ผู้จัดการรายวัน360–สบน.เผยบอนด์ “เราชนะ” บนวอลเล็ต สบม.วงเงิน 5 พันล้าน ขายเกลี้ยงภายในเวลา 8 ชม. มีผู้ซื้อ 9.6 พันราย เฉลี่ยรายละ 4.6 แสนบาท ผู้ที่พลาดโอกาสให้รอซื้อล็อต 2 วงเงิน 5.5 หมื่นล้าน ผ่าน 4 ธนาคารตัวแทน 5 ก.พ. “อาคม”แย้มเยียวยาแรงงานประกันสังคม ม.33 อาจคล้ายเราชนะ คาดสรุปเร็วๆ นี้
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “เราชนะบนวอลเล็ต สบม.” วันแรก วานนี้ (1 ก.พ.) ว่า มีผู้ลงทะเบียนวอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) จองซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเปิดจำหน่าย โดยครึ่งวันแรกสามารถจำหน่ายได้แล้ว 3,500 ล้านบาท จากวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และประชาชนคุ้นเคยกับแอปพลิเคชันเป๋าตังมากขึ้น จึงเป็นช่องทางการลงทุนที่สะดวกในยุคโควิด-19 ทำให้จำหน่ายได้ครบ 5,000 ล้านบาท ภายใน 8 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราชนะบนวอลเล็ต สบม.” มียอดผู้จองซื้อเกือบ 9,600 คน อายุตั้งแต่ 16 ปี ถึง 94 ปี ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานตอนต้นจนถึงวัยก่อนเกษียณ โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ ผู้ลงทุนวัยหลังเกษียณให้ความสนใจลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. เพิ่มขึ้นคิดเป็นถึงเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนรายการทั้งหมด และจำนวนรายการผู้ลงทุนในต่างจังหวัดมากกว่ารอบที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรู้จักและเข้าถึงเป๋าตังของประชาชน มีวงเงินซื้อเฉลี่ยต่อรายเกือบ 460,000 บาท
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “เราชนะ” บนวอลเล็ต สบม. วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3.00% ต่อปี จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี ปีที่ 3-4 อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี และปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.00% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พลาดโอกาสสามารถจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “เราชนะ” ที่จะจำหน่ายผ่าน 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ กรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ ในวันที่ 5 ก.พ.2564 โดยจะจำหน่ายรุ่น 5 ปี และ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 2.00 ต่อปี และร้อยละ 2.50 ต่อปี ตามลำดับ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการเยียวยาแรงงานผู้ประกันตนมาตรา 33 ว่า กระทรวงแรงงานได้มาหารือเรื่องมาตรการเยียวยาแรงงานผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคม จำนวน 11 ล้านคนแล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณารายละเอียดและหลักเกณฑ์กับกระทรวงแรงงานอีกครั้งถึงจำนวนเงินที่จ่ายชดเชยให้คนกลุ่มนี้ควรเป็นเท่าไร ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด โดยรูปแบบอาจคล้ายโครงการเราชนะ ที่จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “เราชนะบนวอลเล็ต สบม.” วันแรก วานนี้ (1 ก.พ.) ว่า มีผู้ลงทะเบียนวอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) จองซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเปิดจำหน่าย โดยครึ่งวันแรกสามารถจำหน่ายได้แล้ว 3,500 ล้านบาท จากวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และประชาชนคุ้นเคยกับแอปพลิเคชันเป๋าตังมากขึ้น จึงเป็นช่องทางการลงทุนที่สะดวกในยุคโควิด-19 ทำให้จำหน่ายได้ครบ 5,000 ล้านบาท ภายใน 8 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราชนะบนวอลเล็ต สบม.” มียอดผู้จองซื้อเกือบ 9,600 คน อายุตั้งแต่ 16 ปี ถึง 94 ปี ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานตอนต้นจนถึงวัยก่อนเกษียณ โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ ผู้ลงทุนวัยหลังเกษียณให้ความสนใจลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. เพิ่มขึ้นคิดเป็นถึงเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนรายการทั้งหมด และจำนวนรายการผู้ลงทุนในต่างจังหวัดมากกว่ารอบที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรู้จักและเข้าถึงเป๋าตังของประชาชน มีวงเงินซื้อเฉลี่ยต่อรายเกือบ 460,000 บาท
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “เราชนะ” บนวอลเล็ต สบม. วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3.00% ต่อปี จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี ปีที่ 3-4 อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี และปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.00% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พลาดโอกาสสามารถจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “เราชนะ” ที่จะจำหน่ายผ่าน 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ กรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ ในวันที่ 5 ก.พ.2564 โดยจะจำหน่ายรุ่น 5 ปี และ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 2.00 ต่อปี และร้อยละ 2.50 ต่อปี ตามลำดับ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการเยียวยาแรงงานผู้ประกันตนมาตรา 33 ว่า กระทรวงแรงงานได้มาหารือเรื่องมาตรการเยียวยาแรงงานผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคม จำนวน 11 ล้านคนแล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณารายละเอียดและหลักเกณฑ์กับกระทรวงแรงงานอีกครั้งถึงจำนวนเงินที่จ่ายชดเชยให้คนกลุ่มนี้ควรเป็นเท่าไร ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด โดยรูปแบบอาจคล้ายโครงการเราชนะ ที่จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน