xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพพม่าเมินคำขู่ไบเดน รวบอำนาจ ปลดครม.ยกพวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กองทัพพม่าเดินหน้ารวบอำนาจด้วยการประกาศปลดคณะรัฐมนตรีเดิมทั้งชุด และแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ 11 คน ประกาศปิดสนามบินย่างกุ้งถึง พ.ค.64 ขณะที่พรรคเอ็นแอลดีเรียกร้องให้ทหารปล่อยตัวซูจีทันที รวมทั้งยอมรับชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรค 'บิ๊กตู่' ลั่นยึดจุดยืนอาเซียน 'บิ๊กอู๊ด' เผยม็อบสถานทูตทำผิด 2 ข้อหา ‘ก้าวหน้า’ โพสต์ภาษาเมียนมาฉะกองทัพ ‘รัฐประหาร’

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคาร (2 ก.พ.) ว่า แทบไม่ปรากฏสัญญาณว่า มีการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยบนท้องถนนในย่างกุ้ง ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของพม่าและปัจจุบันยังคงเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าของประเทศ นอกจากนั้นยังไม่เห็นร่องรอยว่าจะเกิดการประท้วงขนาดใหญ่ บ่งชี้ว่า กองทัพสามารถกุมอำนาจเบ็ดเสร็จและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี

เช้าวันอังคาร โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ธนาคารในย่างกุ้งเปิดให้บริการตามปกติหลังจากระงับบริการเมื่อวันจันทร์ แต่ ตลาดที่เคยคึกคักกลับเงียบเหงา

ประชาชนบางส่วนกังวลว่า สถานการณ์ทางการเมืองอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจที่บอบช้ำอยู่แล้วจากโควิด-19

ยังไม่มีการเปิดเผยว่า อองซาน ซูจี ผู้นำตัวจริงของคณะบริหารที่ถูกกองทัพจู่โจมยึดอำนาจเมื่อเช้าตรู่วันจันทร์ (1) รวมถึงประธานาธิบดีวิน มิ้น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด

สมาชิกบางคนของพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นแอลดี) ของซูจี เชื่อว่า ผู้นำทั้งคู่ถูกควบคุมตัวอยู่ในบ้านพักในกรุงเนปิดอ ขณะที่พวกสมาชิกสภาของเอ็นแอลดีถูกกักบริเวณในที่พักสำหรับสมาชิกรัฐสภา โดยมีทหารเฝ้าอยู่ด้านนอก

เมื่อถึงตอนบ่าย จี โต เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของพรรคเอ็นแอลดี บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางพรรคยังไม่สามารถติดต่อโดยตรงกับซูจี ถึงแม้มีเพื่อนบ้านผู้หนึ่งมองเห็นผู้นำหญิงผู้นี้อยู่ในบ้านพักของเธอในกรุงเนปิดอ

สำหรับพวกรัฐมนตรีของรัฐต่างๆ ทั่วพม่านั้น ส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวจากการกักขังแล้ว แต่ยังคงถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในที่พัก

ในวันอังคาร คณะกรรมการบริหารเอ็นแอลดี ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทหารปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมดโดยเร็วที่สุด

แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้กองทัพยอมรับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนของเอ็นแอลดี และยอมให้สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ที่ตามกำหนดเดิมต้องเปิดประชุมนัดแรกเมื่อวันจันทร์ เริ่มปฏิบัติหน้าที่

ทว่า กองทัพพม่ากลับเดินหน้ารวบอำนาจภายใต้ข้ออ้างว่า มีการโกงการเลือกตั้ง ด้วยการออกประกาศเมื่อคืนวันจันทร์ปลดรัฐมนตรี 24 คนในคณะบริหารของซูจี และแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ 11 คนดูแลกระทรวง

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ถูกเฟซบุ๊กแบนและถูกอเมริกาแซงก์ชันจากปฏิบัติการกวาดล้างมุสลิมโรฮิงญา เป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดขณะนี้ แม้ได้แต่งตั้งอดีตนายพลมิ้น ส่วย ที่เคยเป็นรองประธานาธิบดี เป็นผู้รักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม

กองทัพพม่ายังให้สัญญาจะจัดการเลือกตั้งหลังครบกำหนดการบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินนาน 1 ปี

นักการทูตเผยว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกประชุมฉุกเฉินในวันอังคารเพื่อหารือเกี่ยวกับการรัฐประหารในพม่า เนื่องจากกังวลกับชะตากรรมของชาวโรฮิงญาราว 600,000 คนในประเทศดังกล่าว ขณะที่ทั่วโลกรุมประณามกองทัพพม่าและเรียกร้องให้ปล่อยตัวซูจีทันที

วันจันทร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกา ระบุว่า วิกฤตการณ์นี้เป็นการโจมตีโดยตรงต่อกระบวนการผ่องถ่ายประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมของพม่า วอชิงตันจะร่วมกับพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลกเพื่อจัดการวิกฤตการณ์นี้ รวมทั้งขู่ฟื้นมาตรการแซงก์ชันกับพม่า

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯนั้น ยังไม่ออกมาเรียกการยึดอำนาจของทหารพม่าคราวนี้ว่าเป็นการรัฐประหาร อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศจีนเพียงแค่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของพม่าเคารพรัฐธรรมนูญ และสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนยังระบุว่า การรัฐประหารในพม่าเป็นเพียงการปรับคณะรัฐมนตรี

ดีเร็ก มิตเชลล์ เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำพม่าคนแรกหลังสิ้นสุดระบอบเผด็จการทหาร กล่าวว่า นานาชาติจึงต้องเคารพชัยชนะในการเลือกตั้งของซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพวัย 75 ปีที่ชื่อเสียงด่างพร้อยในสายตาชาวโลก หลังแสดงจุดยืนให้ท้ายกองทัพฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา

รายงานข่าวจากรอยเตอร์แจ้งเพิ่มเติมว่า สนามบินย่างกุ้ง ปิดบริการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือน พ.ค.64 แต่ไม่ระบุวันที่ชัดเจน

หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ไทม์ส รายงานว่า คำสั่งนี้จะมีผลถึงเวลา 23.59 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยระหว่างนี้ผู้เกี่ยวข้องจะยกเลิกใบอนุญาตเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมดที่ขึ้นและลงจอดรวมถึงเที่ยวบินเพื่อการบรรเทาทุกข์ด้วย นอกจากนี้ สนามบินทุกแห่งในเมียนมายังปิดให้บริการด้วย

บิ๊กตู่ ลั่นยึดจุดยืนอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงจุดยืนของประเทศไทยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาว่า "อาเซียน จุดยืนอาเซียน"

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ ที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทย และเมียนมา เฝ้าระวังเกี่ยวกับการลักลอบเข้ามาอย่างเต็มที่

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มชาวเมียนมาในประเทศไทย และกลุ่ม wevo (วีโว่) ที่บริเวณหน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ว่า มีสนธิสัญญารักษาความปลอดภัยสถานทูตเมียนมา เมื่อมีกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งชาวเมียนมาและชาวไทย พบกระทำความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อมาการชุมนุมมีการปิดเส้นทางการจราจร ตำรวจได้ประกาศให้ยุติการชุมนุมทั้งภาษาเมียนมา และภาษาไทย ก็ไม่ยอมยุติ จึงมีความจำเป็นต้องผลักดันผู้ชุมนุมให้ออกจากหน้าสถานทูตเมียนมา และเปิดเส้นทางการจราจร

ผู้ชุมนุมได้ใช้วัตถุขว้างมาเกิดกลุ่มควันและเสียงดัง ตำรวจสังกัด บช.น.ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 15 นาย เบื้องต้นจับกุมผู้ชุมนุมได้ 3 ราย

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก“คณะก้าวหน้า”โพสต์ข้อความเป็นภาษาเมียนมา และให้อ่านภาษาไทย มีเนื้อหาส่วนหนึ่งดังนี้

คณะก้าวหน้า ขอประณามการปล้นอำนาจจากประชาชนชาวเมียนมาในครั้งนี้ การโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ของประชาชน เท่ากับการทำลายหลักการสากลว่าด้วยประชาชนคือผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ

ไม่มีข้ออ้างใดสามารถสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหารได้ เราเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานองค์กร ทั้งของไทย และนานาชาติ ร่วมกันทำทุกวิถีทางเพื่อให้กองทัพเมียนมา หยุดอ้างการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศเพียงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนายพลเพียงไม่กี่คน พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จะต้องคืนอำนาจกลับสู่มือประชาชนโดยเร็วที่สุด และปล่อยตัวนักการเมืองฝั่งประชาธิปไตยทั้งหมด รวมถึงคืนเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน และให้กระบวนการทางการเมืองเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย

คณะก้าวหน้า ขอยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนเมียนมา รวมทั้งพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยในเมียนมา ซึ่งหลายคนเคยร่วมงานกับเราอย่างดีผ่านเครือข่าย SocDem Asia ซึ่งเป็นเครือข่ายระหว่างประเทศของพรรคและกลุ่มการเมืองฝั่งสังคมประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวเมียนมากว่าร้อยคน รวมตัวเรียกร้องต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพเมียนมา โดยผู้ชุมนุมต่างพากันสวมใส่เสื้อสีขาว สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือยาง พากันชูธงชาติเมียนมา ธงพรรคเอ็นแอลดี พร้อมถือป้ายข้อความต่างๆ และรูปของ นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี โดยได้เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องถึงยูเอ็น ผ่านตัวแทนเจ้าหน้าที่ของยูเอ็น


กำลังโหลดความคิดเห็น