโป้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นวันนี้ เมื่อทราบว่า จะมีการรวมพลของชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน ก็เข้าใจว่าอาจจะมีการจับกุมบ่อนการพนันเตาปูนที่จะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง แต่ปรากฏว่าเป็นการจับกุมนายเสี่ยโป้ ในข้อหาชักชวนเล่นการพนัน จึงรู้สึกผิดหวังกับการปฏิบัติงานของหน่วยหนุมานในครั้งนี้ เพราะทำเกินกว่าเหตุ นายเสี่ยโป้ถือเป็นบุคคลสาธารณะ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ถ้ามีเหตุให้ศาลออกหมายจับ การจับกุมไม่ได้เป็นเรื่องยาก ทำไมต้องไปดำเนินการขนาดนี้
“ไม่เห็นต้องทำอะไรใหญ่โต ยกกำลังไปยังกับจะไปถ่ายหนังถ่ายละคร” นายสันธนะ กล่าว
โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายสันธนะ ได้โชว์รูป พล.ต.อ.สุวัฒน์ คู่กับชายคนหนึ่งให้สื่อมวลชนดู พร้อมเผยว่า อยากจะตั้งคำถามไปยัง “ปั๊ด” (ชื่อเล่นของ พล.ต.อ.สุวัฒน์) ว่าคนที่อยู่ข้างๆ เป็นใคร ถ้าอยากจะจับนายเสี่ยโป้จริง ไม่ต้องสูญเสียกำลังอะไร แค่ให้คนที่อยู่ข้างหลังคุณที่รู้จักกันในวงการว่า “พ่อบ้านโย” ยกหูโทรหานายเสี่ยโป้ก็ได้ เพราะส่วนตัวนายเสี่ยโป้กับพ่อบ้านโยก็คุยกัน รักใคร่ปรองดองกันอยู่แลัว ไม่ต้องมาแสดงละครจัดฉากทำแบบนี้
“การจับกุมเสี่ยโป้ครั้งนี้ เรียกว่าเป็นการตีไก่หรือตีเมืองขึ้น ซึ่งพ่อบ้านโยที่ถ่ายรูปยืนข้างๆ บิ๊กปั๊ด ก็โทรหาโป้ พยายามตีไก่ แต่ตีไม่ออก ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ อีกทั้งกองบัญชาการไซเบอร์ ถามตรงๆ ว่าเปิดรับตั๋วไหม คนที่นามสกุล “คล้ายคลึง” อย่าให้ผมพูด พวกคุณเปิดรับตั๋วแล้ว แต่มันไม่เข้าเป้าไง ก็เลยต้องดำเนินการกับเสี่ยโป้” นายสันธนะ กล่าว
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า นายเสี่ยโป้ก็ยังเป็นเหยื่ออารมณ์ กรณีนายสมชาย หรือ “หลงจู๊สมชาย” ที่ไม่พอใจนายเสี่ยโป้ ซึ่งตนขอท้าเลยว่าให้ไปจับนายสมชายให้ได้ก่อนดีกว่า เหตุใดตำรวจไม่กล้าจับนายสมชาย ทั้งที่ตนให้ข้อมูลไปหมด จนตอนนี้นายสมชายหนีไปไหนต่อไหนแล้ว จนล่าสุดหนีไปอยู่กับเมียที่กัมพูชาแล้ว ส่วนเสี่ยโป้จะจับเมื่อไรก็ได้ พร้อมยังได้เอ่ยถึงบุคคลที่ชื่อ “เอ็ดดี้” และ “เอี่ยว” ว่ามีพฤติกรรมเปิดเวบพนันออนไลน์เช่นเดียวกัน
“เรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้นอีกมาก ไปถามพ่อบ้านโยได้เลย เพราะเขาไปบ่อนได้ทุกที่ คนในวงการก็รู้ว่าเป็นมือของใคร นายคนนี้ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน แต่จะกิจการอะไรนั้นไม่ทราบ รู้เพียงว่าเขาสามารถยืนข้างๆ คนมีสีในสังคมได้” นายสันธนะ ระบุ
นอกจากนี้ทางนายสันธนะได้ลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.ท.เอกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อให้ตรวจสอบบุคคลที่มีฉายาว่า “พ่อบ้านโย” เนื่องจากเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นกับการจับกุมเสี่ยโป้ในครั้งนี้ โดยมีรายงานข่าวว่า “พ่อบ้านโย” ที่นายสันธนะกล่าวอ้าง คือ พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ผกก.ดส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งมีความสนิทสนมกับทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ เป็นการส่วนตัว