"โสภณ องค์การณ์"
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษก็จริงแต่ภาวะวิกฤตก็ช่วยเปิดหน้ากากและธาตุแท้ของกำมะลอให้ชาวบ้านได้เห็นเช่นเดียวกัน
เห็นว่าใครเป็นของแท้และใครเป็นของเทียมแท้จริง
และภัยจากโรคระบาดซึ่งประชาชนไทยเกือบทั่วประเทศกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้สะท้อนให้เห็นขีดความสามารถในการจัดการปัญหาโดยกลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐว่ามีมากน้อยเพียงใด
ยิ่งมีประเด็นเกี่ยวโยงกับการทุจริตคอรัปชั่นที่หยั่งรากลงลึกในประเทศนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพของเครือข่ายการทำงานภาคราชการซึ่งส่งผลให้โครงสร้างประเทศอยู่ในสภาพผุกร่อนพร้อมล้มครืนได้
สาเหตุหลักก็คือการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเครือข่ายกว้างขวาง
รัฐไทยซึ่งมี 3 ลุงเป็นผู้กุมอำนาจมานานเจ็ดปีและยังอยากอยู่ต่ออีกนานเท่านานกำลังเผชิญความท้าทายว่าเป็นรัฐล้มเหลวโดยสมบูรณ์หรือไม่เพราะประเด็นผู้นำขาดความกล้าหาญทางการเมืองในการจัดการปัญหา
ถ้าพิจารณาลีลาสไตล์การทำงานของคณะ 3 ลุงจะเห็นได้ชัดว่าคุณค่าของความเป็นผู้นำถูกวิกฤตศรัทธากัดกร่อนแทบไม่เหลือ ต้นทุนทางสังคมก็ร่อยหรอ ความน่าเชื่อถือมีปัญหา การยอมรับในความสามารถต่ำกว่ามาตรฐาน ยกเว้นพวกที่ยกย่องบูชาหรือความหน้ามืดตามัวหรือเป็นกลุ่มประเภท “ติ่ง” นั่นเอง
ที่ผ่านมาคณะผู้กลุ่มอำนาจรัฐถูกทดสอบความกล้าหาญทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถูกมองว่าสอบไม่ผ่านเมื่อเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่มีความละเอียดอ่อนในสภาพของสังคมที่มีการตรวจสอบก็ยิ่งทำให้หมดสภาพ
เมื่อประเมินลีลาท่าทีของคณะสามลุงแล้วจะมองได้ว่า 1 ลุงแสดงออกถึงความฮึกเหิมห้าวหาญ พูดจากร้าวแกร่ง เหมือนจะเป็นผู้นำประเทศสตรองแมนเฉียบขาดแต่อนิจจากลับกลายเป็นท่าดีทีเหลวจากผลงานที่ล้มเหลวหลายครั้ง
อีก 1 ลุงมีบารมี ผู้คนยำเกรงและเหมือนจะมีอิทธิพลและพลังมีฐานแข็งแกร่งในกลุ่มนักการเมืองและคนมีสีในหน่วยงานต่างๆ แต่ไม่ปรากฏผลงานเป็นที่พอใจของประชาชนอยู่ไปแต่ละวันมีความชัดเจนและความคิดหรือนโยบาย หลายกรณีกลายเป็นผู้ถูกมองว่าเป็นตัวตลกทางการเมือง
กรณีการพูดจาก็อ้อแอ้คล้ายทารกจับต้นชนปลายไม่ติดกลายเป็นตัวถ่วง ด้านภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของรัฐบาล แต่กลายเป็นบุคคลที่จะขาดไม่ได้สำหรับการเป็นฐานกำลังแข็งแกร่งของรัฐบาล
อีก 1 ลุงพูดน้อยซึมลึกคาดเดาความเคลื่อนไหวและบทบาทได้ยากแต่ถูกมองว่าเป็นตัวฉกาจที่สุดและเก็บอาการทุกอย่างในด้านความสุขุมลุ่มลึก แต่ฝีมือการบริหารก็ไม่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
ความล้มเหลวในด้านการควบคุมคนเข้าเมืองและเครือข่ายของบ่อนการพนันเห็นชัดและเจ้าตัวไม่มีความเห็นแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบอย่างไรทั้งสิ้น
ยิ่งมีหลายเรื่องล้มเหลวและก่อวิกฤตศรัทธายิ่งสะท้อนให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพและความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของคณะ 3 ลุงชัดเจน
กรณีของทายาทกระทิงแดงซึ่งยังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศเป็นมวยล้มต้มคนดูซ้ำซาก แม่ผู้นำรัฐบาลจะแสดงให้เห็นมาดน่าเกรงขามดูเอาจริงเอาจัง เมื่อถูกสื่อซักไซ้ไล่เรียงแต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องแบบเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียงไร้ความน่าเชื่อถือ
ทุกวันนี้ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าทำไมคดีถึงไม่คืบหน้าหรือติดขัดอะไร มีปัญหาอะไร หรือมีอิทธิพลอะไรอยู่เหนือรัฐบาล พวกกุมอำนาจต่างอยู่ในอาการบื้อใบ้ไร้จิตสำนึกของการรับผิดชอบต่อหน้าที่ของผู้รักษากฎหมายและกติกาของบ้านเมือง
การประทุของเชื้อโคโรนาไวรัสในภาคตะวันออกจากบ่อนการพนันในจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราดซึ่งกำลังสร้างวิกฤตอย่างรุนแรงจนเกิดความกังวลทุกระดับว่าจะเอาไม่อยู่นั้น ล้วนเป็นผลมาจากบ่อนการพนันในพื้นที่เหล่านั้นและผู้ประกอบการเจ้าของเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างน่าเหลือเชื่อ
ทุกวันนี้เจ้าของบ่อนก็ยังลอยนวลทั้งที่คนทั้งประเทศก็รู้ว่าเป็น “หลงจู๊สมชาย” และยิ่งเวลาผ่านไปก็ถูกมองว่าเพียงแค่ 1 หลงจู๊ก็มีอิทธิพลเหนือ 3 ลุงซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบกและเป็นแกนนำของรัฐบาลที่น่าสนใจก็คือบ่อนเหล่านี้มีมาตั้งแต่ยุคของการรัฐประหารและอยู่รอดมาได้จนถึงการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส
เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อว่าหลงจู๊คนเดียวจะไม่มีใครกล้าแตะ ถึงแม้จะมีสื่อมวลชนและแรงกดดันจากสังคมต่อรัฐบาลก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้รับผิดชอบประเทศและผู้นำรัฐบาลไม่รู้สึกว่าต้องจัดการหรือในกรณีล้มเหลวควรจะรู้สึกอาย
บ่อนการพนันในภาคตะวันออกเป็นแหล่งแพร่เชื้อขนาดใหญ่นอกเหนือจากแรงงานต่างด้าวในจังหวัดสมุทรสาครก็ยังมีการระบาดในพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครซึ่งก็มีสิ่งที่ตำรวจและรัฐบาลเรียกว่าเป็นการลักลอบเล่นการพนันและไม่มีบ่อนซึ่งสร้างความขบขันแบบประชาชนหัวเราะไม่ออกจะร้องให้ก็ไม่ได้
มีแต่ความรู้สึกอนาถในชะตากรรมของประเทศที่ต้องเป็นรัฐล้มเหลวในการรักษากฎหมายเพราะบ่อนการพนันเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคซึ่งสร้างวิกฤตความมั่นคงให้กับประเทศและยังไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่
ความเป็นผู้นำที่กล้าหาญในการตัดสินใจปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและแก้ไขวิกฤตต่างๆ เท่านั้นจึงมีคุณค่าเพียงพอสำหรับการนำพาประเทศและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ถ้าพิจารณาคณะปัจจุบันต้องถือว่าห่างชั้นเพราะไม่สามารถปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการระบาดครั้งใหญ่ครั้งนี้ได้ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายความมั่นคง
เรื่องบ่อนการพนัน ได้เป็นทั้งตราบาปและจุดอ่อนของรัฐบาล 3 ลุง โดยไม่สามารถแก้ตัวกับประชาชนได้ และยิ่งไม่แสดงท่าทีว่าจะแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้โดยจัดการนายบ่อนอย่างเด็ดขาดก็ยิ่งทำให้ประชาชนรู้สึกสิ้นหวังในรัฐบาลนี้
ประชาชนต้องทนทุกข์กับความเสี่ยงกับการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส รอบใหม่และปัญหาเศรษฐกิจซึ่งหนักหนาสาหัสกว่าครั้งแรกยิ่งรัฐบาลไม่กล้าทำอะไรเด็ดขาดยังเกรงใจภาคธุรกิจก็ยิ่งทำให้มาตรการขยักขย่อนไม่เห็นผลเต็มที่และถ้าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ความเร็วร้ายต่อภาวะเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศโดยรวมก็จะรุนแรง
ประชาชนคงต้องพึ่งตัวเองตามสภาพส่วนชะตากรรมของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับผลงานที่จะแก้ไขปัญหารวมถึงขีดความสามารถในการอยู่รอดท่ามกลางความล้มเหลวซ้ำซาก
ดังนั้นชะตากรรมของประเทศไทยจึงยังไม่สามารถคาดเดาได้