ผู้จัดการรายวัน360- ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 365 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 250 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย กทม.ติดเชื้อรวมแล้ว 244 ราย พบ ร.ต.อ.รองสารวัตรจราจร สน.ภาษีเจริญ ติดเชื้อโควิดจากเมีย พบไทมไลน์ไปเดินตลาดบางใหญ่ ก่อนระบาดหนัก ขณะที่สมุทรสาครติดเชื้อเพิ่ม 146 ราย สะสม 3,084 ราย สธ.คาด 2 สัปดาห์ข้างหน้ายอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจากบ่อน-ชนไก่-สถานบันเทิงพุ่งแน่ นายกฯ ยืนยันภายในปีนี้คนไทยอย่างน้อย 50% ต้องได้รับวัคซีนโควิด - 19 ฟรี
วานนี้ (6 ม.ค.) เวลา 11.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 365 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 250 ราย เป็นผู้ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 99 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 16 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ส่วนมีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 21 ราย
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต เป็นชายไทยอายุ 63 ปี อาชีพรับส่งแรงงานเพื่อนบ้านใน จ.สมุทรสาคร มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง วันที่ 27 ธ.ค. 63 มีอาการป่วย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ วันที่ 31 ธ.ค. 2563 อาการไม่ดีขึ้น และได้มีอาการไตวายขึ้น ต้องฟอกเลือด จนมาถึงวันที่ 5 ม.ค. 64 ก็เสียชีวิต สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ของไทยทั้ง 365 ราย มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 215 ราย อยู่ในระหว่างสอบสวน 35 ราย ด้านค้นหาคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 99 ราย โดยในวันนี้ผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 56 จังหวัด
ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 9,331 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 7,249 ราย ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกแรงงานต่างด้าว 2,575 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2,082 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1,548 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 21 ราย รวมเป็น 4,418 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 66 ราย
กทม.สรุปพบผู้ติดเชื้อรวมแล้ว 244 ราย
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สรุปกทม.พบผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 63–5 ม.ค. 64 รวม 244 ราย จากการสอบสวนโรคแล้ว เป็นคนต่างจังหวัดที่ Admitรพ.ในพื้นที่กทม. 52 ราย และเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่กทม. 192 คน การติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการมีประวัติเชื่อมโยงกับ จ.สมุทรสาคร จ.ระยอง การไปสถานบันเทิง
รองสารวัตรจราจรภาษีเจริญ ติดโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ภาษีเจริญ เซ็นหนังสือบันทึกข้อความถึง บก.น.9 ลงวันที่ 5 ม.ค.64 แจ้งว่า มีผู้ใต้บังคับบัญชาในสถานี ยศ ร.ต.อ.รอง สว.จร. ติดเชื้อไวรัสโควิด หลังเข้าไปตรวจที่ รพ.เกษมราษฎร์บางแค เบื้องต้นทราบว่า ติดเชื้อมาจากภรรยา ที่ไปเดินซื้อของที่ตลาดสดบางใหญ่ ซึ่งในขณะนี้เป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่มาฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อที่บริเวณโรงพัก ทั้งด้านนอกและด้านในอาคารทั้งหมด รวมไปถึงที่จอดรถ และวันที่ 6 ม.ค. จะมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคซ้ำอีกครั้ง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดกักตัว 14 วัน
โดยไทม์ไลน์ ร.ต.อ.นายดังกล่าว เมือวันที่ 24-25 ธ.ค. ไปตลาดบางใหญ่ จ.นนทบุรี ด้วยรถยนต์ส่วนตัว และเดินทางไปประชุมที่สำนักงานเขต จากนั้นไปปฏิบัติหน้าที่ จุดเพชรราชพฤกษ์ วันที่ 26 ธ.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน วันที่ 27-30 ธ.ค. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่จุดเพชรราชพฤกษ์ วันที่ 31 ธ.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน วันที่ 1 ม.ค. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่จุดเพชรราชพฤกษ์ วันที่ 2 ม.ค. ตอนเย็นไปตลาดสดแถวบ้าน ตลาดกรุงนนท์ ย่านตลิ่งชัน วันที่ 3 ธ.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน วันที่ 4 ม.ค. ไปตรวจหาเชื้อโควิด กระทั่งวันที่ 5 ม.ค. แพทย์แจ้งผลว่าติดเชื้อ และให้มารักษาตัวที่ รพ.เกษมราษฎร์
สมุทรสาคร พบติดเชื้อโควิด เพิ่ม 146 ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาคร รายใหม่ 146 ราย รวม 3,084 ราย โดยเป็นผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 109 ราย คนไทย 2 และต่างด้าวอีก 107 ราย ขณะที่ ผู้ป่วยในโรงพยาบาล 37 ราย เป็นไทย 29 ราย และต่างด้าว 8 ราย ทั้งนี้ หายป่วยแล้ว 982 ราย คิดเป็นร้อยละ 31.84 เสียชีวิตสะสม 1 ราย
นายกฯ ยันภายในปีนี้คนไทย50%ได้รับวัคซีนฟรี
ขณะที่ เพจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-chaโพสต๋ข้อความระบุว่าภายในปีนี้คนไทยอย่างน้อย 50% ต้องได้รับวัคซีนโควิด - 19 ฟรี รัฐบาลพร้อมส่งเสริมบทบาทไทยในภูมิภาค ให้เป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด - 19 และผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์
รัฐบาลมีแผนการฉีดวัคซีน "ฟรี" เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนชาวไทยให้ได้อย่างน้อย 50% หรือครึ่งประเทศ ภายในปีนี้ครับ
โดย "ระยะเร่งด่วน" เราจะได้รับวัคซีนฯ ล็อตแรก 2 ล้านโดส จากบริษัท ซิโนแวค ประเทศจีน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายนนี้ ซึ่ง 2 แสนโดสแรก (เดือน ก.พ.) ตั้งเป้าจะฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุก่อน จากนั้นเดือนมีนาคมและเมษายน จะได้รับอีก 8 แสนโดส และ 1 ล้านโดส ตามลำดับ นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้สั่งจองจากบริษัท แอสตราเซเนกา อีก 26 ล้านโดส กำหนดรับมอบภายในเดือนพฤษภาคม และจัดหาเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ซึ่งก็จะทยอยอนุมัติและส่งมอบต่อไป (รวมเป็น 63 ล้านโดส) เพื่อสร้าง "ความมั่นคงด้านสุขภาพ" ให้กับชาวไทย ซึ่งผมขอย้ำว่า "คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี" นะครับ
สำหรับ "ระยะยั่งยืน" เราได้ตั้งศูนย์การผลิตในประเทศอยู่ที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีโรงงานอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างใหม่ โดยได้การรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาแล้ว สามารถผลิตวัคซีนตามมาตรฐานของอ็อกฟอร์ดและแอสตราเซนเนกา โดยมีกำลังการผลิตที่ 200 ล้านโดสต่อปี นอกจากนี้ คณะแพทยศาสตร์และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็จะเป็นอีกแหล่งผลิตภายในประเทศ ที่มีองค์ความรู้ มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนที่ทันต่อวิวัฒนาการของเชื้อโรคได้ในอนาคต สร้าง "ความมั่นคงด้านสาธารณสุข" และส่งเสริมบทบาทให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด หรือวัคซีนโรคอื่นๆ ในภูมิภาค
ผมมองว่า "ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส" ใครที่มีวิสัยทัศน์ สร้างความพร้อม ย่อมได้รับประโยชน์ โดยในวิกฤตโควิดนี้ หากเราทำตามสิ่งที่ผมเล่ามาได้ ก็จะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางด้านการแพทย์ (Medical Hub)" ได้อีกด้วยครับ
แต่ระหว่างรอกระบวนการ รอรับวัคซีน ตามระยะเวลาที่ผมบอก ขอให้พวกเราทุกคนระมัดระวังในการใช้ชีวิต อย่าประมาทกับเชื้อโรค ช่วยกันอีกครั้ง หยุดเชื้อเพื่อชาติ ต้องสวมหน้ากากเสมอ เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ล้างมือบ่อยๆ นะครับ ไม่ใช่เพื่อใคร..แต่เพื่อตัวเราและคนรอบข้างที่เรารัก รวมถึงประเทศไทยของเราครับ
คาด 2 สัปดาห์ยอดติดเชื้อโยง "บ่อน-สถานบันเทิง" พุ่งแน่
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยถึงแนวโน้มการระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศไทย คาดการณ์ว่า อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะยังมีการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้น มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากจะเป็นผู้ติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาครแล้ว คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อจากบ่อนการพนันที่จังหวัดระยองสนามชนไก่ในจังหวัดอ่างทอง รวมทั้งร้านอาหารและสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ที่ตอนนี้เชื้อยังอยู่ในระยะฟักตัว จึงจำเป็นต้องมีการยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งมีมาตรการทางสังคมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยมีเป้าหมายหลักคือ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากการระบาดรอบใหม่ มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 คน
วานนี้ (6 ม.ค.) เวลา 11.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 365 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 250 ราย เป็นผู้ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 99 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 16 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ส่วนมีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 21 ราย
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต เป็นชายไทยอายุ 63 ปี อาชีพรับส่งแรงงานเพื่อนบ้านใน จ.สมุทรสาคร มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง วันที่ 27 ธ.ค. 63 มีอาการป่วย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ วันที่ 31 ธ.ค. 2563 อาการไม่ดีขึ้น และได้มีอาการไตวายขึ้น ต้องฟอกเลือด จนมาถึงวันที่ 5 ม.ค. 64 ก็เสียชีวิต สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ของไทยทั้ง 365 ราย มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 215 ราย อยู่ในระหว่างสอบสวน 35 ราย ด้านค้นหาคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 99 ราย โดยในวันนี้ผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 56 จังหวัด
ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 9,331 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 7,249 ราย ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกแรงงานต่างด้าว 2,575 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2,082 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1,548 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 21 ราย รวมเป็น 4,418 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 66 ราย
กทม.สรุปพบผู้ติดเชื้อรวมแล้ว 244 ราย
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สรุปกทม.พบผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 63–5 ม.ค. 64 รวม 244 ราย จากการสอบสวนโรคแล้ว เป็นคนต่างจังหวัดที่ Admitรพ.ในพื้นที่กทม. 52 ราย และเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่กทม. 192 คน การติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการมีประวัติเชื่อมโยงกับ จ.สมุทรสาคร จ.ระยอง การไปสถานบันเทิง
รองสารวัตรจราจรภาษีเจริญ ติดโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ภาษีเจริญ เซ็นหนังสือบันทึกข้อความถึง บก.น.9 ลงวันที่ 5 ม.ค.64 แจ้งว่า มีผู้ใต้บังคับบัญชาในสถานี ยศ ร.ต.อ.รอง สว.จร. ติดเชื้อไวรัสโควิด หลังเข้าไปตรวจที่ รพ.เกษมราษฎร์บางแค เบื้องต้นทราบว่า ติดเชื้อมาจากภรรยา ที่ไปเดินซื้อของที่ตลาดสดบางใหญ่ ซึ่งในขณะนี้เป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่มาฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อที่บริเวณโรงพัก ทั้งด้านนอกและด้านในอาคารทั้งหมด รวมไปถึงที่จอดรถ และวันที่ 6 ม.ค. จะมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคซ้ำอีกครั้ง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดกักตัว 14 วัน
โดยไทม์ไลน์ ร.ต.อ.นายดังกล่าว เมือวันที่ 24-25 ธ.ค. ไปตลาดบางใหญ่ จ.นนทบุรี ด้วยรถยนต์ส่วนตัว และเดินทางไปประชุมที่สำนักงานเขต จากนั้นไปปฏิบัติหน้าที่ จุดเพชรราชพฤกษ์ วันที่ 26 ธ.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน วันที่ 27-30 ธ.ค. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่จุดเพชรราชพฤกษ์ วันที่ 31 ธ.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน วันที่ 1 ม.ค. ไปปฏิบัติหน้าที่ที่จุดเพชรราชพฤกษ์ วันที่ 2 ม.ค. ตอนเย็นไปตลาดสดแถวบ้าน ตลาดกรุงนนท์ ย่านตลิ่งชัน วันที่ 3 ธ.ค. พักผ่อนอยู่บ้าน วันที่ 4 ม.ค. ไปตรวจหาเชื้อโควิด กระทั่งวันที่ 5 ม.ค. แพทย์แจ้งผลว่าติดเชื้อ และให้มารักษาตัวที่ รพ.เกษมราษฎร์
สมุทรสาคร พบติดเชื้อโควิด เพิ่ม 146 ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาคร รายใหม่ 146 ราย รวม 3,084 ราย โดยเป็นผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 109 ราย คนไทย 2 และต่างด้าวอีก 107 ราย ขณะที่ ผู้ป่วยในโรงพยาบาล 37 ราย เป็นไทย 29 ราย และต่างด้าว 8 ราย ทั้งนี้ หายป่วยแล้ว 982 ราย คิดเป็นร้อยละ 31.84 เสียชีวิตสะสม 1 ราย
นายกฯ ยันภายในปีนี้คนไทย50%ได้รับวัคซีนฟรี
ขณะที่ เพจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-chaโพสต๋ข้อความระบุว่าภายในปีนี้คนไทยอย่างน้อย 50% ต้องได้รับวัคซีนโควิด - 19 ฟรี รัฐบาลพร้อมส่งเสริมบทบาทไทยในภูมิภาค ให้เป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด - 19 และผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์
รัฐบาลมีแผนการฉีดวัคซีน "ฟรี" เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนชาวไทยให้ได้อย่างน้อย 50% หรือครึ่งประเทศ ภายในปีนี้ครับ
โดย "ระยะเร่งด่วน" เราจะได้รับวัคซีนฯ ล็อตแรก 2 ล้านโดส จากบริษัท ซิโนแวค ประเทศจีน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายนนี้ ซึ่ง 2 แสนโดสแรก (เดือน ก.พ.) ตั้งเป้าจะฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุก่อน จากนั้นเดือนมีนาคมและเมษายน จะได้รับอีก 8 แสนโดส และ 1 ล้านโดส ตามลำดับ นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้สั่งจองจากบริษัท แอสตราเซเนกา อีก 26 ล้านโดส กำหนดรับมอบภายในเดือนพฤษภาคม และจัดหาเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ซึ่งก็จะทยอยอนุมัติและส่งมอบต่อไป (รวมเป็น 63 ล้านโดส) เพื่อสร้าง "ความมั่นคงด้านสุขภาพ" ให้กับชาวไทย ซึ่งผมขอย้ำว่า "คนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี" นะครับ
สำหรับ "ระยะยั่งยืน" เราได้ตั้งศูนย์การผลิตในประเทศอยู่ที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีโรงงานอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างใหม่ โดยได้การรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาแล้ว สามารถผลิตวัคซีนตามมาตรฐานของอ็อกฟอร์ดและแอสตราเซนเนกา โดยมีกำลังการผลิตที่ 200 ล้านโดสต่อปี นอกจากนี้ คณะแพทยศาสตร์และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็จะเป็นอีกแหล่งผลิตภายในประเทศ ที่มีองค์ความรู้ มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนที่ทันต่อวิวัฒนาการของเชื้อโรคได้ในอนาคต สร้าง "ความมั่นคงด้านสาธารณสุข" และส่งเสริมบทบาทให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด หรือวัคซีนโรคอื่นๆ ในภูมิภาค
ผมมองว่า "ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส" ใครที่มีวิสัยทัศน์ สร้างความพร้อม ย่อมได้รับประโยชน์ โดยในวิกฤตโควิดนี้ หากเราทำตามสิ่งที่ผมเล่ามาได้ ก็จะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางด้านการแพทย์ (Medical Hub)" ได้อีกด้วยครับ
แต่ระหว่างรอกระบวนการ รอรับวัคซีน ตามระยะเวลาที่ผมบอก ขอให้พวกเราทุกคนระมัดระวังในการใช้ชีวิต อย่าประมาทกับเชื้อโรค ช่วยกันอีกครั้ง หยุดเชื้อเพื่อชาติ ต้องสวมหน้ากากเสมอ เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ล้างมือบ่อยๆ นะครับ ไม่ใช่เพื่อใคร..แต่เพื่อตัวเราและคนรอบข้างที่เรารัก รวมถึงประเทศไทยของเราครับ
คาด 2 สัปดาห์ยอดติดเชื้อโยง "บ่อน-สถานบันเทิง" พุ่งแน่
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยถึงแนวโน้มการระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศไทย คาดการณ์ว่า อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะยังมีการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มขึ้น มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากจะเป็นผู้ติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาครแล้ว คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อจากบ่อนการพนันที่จังหวัดระยองสนามชนไก่ในจังหวัดอ่างทอง รวมทั้งร้านอาหารและสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ที่ตอนนี้เชื้อยังอยู่ในระยะฟักตัว จึงจำเป็นต้องมีการยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งมีมาตรการทางสังคมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยมีเป้าหมายหลักคือ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากการระบาดรอบใหม่ มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 คน
