พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 271 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ศบค.จับตา 17-31 ม.ค. ประเมินสถานการณ์ผ่อนปรน 28 จังหวัดควบคุมสูงสุด ลุ้นยอดติดเชื้อลดลง พร้อมเปิดตัว “หมอเบิร์ท” ช่วยงานทีมโฆษก
วานนี้ (14 ม.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 271 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 259 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 78 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 181 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 11 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มมี 717 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 11,262 ราย รักษาหายแล้ว 7,660 ราย กำลังรักษาอยู่ในรพ. 3,533 ราย เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 69 ราย
“ในจำนวนนี้ หากคิดเฉพาะผู้ป่วยยืนยันสะสมจากการระบาดระลอกใหม่ จะอยู่ที่ 7,025 ราย และเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 9 ราย เมื่อแยกย่อยเป็นรายสัปดาห์จะเห็นว่า สัปดาห์แรกของปี 64 กราฟยังพุ่งสูงขึ้น มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 2,674 ราย แต่สัปดาห์นี้กราฟลดลงมา ขณะนี้เหลืออีก 2 วัน แต่ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,209 ราย ถือว่าวางใจได้ระดับหนึ่ง แต่ยังกลัววันเดียวพรวดขึ้นมาแล้วช็อก เราจึงต้องช่วยกันเพื่อลดกราฟลงมาให้ได้” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ
ลุ้นยอดลดช่วง 17-31 ม.ค.
เมื่อถามถึงการออกมาตรการครั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งเมื่อใด เพื่อเข้าสู่มาตรการผ่อนคลาย นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ล่าสุดมีการประกาศมาตรการออกมาในวันที่ 4 ม.ค. 64 ดังนั้น ที่ประชุม ศบค.จึงนับเป็นวันแรกของการออกมาตรการที่สั่งกันทั่วประเทศ หากนับ 14 วันที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 จะครบในวันที่ 17 ม.ค. โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ทุกจังหวัดสั่งเข้มออกข้อกำหนดทั้งหลายให้เต็มที่ถึงวันที่ 17 ม.ค. และจะต้องประเมินกันอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป ซึ่งการสิ้นสุดการใช้มาตรการชุดนี้ในวันที่ 31 ม.ค. จึงจะเป็นช่วงการดูผลของการออกฤทธิ์ ฉะนั้น หากตัวเลขลดลงเรื่อยๆ ก็เท่ากับว่าเราใช้ยาได้ผล อย่างไรก็ตาม ตลอดเดือน ม.ค.นี้ขอแรงกายแรงใจกับทุกคนให้ช่วยกันทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง จะได้ไม่ต้องเห็นภาพจากการใช้ยาแรง
นพ.ทวีศิลป์ ยังได้กล่าวแนะนำ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือหมอเบิร์ท อำนวยการศูนย์จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่อดีตเคยเป็นผู้ประกาศข่าว และเป็นอดีตนางสาวไทยประจำปี 2542 ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในทีมโฆษก ศบค.เพื่อนำเสนอชุดข้อมูล และช่วยทำความเข้าใจในเรื่องต่างให้ประชาชนรับทราบ ส่วน นพ.ทวีศิลป์ อาจจะต้องออกภาคสนามมากขึ้น
แบดฯโอเพ่นติดเพิ่ม 2 ราย
ด้าน สหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิ้ลยูเอฟ) ออกแถลงการณ์ยืนยัน พบผู้ติดเชื้อโควิดในบับเบิ้ลควอแรนทีน (Bubble Quarantine) ของการแข่งขันแบดมินตันโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 -31 ม.ค.64 เพิ่มอีก 2 ราย เป็นสตาฟฟ์โค้ชเยอรมนี และผู้ติดตามของทีมฝรั่งเศส โดยทั้ง 2 คน ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลและกักตัวที่โรงพยาบาลแล้ว และจะมีการสอบสวนถึงที่มาของการติดเชื้อไวรัสครั้งนี้ต่อไป ขณะที่ผลตรวจล่าสุดนั้น นักกีฬาทั้งหมด ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันก่อน พบนักกีฬาอียิปต์ ติดเชื้อไวรัส 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อแล้ว 4 ราย
แพทย์ยันติดเชื้อจาก ตปท.
โดย นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามมาตรการจะต้องตรวจหาเชื้อก่อนเข้าเมืองไทย และเมื่ออยู่ในสนามแบดมินตันจะเป็นลักษณะบับเบิ้ลโซน (Bubble Zone) ในสถานกักกันโรคที่หน่วยงานจัดไว้ (Organization Quarantine) ซึ่งเป็นการกักตัวและทำกิจกรรมไปด้วย โดยจะถูกกั้นไม่ให้คนนอกเข้าและไม่ให้คนในออก ตรวจหาเชื้อด้วยการแยงจมูกตรวจด้วยวิธี RT-PCR ในผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทุกราย สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศจะตรวจตั้งแต่วันแรกที่ลงเครื่อง ปรากฎว่าผลการติดเชื้อเป็น 0 และตรวจทุกวันเว้นวัน จนกระทั่งถึงวันที่จะเริ่มแข่ง คือวันที่ 11-12 ม.ค. ซึ่งเป็นการตรวจครั้งสุดท้าย และผลตรวจออกมาพบว่า ผลเป็นบวก แต่มีรอบ Ct ค่อนข้างต่ำ แสดงว่าติดเชื้อมาไม่นาน คงติดเชื้อก่อนมาเมืองไทยไม่นาน ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ แต่ให้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล(รพ.) แล้ว
“โดยหลักการแล้ว ผู้ติดเชื้อเดินเข้ามาเพียง 7 วัน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อมาจากประเทศต้นทาง ระหว่างรอขึ้นเครื่อง หรือระหว่างลงเครื่องก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน แต่ที่ผ่านมาคนไทยทุกคนที่อยู่ในบับเบิ้ล ทั้ง พนักงานโรงแรม สมาคมแบดมินตัน ทุกคนถูกสว็อบ(Swab)หมดและตรวจพร้อมกันทุกคน หากตรวจเจอผลบวก ก็ต้องมีคนไทยด้วยถึงจะติดเชื้อในคนไทยได้ เพราะคนไทยก็ตรวจพร้อมกันกับนักแบดมินตันทุกราย” นพ.จักรรัฐ กล่าว
วานนี้ (14 ม.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 271 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 259 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 78 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 181 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 11 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มมี 717 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 11,262 ราย รักษาหายแล้ว 7,660 ราย กำลังรักษาอยู่ในรพ. 3,533 ราย เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 69 ราย
“ในจำนวนนี้ หากคิดเฉพาะผู้ป่วยยืนยันสะสมจากการระบาดระลอกใหม่ จะอยู่ที่ 7,025 ราย และเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 9 ราย เมื่อแยกย่อยเป็นรายสัปดาห์จะเห็นว่า สัปดาห์แรกของปี 64 กราฟยังพุ่งสูงขึ้น มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 2,674 ราย แต่สัปดาห์นี้กราฟลดลงมา ขณะนี้เหลืออีก 2 วัน แต่ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,209 ราย ถือว่าวางใจได้ระดับหนึ่ง แต่ยังกลัววันเดียวพรวดขึ้นมาแล้วช็อก เราจึงต้องช่วยกันเพื่อลดกราฟลงมาให้ได้” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ
ลุ้นยอดลดช่วง 17-31 ม.ค.
เมื่อถามถึงการออกมาตรการครั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งเมื่อใด เพื่อเข้าสู่มาตรการผ่อนคลาย นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ล่าสุดมีการประกาศมาตรการออกมาในวันที่ 4 ม.ค. 64 ดังนั้น ที่ประชุม ศบค.จึงนับเป็นวันแรกของการออกมาตรการที่สั่งกันทั่วประเทศ หากนับ 14 วันที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 จะครบในวันที่ 17 ม.ค. โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ทุกจังหวัดสั่งเข้มออกข้อกำหนดทั้งหลายให้เต็มที่ถึงวันที่ 17 ม.ค. และจะต้องประเมินกันอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป ซึ่งการสิ้นสุดการใช้มาตรการชุดนี้ในวันที่ 31 ม.ค. จึงจะเป็นช่วงการดูผลของการออกฤทธิ์ ฉะนั้น หากตัวเลขลดลงเรื่อยๆ ก็เท่ากับว่าเราใช้ยาได้ผล อย่างไรก็ตาม ตลอดเดือน ม.ค.นี้ขอแรงกายแรงใจกับทุกคนให้ช่วยกันทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง จะได้ไม่ต้องเห็นภาพจากการใช้ยาแรง
นพ.ทวีศิลป์ ยังได้กล่าวแนะนำ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือหมอเบิร์ท อำนวยการศูนย์จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่อดีตเคยเป็นผู้ประกาศข่าว และเป็นอดีตนางสาวไทยประจำปี 2542 ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในทีมโฆษก ศบค.เพื่อนำเสนอชุดข้อมูล และช่วยทำความเข้าใจในเรื่องต่างให้ประชาชนรับทราบ ส่วน นพ.ทวีศิลป์ อาจจะต้องออกภาคสนามมากขึ้น
แบดฯโอเพ่นติดเพิ่ม 2 ราย
ด้าน สหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิ้ลยูเอฟ) ออกแถลงการณ์ยืนยัน พบผู้ติดเชื้อโควิดในบับเบิ้ลควอแรนทีน (Bubble Quarantine) ของการแข่งขันแบดมินตันโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 -31 ม.ค.64 เพิ่มอีก 2 ราย เป็นสตาฟฟ์โค้ชเยอรมนี และผู้ติดตามของทีมฝรั่งเศส โดยทั้ง 2 คน ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลและกักตัวที่โรงพยาบาลแล้ว และจะมีการสอบสวนถึงที่มาของการติดเชื้อไวรัสครั้งนี้ต่อไป ขณะที่ผลตรวจล่าสุดนั้น นักกีฬาทั้งหมด ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันก่อน พบนักกีฬาอียิปต์ ติดเชื้อไวรัส 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อแล้ว 4 ราย
แพทย์ยันติดเชื้อจาก ตปท.
โดย นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามมาตรการจะต้องตรวจหาเชื้อก่อนเข้าเมืองไทย และเมื่ออยู่ในสนามแบดมินตันจะเป็นลักษณะบับเบิ้ลโซน (Bubble Zone) ในสถานกักกันโรคที่หน่วยงานจัดไว้ (Organization Quarantine) ซึ่งเป็นการกักตัวและทำกิจกรรมไปด้วย โดยจะถูกกั้นไม่ให้คนนอกเข้าและไม่ให้คนในออก ตรวจหาเชื้อด้วยการแยงจมูกตรวจด้วยวิธี RT-PCR ในผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทุกราย สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศจะตรวจตั้งแต่วันแรกที่ลงเครื่อง ปรากฎว่าผลการติดเชื้อเป็น 0 และตรวจทุกวันเว้นวัน จนกระทั่งถึงวันที่จะเริ่มแข่ง คือวันที่ 11-12 ม.ค. ซึ่งเป็นการตรวจครั้งสุดท้าย และผลตรวจออกมาพบว่า ผลเป็นบวก แต่มีรอบ Ct ค่อนข้างต่ำ แสดงว่าติดเชื้อมาไม่นาน คงติดเชื้อก่อนมาเมืองไทยไม่นาน ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ แต่ให้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล(รพ.) แล้ว
“โดยหลักการแล้ว ผู้ติดเชื้อเดินเข้ามาเพียง 7 วัน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อมาจากประเทศต้นทาง ระหว่างรอขึ้นเครื่อง หรือระหว่างลงเครื่องก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน แต่ที่ผ่านมาคนไทยทุกคนที่อยู่ในบับเบิ้ล ทั้ง พนักงานโรงแรม สมาคมแบดมินตัน ทุกคนถูกสว็อบ(Swab)หมดและตรวจพร้อมกันทุกคน หากตรวจเจอผลบวก ก็ต้องมีคนไทยด้วยถึงจะติดเชื้อในคนไทยได้ เพราะคนไทยก็ตรวจพร้อมกันกับนักแบดมินตันทุกราย” นพ.จักรรัฐ กล่าว
