ผู้จัดการรายวัน360-“ศักดิ์สยาม”ติวเข้ม สั่งรฟท.รื้อผังพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ รับไม่ได้ขาดทุนปีละเกือบ 400 ล. ขณะที่ขีดเส้น 1 เดือน ปรับแผนเดินรถไฟทางไกล เลิกวิ่งเข้าหัวลำโพง ลั่นพ.ย. 64 ต้องไม่มีรถไฟวิ่งแก้ปัญหาจุดตัดถนน จำเป็นจริงๆ ให้วิ่ง 4 ทุ่ม-ตี 4 ดันเปิด PPP ประมูลที่ 5 แปลงรอบย่านพหลฯปีนี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการเปิดเดินรถ โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่สถานีกลางบางซื่อ และทดสอบระบบเดินรถจากสถานีบางซื่อ-ตลิ่งชัน ว่า นโยบายในการบริหารพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ คือต้องมีรายได้มากกว่ารายจ่าย ซึ่งในระหว่างที่รอการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนสายสีแดง (PPP) ช่วง 3-4 ปี หรือในช่วงปี 2564-2567 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะบริหารเอง ซึ่งการศึกษา พบว่า มีค่าบริหารจัดการ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าทำความสะอาด ค่ารักษาความปลอดภัย ค่าซ่อมบำรุง รวม4 ปี ประมาณ 1,440 ล้านบาท ขณะที่ พื้นที่ของสถานีที่จะนำมาบริหารเชิงพาณิชย์ 5 % (39,000 ตรม.) จะสร้างรายได้ประมาณ 267 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าขาดทุนมาก ดังนั้นจึงยังไม่สามารถยอมรับและนำไปสู่การปฏิบัติได้
หลักคิดคือ สถานีกลางซื่อลงทุนไปกว่า 30,000 ล้านบาท แต่พอเปิดให้บริการขาดทุน คงยอมรับไม่ได้ เท่าที่ดู จุดเคาน์เตอร์ขายตั๋วใหญ่มาก แต่จำเป็นหรือไม่เพราะมีตู้ระบบอัตโนมัติที่นำมาใช้ได้ จึงให้รฟท.กลับไปทำแผนใหม่ ให้เวลา 1 สัปดาห์ จะปรับการใช้พื้นที่เป็นSmart Station คิดง่ายๆ รฟท.ต้องไปหาทางสร้างรายได้ให้ได้ประมาณ 400 ล้านบาท/ปี เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ก็ต้องไปคิดว่าจะใช้พื้นที่แค่ไหน พัฒนาอย่างไร อย่ายึดกับผลการศึกษาที่พาไปขาดทุน ตอนนี้ต้องหลับตา ลบภาพเดิม แล้วคิดใหม่
นอกจากนี้จะต้องพิจารณาจัดสรรพื้นในสถานีกลางบางซื่อ สำหรับกลุ่มสินค้าโอทอปให้เข้ามาใช้พื้นที่สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนร่วมกันทั้งสองฝ่าย ภายใต้หลัก Profit Sharing หรือแบ่งปันกำไรกัน และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยเป้าหมายเปิดให้บริการได้ภายในเดือนก.ค. 2564
ส่วนเส้นทาง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มีจำนวน 3 สถานี คือ บางซื่อ-บางบำหรุ-ตลิ่งชัน ซึ่งใช้ระยะเดินทางประมาณ 15 นาที เท่านั้นเร็วกว่าถนนที่ใช้เวลา ประมาณ1 ชั่วโมง ซึ่งสายสีแดงจะเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชน แต่เนื่องจากโครงสร้างต่างๆ มีการก่อสร้างเสร็จมากว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้น รฟท.จะต้องมีการซ่อมบำรุง ให้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการเดินรถ โดยใช้เวลา 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.64)
ขีดเส้น 1 ด. ปรับแผนเดินรถ เลิกใช้หัวลำโพง
สำหรับการ ปิดสถานีหัวลำโพงนั้น เป้าหมายคือ เมื่อเปิดเดินรถสายสีแดง เดือนพ.ย. 2564 จะต้องไม่มีขบวนรถไฟทางไกลวิ่งเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) อีกแล้ว จากแผนที่รฟท.เสนอ ว่ายังมีการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพงไปจนถึงปี 2566 ซึ่งตนเห็นว่า รฟท.สามารถปรับให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ ทั้งนี้หากมีข้อจำกัด ความจำเป็นที่จะต้องเดินรถบางขบวนเข้าหัวลำโพง จะให้ปรับตารางเวลาเดินรถที่จำเป็น วิ่งเข้าหัวลำโพงช่วงระหว่าง 22.00 น.-04.00น. เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจร ที่เป็นจุดตัดกับถนน
นอกจากนี้ ให้รฟท.ไปคิดว่า เส้นทางเข้าหัวลำโพง เมื่อไม่มีรถไฟวิ่งไปแล้วจะนำมาปรับปรุงเพื่อใช้ประโยชน์ให้ประชาชนได้อย่างไร เช่น ทำเป็นทางวิ่งสำหรับออกกำลังกาย ส่วนพื้นที่ข้างทางจะปรับปรุงเพื่อพื้นที่ค้าขาย โดยมีการจัดระเบียบให้เรียบร้อย และสะอาด เป็นต้น ส่วนสถานีหัวลำโพง จะปรับปรุงเป็นแลนด์มาร์กและสามารถเลี้ยงตัวเองได้ และรักษาพร้ออมกับการพัฒนา ให้รฟท.ศึกษา คือทำอย่างไรมีรายได้มากกว่ารายจ่าย
เรื่องนี้ให้ประธานบอร์ดรฟท. ,ผู้ว่าฯรฟท. และปลัดคมนาคม รับไปดำเนินการ ให้ได้ข้อสรุปและทำแผนใหม่ภายใน 30 วัน เพื่อตัดสินใจ และเสนอนายกรัฐมนตรี เช่น จัดหาระบบขนส่งมวลชนอื่น รับผู้โดยสารเข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นรถขสมก. หรือรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำแผนบูรณาการกัน เพื่อแก้ปัญหา เป็นโจทย์ที่ให้รฟท.ไปทำแผนมา เน้นจะต้องไม่ตัดการจราจรได้อย่างไร
เปิดประมูล พัฒนาที่ดินย่านพหลฯ 5 แปลงในปีนี้
ส่วนการบริหารพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2,325 ไร่ ซึ่งมีแบ่งออกเป็น 9 แปลงนั้น เบื้องต้น รฟท.ยืนยันว่า 5 แปลงแรก คือ แปลง A E G D B จะสามารถออกเงื่อนไข RFP เปิดประมูลได้ในปี 2564 ซึ่งจะมีทั้งการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย สำนักงาน ศูนย์การค้า เป็นคอมมูนิตี้ ครบวงจรได้ในพื้นที่ ส่วน อีก 4 แผลงคือ แปลง C F H I ซึ่ง ยังไม่มีความพร้อมเนื่องจากต้องย้ายโรงซ่อมรถจักรบางซื่อ สถานีขนส่งหมอชิต ให้รฟท.เร่งไปทำไทม์ไลน์การดำเนินการรื้อย้ายหรือการจัดการพื้นที่ เพื่อกำหนดการประมูล เพื่อให้พื้นที่ 4 แปลงหลัง ได้ตัวผู้พัฒนาในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องจาก 5 แปลงแรก
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการเปิดเดินรถ โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่สถานีกลางบางซื่อ และทดสอบระบบเดินรถจากสถานีบางซื่อ-ตลิ่งชัน ว่า นโยบายในการบริหารพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ คือต้องมีรายได้มากกว่ารายจ่าย ซึ่งในระหว่างที่รอการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนสายสีแดง (PPP) ช่วง 3-4 ปี หรือในช่วงปี 2564-2567 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะบริหารเอง ซึ่งการศึกษา พบว่า มีค่าบริหารจัดการ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าทำความสะอาด ค่ารักษาความปลอดภัย ค่าซ่อมบำรุง รวม4 ปี ประมาณ 1,440 ล้านบาท ขณะที่ พื้นที่ของสถานีที่จะนำมาบริหารเชิงพาณิชย์ 5 % (39,000 ตรม.) จะสร้างรายได้ประมาณ 267 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าขาดทุนมาก ดังนั้นจึงยังไม่สามารถยอมรับและนำไปสู่การปฏิบัติได้
หลักคิดคือ สถานีกลางซื่อลงทุนไปกว่า 30,000 ล้านบาท แต่พอเปิดให้บริการขาดทุน คงยอมรับไม่ได้ เท่าที่ดู จุดเคาน์เตอร์ขายตั๋วใหญ่มาก แต่จำเป็นหรือไม่เพราะมีตู้ระบบอัตโนมัติที่นำมาใช้ได้ จึงให้รฟท.กลับไปทำแผนใหม่ ให้เวลา 1 สัปดาห์ จะปรับการใช้พื้นที่เป็นSmart Station คิดง่ายๆ รฟท.ต้องไปหาทางสร้างรายได้ให้ได้ประมาณ 400 ล้านบาท/ปี เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ก็ต้องไปคิดว่าจะใช้พื้นที่แค่ไหน พัฒนาอย่างไร อย่ายึดกับผลการศึกษาที่พาไปขาดทุน ตอนนี้ต้องหลับตา ลบภาพเดิม แล้วคิดใหม่
นอกจากนี้จะต้องพิจารณาจัดสรรพื้นในสถานีกลางบางซื่อ สำหรับกลุ่มสินค้าโอทอปให้เข้ามาใช้พื้นที่สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนร่วมกันทั้งสองฝ่าย ภายใต้หลัก Profit Sharing หรือแบ่งปันกำไรกัน และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยเป้าหมายเปิดให้บริการได้ภายในเดือนก.ค. 2564
ส่วนเส้นทาง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. มีจำนวน 3 สถานี คือ บางซื่อ-บางบำหรุ-ตลิ่งชัน ซึ่งใช้ระยะเดินทางประมาณ 15 นาที เท่านั้นเร็วกว่าถนนที่ใช้เวลา ประมาณ1 ชั่วโมง ซึ่งสายสีแดงจะเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชน แต่เนื่องจากโครงสร้างต่างๆ มีการก่อสร้างเสร็จมากว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้น รฟท.จะต้องมีการซ่อมบำรุง ให้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการเดินรถ โดยใช้เวลา 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.64)
ขีดเส้น 1 ด. ปรับแผนเดินรถ เลิกใช้หัวลำโพง
สำหรับการ ปิดสถานีหัวลำโพงนั้น เป้าหมายคือ เมื่อเปิดเดินรถสายสีแดง เดือนพ.ย. 2564 จะต้องไม่มีขบวนรถไฟทางไกลวิ่งเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) อีกแล้ว จากแผนที่รฟท.เสนอ ว่ายังมีการเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพงไปจนถึงปี 2566 ซึ่งตนเห็นว่า รฟท.สามารถปรับให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ ทั้งนี้หากมีข้อจำกัด ความจำเป็นที่จะต้องเดินรถบางขบวนเข้าหัวลำโพง จะให้ปรับตารางเวลาเดินรถที่จำเป็น วิ่งเข้าหัวลำโพงช่วงระหว่าง 22.00 น.-04.00น. เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจร ที่เป็นจุดตัดกับถนน
นอกจากนี้ ให้รฟท.ไปคิดว่า เส้นทางเข้าหัวลำโพง เมื่อไม่มีรถไฟวิ่งไปแล้วจะนำมาปรับปรุงเพื่อใช้ประโยชน์ให้ประชาชนได้อย่างไร เช่น ทำเป็นทางวิ่งสำหรับออกกำลังกาย ส่วนพื้นที่ข้างทางจะปรับปรุงเพื่อพื้นที่ค้าขาย โดยมีการจัดระเบียบให้เรียบร้อย และสะอาด เป็นต้น ส่วนสถานีหัวลำโพง จะปรับปรุงเป็นแลนด์มาร์กและสามารถเลี้ยงตัวเองได้ และรักษาพร้ออมกับการพัฒนา ให้รฟท.ศึกษา คือทำอย่างไรมีรายได้มากกว่ารายจ่าย
เรื่องนี้ให้ประธานบอร์ดรฟท. ,ผู้ว่าฯรฟท. และปลัดคมนาคม รับไปดำเนินการ ให้ได้ข้อสรุปและทำแผนใหม่ภายใน 30 วัน เพื่อตัดสินใจ และเสนอนายกรัฐมนตรี เช่น จัดหาระบบขนส่งมวลชนอื่น รับผู้โดยสารเข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นรถขสมก. หรือรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำแผนบูรณาการกัน เพื่อแก้ปัญหา เป็นโจทย์ที่ให้รฟท.ไปทำแผนมา เน้นจะต้องไม่ตัดการจราจรได้อย่างไร
เปิดประมูล พัฒนาที่ดินย่านพหลฯ 5 แปลงในปีนี้
ส่วนการบริหารพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2,325 ไร่ ซึ่งมีแบ่งออกเป็น 9 แปลงนั้น เบื้องต้น รฟท.ยืนยันว่า 5 แปลงแรก คือ แปลง A E G D B จะสามารถออกเงื่อนไข RFP เปิดประมูลได้ในปี 2564 ซึ่งจะมีทั้งการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย สำนักงาน ศูนย์การค้า เป็นคอมมูนิตี้ ครบวงจรได้ในพื้นที่ ส่วน อีก 4 แผลงคือ แปลง C F H I ซึ่ง ยังไม่มีความพร้อมเนื่องจากต้องย้ายโรงซ่อมรถจักรบางซื่อ สถานีขนส่งหมอชิต ให้รฟท.เร่งไปทำไทม์ไลน์การดำเนินการรื้อย้ายหรือการจัดการพื้นที่ เพื่อกำหนดการประมูล เพื่อให้พื้นที่ 4 แปลงหลัง ได้ตัวผู้พัฒนาในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องจาก 5 แปลงแรก