“กาละแมร์” โผล่ชี้แจง กมธ.สาธารณสุข สภาฯ ยันทำของดีใช้เอง-ขายเอง รีวิวตามประสบการณ์-ความรู้สึก อ้างมือใหม่ตั้งใจทำมาหากิน ไม่รู้ กม.-ประกาศ อย. ใช้ความรู้สึกรีวิวสินค้าไม่ได้ ลั่นเดินหน้าทำต่อ-ไม่ทำผิดซ้ำ ทนายป้องเตรียมเชิญลูกค้า
วานนี้ (28 ม.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร จัดประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาสรรพคุณและผลกระทบต่อสุขภาพซึ่งเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเชิญตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คณบดีคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย รวมถึง น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรชื่อดังที่กำลังถูกดำเนินคดีข้อหาโฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมเกินจริง เข้ามาชี้แจงให้ข้อมูล
โดย น.ส.พัชรศรี เปิดเผยภายหลังชี้แจงต่อ กมธ.ว่า ทาง กมธ.เชิญมาให้ข้อมูลในฐานะผู้ประกอบการ เป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพราะตนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องประกาศ อย. แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมายมาก
“ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่า เราไม่สามารถพูดในแง่ความรู้สึกของเราได้ ก็คิดว่าเราสามารถพูดได้ตามประสบการณ์ตรง และความรู้สึกของเรา รวมถึงรวบรวมรีวิวประสบการณ์ตรงของลูกค้าที่มีตัวตนจริงว่า รับประทานแล้วรู้สึกอย่างไร เราเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน และทำผลิตภัณฑ์ที่ดีให้คน แต่ไม่ทราบกฎหมาย” น.ส.พัชรศรี
ส่วนเรื่องคดีความที่ อย.แจ้งไว้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นั้น น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ตั้งแต่มีหมายเรียกมายังไม่เคยได้รับโทรศัพท์ เมื่อได้หมายเรียก ก็ให้ทนายความติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา วันนี้ก็ได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าติดภารกิจมาให้ข้อมูล กมธ. จึงขอเลื่อนการพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปก่อน ยืนยันว่าไม่ได้เพิกเฉย
เมื่อถามว่า บก.ปคบ.ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ก.พ. น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้
เมื่อถามว่าจะยังคงขายผลิตภัณฑ์ต่อหรือไม่ น.ส.พัชรศรีกล่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่งที่มีเจตนาที่ดีในการทำผลิตภัณฑ์ เลือกวัตถุดิบที่ดีทุกอย่าง เพราะกินเองขายเอง และรีวิวเอง และยังมีพนักงานอีกกว่า 100 ชีวิตที่จะต้องเราก็ทำต่อไป ครั้งนี้จะไปปรับปรุงองค์กรและทำทุกอย่างให้ดีขึ้น พัฒนาตนเอง ผลิตภัณฑ์ การบริการและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่อะไรที่ต้องปรับปรุงเราก็จะทำเต็มที่
เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีที่มีการรีวิวว่าเมื่อรับประทานแล้วหายป่วยโควิด-19 น.ส.พัชรศรีกล่าวว่า กรณีนี้มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งรีวิวบอกเล่าเรื่องสามี เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจึงอยากรู้รายละเอียด และได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าตัวที่มีตัวตนจริงๆ และเล่าเหตุการณ์ว่าเขาป่วยไม่สบาย และเมื่อรับประทานแล้วค่าต่างๆ ลดลงจนสามารถกลับบ้านได้ ด้วยความตื่นเต้นดีใจทำให้ขาดความรอบคอบ และต้องการบอกเล่า
ขณะที่ นายนิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวเสริมว่า เรื่องหมายเรียกนั้นยืนยันว่าจะไปตามหมายเรียก และคงไม่รอให้มีหมายเรียกครั้งที่ 2 เพราะจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อน โดยได้ประสานไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า ระหว่างคิวหมายเรียกของตำรวจ กับการเชิญของ กมธ.สาธารณสุข คิวไหนมาก่อน นายนิติธรกล่าวว่า หมายเรียกตำรวจมาก่อน แต่เราเลือกที่จะมาชี้แจงต่อ กมธ .เพราะมองว่าเวลาเราคุยกับตำรวจเราจะรู้ และทราบข้อกล่าวหา แต่เราไม่รู้รายละเอียด แต่วันนี้ที่เราอาจจะรู้รายละเอียดได้เพราะ กมธ.เชิญหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา และเราจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ด้วยเพื่อจะได้กำหนดแนวทางในการดำเนินคดีได้ถูก
ส่วนเรื่องรับประทานแล้วหายป่วยจากโควิด-19 นั้น นายนิติธร กล่าวว่า ยืนยันไม่มีเรื่องการหลอกลวงแน่นอน แต่ขาดความรอบคอบในการศึกษาข้อกฎหมาย น.ส.พัชรศรี ก็ยอมรับในตรงนี้ และในส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่มีคนไข้ที่บอกว่ากินแล้วหายจากโควิด-19 นั้น เราคงต้องไปนำลูกค้ารายนี้มาเป็นพยานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่เราพูดไปว่ามีเกิดขึ้นจริง
อีกด้าน พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพทศย์ รองผบก.ปคบ. กล่าวว่า เบื้องต้น น.ส.พัชรศรี ได้มีหนังสือแจ้งมายังพนักงานสอบสวน ขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจไปประชุมกับ กมธ.สาธารณสุข ที่สภาผู้แทนราษฎร จึงไม่สามารถเดินทางมาตามนัดหมายได้ พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. จึงได้พิจารณามีความเห็น ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มาพบในวันอังคารที่ 9 ก.พ. 64 เวลา 11.00 น. หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีกก็จำเป็นต้องออกหมายจับต่อไป
“นอกจากกรณีของ น.ส.พัชรศรี แล้ว อย.ยังได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.พิจารณาเอาผิดนักร้องชื่อดัง ที่โฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบหลักฐานที่ อย.รวบรวมส่งมา คาดว่าจะเรียกตัวมารับทราบข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ มาตรา 40 และ 41 เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.พัชรศรี” พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีนักร้องชื่อดังนั้น หมายถึง นายประยงค์ บัวงาม หรือ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ายี่ห้อหนึ่ง
วานนี้ (28 ม.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร จัดประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาสรรพคุณและผลกระทบต่อสุขภาพซึ่งเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเชิญตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คณบดีคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย รวมถึง น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรชื่อดังที่กำลังถูกดำเนินคดีข้อหาโฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมเกินจริง เข้ามาชี้แจงให้ข้อมูล
โดย น.ส.พัชรศรี เปิดเผยภายหลังชี้แจงต่อ กมธ.ว่า ทาง กมธ.เชิญมาให้ข้อมูลในฐานะผู้ประกอบการ เป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพราะตนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องประกาศ อย. แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมายมาก
“ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่า เราไม่สามารถพูดในแง่ความรู้สึกของเราได้ ก็คิดว่าเราสามารถพูดได้ตามประสบการณ์ตรง และความรู้สึกของเรา รวมถึงรวบรวมรีวิวประสบการณ์ตรงของลูกค้าที่มีตัวตนจริงว่า รับประทานแล้วรู้สึกอย่างไร เราเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน และทำผลิตภัณฑ์ที่ดีให้คน แต่ไม่ทราบกฎหมาย” น.ส.พัชรศรี
ส่วนเรื่องคดีความที่ อย.แจ้งไว้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นั้น น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ตั้งแต่มีหมายเรียกมายังไม่เคยได้รับโทรศัพท์ เมื่อได้หมายเรียก ก็ให้ทนายความติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา วันนี้ก็ได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าติดภารกิจมาให้ข้อมูล กมธ. จึงขอเลื่อนการพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปก่อน ยืนยันว่าไม่ได้เพิกเฉย
เมื่อถามว่า บก.ปคบ.ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ก.พ. น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้
เมื่อถามว่าจะยังคงขายผลิตภัณฑ์ต่อหรือไม่ น.ส.พัชรศรีกล่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่งที่มีเจตนาที่ดีในการทำผลิตภัณฑ์ เลือกวัตถุดิบที่ดีทุกอย่าง เพราะกินเองขายเอง และรีวิวเอง และยังมีพนักงานอีกกว่า 100 ชีวิตที่จะต้องเราก็ทำต่อไป ครั้งนี้จะไปปรับปรุงองค์กรและทำทุกอย่างให้ดีขึ้น พัฒนาตนเอง ผลิตภัณฑ์ การบริการและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่อะไรที่ต้องปรับปรุงเราก็จะทำเต็มที่
เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีที่มีการรีวิวว่าเมื่อรับประทานแล้วหายป่วยโควิด-19 น.ส.พัชรศรีกล่าวว่า กรณีนี้มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งรีวิวบอกเล่าเรื่องสามี เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจึงอยากรู้รายละเอียด และได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าตัวที่มีตัวตนจริงๆ และเล่าเหตุการณ์ว่าเขาป่วยไม่สบาย และเมื่อรับประทานแล้วค่าต่างๆ ลดลงจนสามารถกลับบ้านได้ ด้วยความตื่นเต้นดีใจทำให้ขาดความรอบคอบ และต้องการบอกเล่า
ขณะที่ นายนิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวเสริมว่า เรื่องหมายเรียกนั้นยืนยันว่าจะไปตามหมายเรียก และคงไม่รอให้มีหมายเรียกครั้งที่ 2 เพราะจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อน โดยได้ประสานไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า ระหว่างคิวหมายเรียกของตำรวจ กับการเชิญของ กมธ.สาธารณสุข คิวไหนมาก่อน นายนิติธรกล่าวว่า หมายเรียกตำรวจมาก่อน แต่เราเลือกที่จะมาชี้แจงต่อ กมธ .เพราะมองว่าเวลาเราคุยกับตำรวจเราจะรู้ และทราบข้อกล่าวหา แต่เราไม่รู้รายละเอียด แต่วันนี้ที่เราอาจจะรู้รายละเอียดได้เพราะ กมธ.เชิญหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา และเราจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ด้วยเพื่อจะได้กำหนดแนวทางในการดำเนินคดีได้ถูก
ส่วนเรื่องรับประทานแล้วหายป่วยจากโควิด-19 นั้น นายนิติธร กล่าวว่า ยืนยันไม่มีเรื่องการหลอกลวงแน่นอน แต่ขาดความรอบคอบในการศึกษาข้อกฎหมาย น.ส.พัชรศรี ก็ยอมรับในตรงนี้ และในส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่มีคนไข้ที่บอกว่ากินแล้วหายจากโควิด-19 นั้น เราคงต้องไปนำลูกค้ารายนี้มาเป็นพยานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่เราพูดไปว่ามีเกิดขึ้นจริง
อีกด้าน พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพทศย์ รองผบก.ปคบ. กล่าวว่า เบื้องต้น น.ส.พัชรศรี ได้มีหนังสือแจ้งมายังพนักงานสอบสวน ขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจไปประชุมกับ กมธ.สาธารณสุข ที่สภาผู้แทนราษฎร จึงไม่สามารถเดินทางมาตามนัดหมายได้ พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. จึงได้พิจารณามีความเห็น ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มาพบในวันอังคารที่ 9 ก.พ. 64 เวลา 11.00 น. หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีกก็จำเป็นต้องออกหมายจับต่อไป
“นอกจากกรณีของ น.ส.พัชรศรี แล้ว อย.ยังได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.พิจารณาเอาผิดนักร้องชื่อดัง ที่โฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบหลักฐานที่ อย.รวบรวมส่งมา คาดว่าจะเรียกตัวมารับทราบข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ มาตรา 40 และ 41 เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.พัชรศรี” พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีนักร้องชื่อดังนั้น หมายถึง นายประยงค์ บัวงาม หรือ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ายี่ห้อหนึ่ง