ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งขยายเวลา "การบินไทย" นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการถึงวันที่ 4 ก.พ.64 เนื่องจากแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ประกอบด้วย ส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลายประการ ที่จำเป็นต้องพิจารณาวิเคราะห์และกำหนดรูปแบบการปรับโครงสร้างหนี้ โครงสร้างทุนและโครงสร้างองค์กรอย่างรอบด้าน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ กระทำการแทนและในนามผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณา และมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการออกไปจนถึงวันที่ 4 ก.พ.64 โดยหลังจากนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผน และบริษัทฯจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ ตามที่บริษัทฯได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำสั่งคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทฯดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่บริษัทฯเสนอเมื่อวันที่ 14 ก.ย.63 โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ลงโฆษณาคำสั่งตั้งผู้ทำแผนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 ต.ค.63 ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลา3 เดือนตามกฎหมายที่ผู้ทำแผนต้องส่งแผนฟื่นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในวนที่ 2 ม.ค.64 นั้น
โดยบริษัทแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้ทำแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการตามมาตรา 90/43 วรรคสอง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยขอขยายระยะเวลาส่งแผนออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือนนับแต่วันครบกำหนดเดิม
เนื่องจาก แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ประกอบด้วยส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลายประการที่จำเป็นต้องพิจารณาวิเคราะห์ และกำหนดรูปแบบการปรับโครงสร้างหนี้ โครงสร้างทุนและโครงสร้างองค์กรอย่างให้สอดคล้องกับประมาณการทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ตลอดจนแผนธุรกิจในอนาคตรอบด้าน อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย ข้อสัญญาที่มีพนักงานและคู่ค้า ตลอดจนเจ้าหนี้ทั้งหลาย และยังต้องให้สอดคล้องกับประมาณการทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ตลอดจนแผนธุรกิจในอนาคต
อย่างไรก็ดี การจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯของบริษัท จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เวลาพิเคราะห์พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อเจ้าหนี้ทุกฝ่าย และต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกับเจ้าหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในหลักการต่างๆ ที่อยู่ในร่างแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้เห็นพ้องกับหลักการต่างๆนั้นด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ กระทำการแทนและในนามผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณา และมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการออกไปจนถึงวันที่ 4 ก.พ.64 โดยหลังจากนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผน และบริษัทฯจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ ตามที่บริษัทฯได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลาง ได้มีคำสั่งคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทฯดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่บริษัทฯเสนอเมื่อวันที่ 14 ก.ย.63 โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ลงโฆษณาคำสั่งตั้งผู้ทำแผนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 ต.ค.63 ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลา3 เดือนตามกฎหมายที่ผู้ทำแผนต้องส่งแผนฟื่นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในวนที่ 2 ม.ค.64 นั้น
โดยบริษัทแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้ทำแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการตามมาตรา 90/43 วรรคสอง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยขอขยายระยะเวลาส่งแผนออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือนนับแต่วันครบกำหนดเดิม
เนื่องจาก แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ประกอบด้วยส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลายประการที่จำเป็นต้องพิจารณาวิเคราะห์ และกำหนดรูปแบบการปรับโครงสร้างหนี้ โครงสร้างทุนและโครงสร้างองค์กรอย่างให้สอดคล้องกับประมาณการทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ตลอดจนแผนธุรกิจในอนาคตรอบด้าน อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย ข้อสัญญาที่มีพนักงานและคู่ค้า ตลอดจนเจ้าหนี้ทั้งหลาย และยังต้องให้สอดคล้องกับประมาณการทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ตลอดจนแผนธุรกิจในอนาคต
อย่างไรก็ดี การจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯของบริษัท จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เวลาพิเคราะห์พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อเจ้าหนี้ทุกฝ่าย และต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกับเจ้าหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในหลักการต่างๆ ที่อยู่ในร่างแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้เห็นพ้องกับหลักการต่างๆนั้นด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้