“เงิน” เป็นกระดาษที่ “คม” มาก ผู้คนที่ยึด “พระเจ้าเงินตรา” เป็นสรณะ จึงพร้อมจะ “ตัด” กับ “ขาย” พ่อแม่พี่น้องลูกเมียและญาติมิตร ยิ่งไปกว่านั้น คือพร้อมจะ “ขาย” ชาติกับประชาชนอีกด้วย!
“นักการเมือง” ที่ใจโลภหลง มักจะแสวงหาและกอบโกย “เงินตรา” ให้ตนกับพวกอย่างมิรู้จักพอ โดยมิได้สนใจในเรื่องถูกหรือผิด ควรหรือไม่ควร ชอบธรรมหรืออธรรม ฯลฯ
ด้วย “นักการเมืองเลว” นั่นแหละ ที่เป็นตัวการ เป็นต้นเหตุปัญหา ที่ทำให้ชาติกับประชาชนต้องเจอะเจอกับเหตุการณ์อันเลวร้ายนานัปการ ส่งผลให้ชาติไทยไม่พัฒนาเท่าที่ควร อีกทั้งยังทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องยากจนลงกว่าเดิม ถึงขั้นหาเช้าไม่พอกินค่ำ
โดยเฉพาะยามที่ “โควิด-19” ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ ทั้งในชาติไทยและทั่วโลก ยิ่งทำให้เศรษฐกิจทรุดฮวบลงอย่างรุนแรง ก่อเกิดความเสียหายใหญ่หลวงไปทั่วทั้งโลก
สถานการณ์เลวร้ายอย่างยิ่งเช่นนี้ เป็นห้วงที่ “นักการเมือง” กับ “ข้าราชการ” ต้องร่วมมือร่วมใจกันคิดค้นและเสนอแนะ วิธีแก้ปัญหาหลายหลากอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนำพาชาติกับประชาชน ให้ก้าวพ้นวิกฤตใหญ่หลวงนี้ไปให้ได้ไวที่สุด
ประชาชนต้องการ “นักการเมือง” กับการเมืองที่สร้างสรรค์ โดยนักการเมืองฝ่ายค้านต้องกล้าเสนอแนะ กล้าติงเตือน กล้าตรวจสอบ กล้าเปิดเผยหลักฐานความไม่โปร่งใสของรัฐบาลนี้ ในการทำโครงการใหญ่น้อยต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดผลประโยชน์ชาติกับประชาชนเป็นที่ตั้ง ฯลฯ
นักการเมืองทั้งรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ต้องไม่ใช้ข้อมูลที่บิดเบือน หรือเท็จทั้งดุ้น นำมาเล่นการเมืองให้ร้ายป้ายสีกันและกันอย่างสามานย์ จนกลายเป็นการเมืองที่ทำร้ายทำลายชาติกับประชาชน
แต่ที่ผ่านมา สองพรรคฝ่ายค้านหลัก ทั้งพรรค “เพื่อไทย” และ “ก้าวไกล” ยังทำการเมืองกันอย่างสะเปะสะปะ มีทั้งล้าหลังและก้าวหน้าสุดโต่ง จนมิได้ช่วยผลักดันให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้การเมือง “ถอยหลังลงคลอง” ส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำดิ่งเหวอยู่ในวันนี้เสียฉิบ ฯลฯ
จากบทบาทนักการเมืองของฝ่ายค้าน ในแทบทุกครั้งที่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาชนจึงไม่ได้ดอกผลเท่าที่ควร เพราะฝ่ายค้านยังด้อยต่อการชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องผิดพลาดในการบริหารชาติของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” อีกทั้งมีเรื่องการคอร์รัปชันในโครงการต่างๆ ด้วย
ทั้งๆ ที่รัฐบาล “นายกฯ บิ๊กตู่” กับ “ครม.” ชุดนี้ มีข้อผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวมากมาย ทั้งจากการ “พูดแล้วไม่ทำ” “พูดอย่างทำอย่าง” รวมทั้งการบริหารชาติด้อยวิสัยทัศน์ จนทำให้ผู้มีรายได้น้อยและคนยากจน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในชาติ มองไม่เห็นถึงอนาคตอันสดใสแจ่มแจ๋วแม้แต่น้อย...
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ “ผู้นำรัฐบาล” และ “เจ้าของพรรคฝ่ายค้าน” ยังเล่นการเมืองแบบ “ถอยหลังลงคลอง” เช่นเดิม โดย “ตู่-เหลี่ยม-ทอน” ทำให้ “ส.ส.” เป็นดั่ง “ลูกสมุน” ที่ไร้สมอง เพราะต้องทำตาม “เจ้านายสั่ง” เท่านั้น...จริงไหม?
แม้แต่ “ม็อบล้มเจ้า” ที่นำโดย “อานนท์-กวิน-รุ้ง” ซึ่งมี “ทอน-บุด-ช่อ” คอยให้ท้าย กับแผนลวงหลอกบังหน้ากับข้ออ้างที่ว่า ต้องการจะ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” เท่านั้น ทั้งๆ ที่ “แกนนำม็อบหลายคน” ได้เปิดเผยแล้วว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวของม็อบครั้งนี้ ต้องการจะเปลี่ยนราชอาณาจักรให้เป็นสาธารณรัฐ
อ้าว...งั้นถ้าไม่ใช่ “ทอน-บุด-ช่อ” โกหก ก็ต้อง “อานนท์-กวิน-รุ้ง” ตอแหลน่ะสิ? แต่ที่แน่ๆ ด้วยข้อเรียกร้องที่มุ่งทำร้าย หมายจะโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงทำให้ “บิ๊กทอน” กับพวกติดกับดัก เจอะเจอประชาชนเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” ไล่ไปทุกหัวระแหง เมื่อครั้ง “ทอน” กับพวก ลงไปช่วยหาเสียงการเลือกตั้ง “นายกฯ อบจ.” ซึ่งกลุ่มก้าวหน้าของ “ทอน” แพ้แบบหมดรูป ไม่ได้ “นายกฯ อบจ.” สักคนเดียว
ยามนี้บางพรรคของ “ฝ่ายค้าน” แตกแยกกันเละเทะ! “ม็อบล้มเจ้า” ที่ชูข้อเรียกร้องผิดพลาด จากการไล่ “นายกฯ บิ๊กตู่” กับต้องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีพันธมิตรพร้อมเข้าร่วมมากมาย แต่ดันมาหลงทาง อยู่กับการมุ่งโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างหยาบคาย ทำให้พลังม็อบแตกกระสานซ่านเซ็น
“ม็อบล้มเจ้า” ที่เมื่อแรกดูขึงขังน่าเกรงขาม จึงถดถอยด้อยพลังลงเรื่อยๆ แถมกลายเป็น “ม็อบเด็กเลี้ยงแกะ” ไร้ค่าเสื่อมราคา อีกทั้งแกนนำทั้งหลายยังทำผิดกฎหมายสารพัดกันระนาว โดยเฉพาะกฎหมายมาตรา 112
ห้วงนี้... “บิ๊กทอน” กับพวก ทั้งในและนอกสภาฯ จึงต้องเคลื่อนไหวให้ยกเลิกมาตรา 112 เพื่อไม่ต้องติดคุกหรือลี้ภัยไปอยู่ต่างแดนนั่นเอง
สำหรับ “ทอน-บุด-ช่อ” นั้น “ย.ห.พ.ข” แปลว่า “อย่าห่วงพวกเขา” เลย เพราะ “บิ๊กทอน” คงไม่ทิ้ง “ช่อดอกไม้จันทน์” แน่นอน “ทอน” ต้องพา “ช่อ” ไปสุขสันต์หรรษา นั่งสวาปาม “ไก่ทอดผู้พันแซนเดอร์ส” ในแดน “ลุงแซม” แถวเมือง “เคนตักกี้” ที่ “บิ๊กทอน” มีโรงงานใหญ่โตอยู่แถวนั้น ส่วน “บุดแดงเดือด” ก็คงเกาะชายกระโปรงเมียฝรั่ง ไปนั่งจิบกาแฟเคล้าครัวซองต์ บนฟุตบาทในกรุงปารีส ที่ “ปรีดี” เคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง...
ส่วนรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่อยู่ยาวนานเกือบ 7 ปี จากรัฐบาลเผด็จการอำนาจเต็มร้อย ที่ไม่ปฏิรูปชาติ ไม่ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ปราบการโกงชาติ ฯลฯ มาเป็นรัฐบาลเลือกตั้งร้อยพ่อพันแม่ ที่ขัดแย้งกันเสมอ และอ่อนแอจนไม่อาจแก้ต้นเหตุปัญหาใดๆ ให้ชาติได้
รัฐบาล “บิ๊กตู่” ก็คงจะอยู่ไปเรื่อยๆ เพราะโชคดีที่ “ฝ่ายค้าน” ...บ่มิไก๊!
เฮ้อ...!! “ไร้น้ำยา”... ทั้งคู่ (ว่ะ)...!!!,