xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่ม1.13หมื่นล้านอัดฉีดเข้าสธ.รับมือโควิด-หวั่นกลางม.ค.พุ่ง1.8หมื่นคน/วัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - ศบค.พบติดเชื้อยังสูง 155 ราย เสียชีวิต 1 เตือน 7 วันยอดไม่ลด ต้องยกระดับมาตรการ สธ. ประเมิน 3 รูปแบบ ชี้ไม่ป้องกันกลางม.ค.64 พุ่งเกือบ 2 หมื่นต่อวัน ครม.อนุมัติ1.13 หมื่นล้านเตรียมพร้อมทางการแพทย์ สาธารณสุข รับมือ พร้อมผ่อนผันให้ต่างด้าว 3 สัญชาติอยู่ในประเทศเป็นกรณีพิเศษ “บิ๊กตู่” สั่งกลางครม. ให้ทุกกระทรวงหนุน สธ.-ฝ่ายความมั่นคง ห้ามเคลื่อนย้ายต่างด้าวข้ามจังหวัดเด็ดขาด บี้เอาผิด จนท.เอี่ยวขนแรงงานเถื่อนให้ได้ ไล่เบี้ยตั้งแต่ ผกก. ยัน ผบ.ตร. ส่วนที่ระยอง แถลงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 56 ราย รวมติดเชื้อแล้ว148 ราย ยกระดับพื้นที่เสี่ยงสูง ปิดเพิ่มผับบาร์ทั้งจังหวัด

วานนี้ (29ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 155 ราย ในจำนวนนี้มาจากสถานกักตัวของรัฐ 10 ราย ติดเชื้อในประเทศ 134 ราย ตรวจหาเชื้อเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 11 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,440 ราย หายป่วยสะสม 4,180 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 2,195 ราย

ขณะนี้มีกระจายตัวของผู้ติดเชื้ออยู่ใน 45 จังหวัด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย เป็นชายอายุ 45 ปี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน ขาดการทานยาต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน มี.ค. และมีโรคหัวใจขาดเลือด ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่มีการพบเชื้อและมีความเสี่ยงสูง ทำให้มียอดเสียชีวิตสะสม 61 ราย ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 81,669,521 ราย เสียชีวิต 1,781,442 ราย

สำหรับการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อใป 45 จังหวัดนั้น ถือว่าแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ตัวเลขวันที่ 18-20 ธ.ค.กระจายไป 6 จังหวัด วันที่ 21-23 ธ.ค. กระจายไป 26 จังหวัด วันที่ 24-26 ธ.ค.กระจายไป 37 จังหวัด วันที่ 27-29 ธ.ค.กระจายไป 45 จังหวัด ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงได้จัดทำฉากทัศน์การระบาดรอบใหม่ ประเมินสถานการณ์เป็น 3 รูปแบบ คือ

1.กรณีไม่มีมาตรการใดๆ เลย จะทำให้ช่วงวันที่ 14 ม.ค.64 จะมีผู้ติดเชื้อถึงวันละ 18,000 คน 2.มีมาตรการเฝ้าระวังกันแบบกลางๆ ซึ่งใช้ในปัจจุบัน จะทำให้ช่วงกลางเดือน ม.ค.64 มีผู้ติดเชื้อวันละ 4,000 ราย และปลายเดือน ม.ค.64 มีผู้ติดเชื้ออยู่วันละ 8,000 คน และ3.มีมาตรการเข้มข้น ซึ่งเราเคยใช้ในการระบาดรอบแรก จะมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 1,000 รายต่อวัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันว่า การแพร่ระบาดในประเทศแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ การติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคล และกลุ่มการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน มีสาเหตุมาจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งในการป้องกัน ยังคงจัดแบ่งเป็น 4 พื้นที่ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการแบ่งพื้นที่เพื่อให้ประกาศออกมาในวันที่ 30 ธ.ค. พร้อมสั่งการให้แบ่งพื้นที่ในระดับอำเภอ ตำบล อย่างเช่น จังหวัดระยอง ประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดเฉพาะอ.เมือง ที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก อำเภออื่นก็ไม่จำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อให้ความยุติธรรมกับทางจังหวัด

จากนี้ไปอีก 7 วัน ศปก.ศบค. จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง หากยังไม่ดีขึ้น ศปก.ศบค.จะพิจารณาขออนุมัติ ศบค.ชุดใหญ่ในการปรับปรุงมาตรการ เพราะถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ เอกชนย่อหย่น เราก็ต้องทบทวนมาตรการทั้งหมด แต่ถ้าร่วมมือกันดี ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใดๆ ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดต้องติดตามประกาศของทางผู้ว่าราชการจังหวัด ปีใหม่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะมีตัวเลขติดเชื้อกันสองถึงสามหลัก แต่ยังไม่ถึงขั้น ล็อคดาวน์อย่างแน่นอน เพราะจะกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ"




ผลตรวจกลุ่มเสี่ยงที่สภา เป็นลบ28ราย

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลง สถานการณ์โควิด-19 หลังมีผู้ติดเชื้อเข้าร่วมประชุม คณะอนุกมธ.ศึกษาผลกระทบกาสิโนออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ ที่รัฐสภา เมื่อ 21 ธ.ค.ว่า หลังจากที่ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมวันดังกล่าว ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงานเสิร์ฟ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่คาดว่ามีความเสี่ยงสูง รวม 29 คน ไปตรวจที่รพ.เกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล 24 คน ซึ่งผลออกมา ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 5 คนไปตรวจที่ รพ.เวิลด์เมดิคอล ผลปรากฏว่า 4 คนไม่พบเชื้อ แต่อีก1 คน ผลออกมา ก้ำกึ่ง ยังสรุปผลไม่ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าติดเชื้อ แต่ต้องส่งตรวจเพิ่มเติมโดยให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจอีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลภายใน 1วัน




ครม.อัดงบ 1.13 หมื่นล้าน รับมือโควิดระลอกใหม่

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า เพื่อให้การดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งเรื่องบุคลากร เครื่องมือแพทย์ ยารักษาโรค วัคซีน ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ครม.อนุมัติโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ จำนวน10 โครงการ วงเงินรวม 1.13 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1) กลุ่มเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรค วงเงินรวม 4.33 พันล้านบาท ประกอบด้วย 5 โครงการ คือ 1. โครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สำหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคโควิดในชุมชน จำนวน 1.05 ล้านคน ระยะเวลา 3 เดือน (ม.ค.- มี.ค.64) ผู้รับผิดชอบโครงการ คือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ วงเงิน 1.57 พันล้านบาท 2.โครงการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบคือ กรมควบคุมโรควงเงิน 419.84 ล้านบาท 3.โครงการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ยารักษาโรค วัคซีน และห้องปฏิบัติการ ผู้รับผิดชอบโครงการ คือ กรมควบคุมโรค วงเงิน 503.89 ล้านบาท 4. แผนเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนสำหรับประชาชนชาวไทย ผู้รับผิดชอบโครงการ คือ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ วงเงิน 1.81 พันล้านบาท และ 5.โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการชีวนิรภัย ระดับ 3 ผู้รับผิดชอบโครงการคือ ม.เชียงใหม่ วงเงิน 24 ล้านบาท

2) กลุ่มรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ วงเงินรวม 6.96 พันล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ คือ 1.โครงการพัฒนาศักยภาพระบบบริการสุขภาพ รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของหน่วยงานส่วนภูมิภาค ผู้รับผิดชอบโครงการคือ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 2.037 พันล้านบาท 2. โครงการจัดหายาและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อรองรับสถานการณ์ ของหน่วยบริการสุขภาพ ผู้รับผิดชอบคือ สำนักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 1.92 พันล้านบาท และ 3. โครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้รับผิดชอบคือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วงเงิน 2.99 พันล้านบาท และ 3.) กลุ่มสนับสนุน วงเงินรวม 27.2 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ครม. ได้เห็นชอบการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่




'บิ๊กตู่'สั่งกลาง'ครม.'ให้ทุกกระทรวงหนุน'สธ.-มั่นคง'คุมเข้ม'โควิด'

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในการประชุมครม. มีการพิจารณาให้ความสำคัญไปที่การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้กำชับในช่วงหนึ่งว่า ขอให้ทุกกระทรวงช่วยสนับสนุนงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง

“นายกฯ ได้เน้นย้ำไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวอย่างเด็ดขาด และเน้นเรื่องการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ อย่าให้เกิดปัญหาซ้ำกับพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และระยอง เพราะไม่ต้องการให้ศบค.ถึงขั้นจะต้องออกเป็นข้อห้าม และขณะนี้เป็นการขอความร่วมมือ ยังไม่ถึงขั้นล็อคดาวน์ และอยากให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติอย่างเต็มที่ โดยมีการยกตัวอย่าง เหตุที่เกิดที่จ.ระยอง สมุทรสาคร ที่มีการระบาดใหม่เป็นวงกว้าง และกำชับให้ไปตรวจสอบค้นหาให้ได้ว่า เกิดข้อเท็จจริงอย่างไร ถึงระบาดใหม่ขึ้นและติดแพร่หลายไปทั้งประเทศ ต้องไล่เรียงกันให้ได้ว่า เจ้าหน้าที่ส่วนไหน รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ ผู้กำกับ ผู้การ ขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงขั้นถ้าสุดท้ายจะต้องย้ายผบ.ตร.ก็ต้องทำ ต้องไล่เบี้ยกันไปให้ถึงที่สุด”

อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงตรงนี้ มีรัฐมนตรีบางท่านวิจารณ์กระทรวงสาธารณสุข ไปเผาตำรวจ เผาฝ่ายปกครอง เนื่องจากเมื่อต้องมีการสอบสวนโรคผู้ที่มารายงานตัวก็ต้องให้ข้อมูลโดยละเอียดว่าไปบ่อนที่ไหนมา ไปตู้มวยที่ไหนมา ทำให้ความแตก

ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยกันมากในประเด็นการเดินทางข้ามจังหวัดนั้น ในที่ประชุมครม. นายกฯใช้คำว่า "ขอความร่วมมือ อย่างเช่น ปีใหม่ยังไม่กลับต่างจังหวัดได้หรือไม่ ถ้าไม่จำเป็น เอาไว้ให้ไปวันหยุดพิเศษ วันอื่นที่รัฐบาลจะประกาศให้เป็นช่วงวันหยุดยาว"




นายกฯลงพื้นที่ระยอง ป้องกันตนเอง ไม่อยากป่วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดระยองว่า ตนจะระวังตัวอย่างที่สุด สิ่งแรกคือใส่หน้ากากตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการติดต่อพูดคุยระยะใกล้ ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และระมัดระวังเรื่องการล้างมือ โดยจะใช้แอลกอฮอล์ตลอดเวลา ตนไม่อยากเป็นคนไปแพร่เชื้อหรือติดเชื้อมา เพราะต้องทำงาน ไม่อยากป่วย เพราะจะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง แต่ตนต้องไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ไปดูว่าทำงานครบถ้วนหรือยัง ส่วนที่ จ.สมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ไปดูแลแล้ว

" เรื่องแรงงานต่างด้าว วันนี้ มีมาตรการหลายอย่างเข้าสู่ที่ประชุมครม. ที่จะหามาตรการเหมาะสมดำเนินการในช่วงนี้ แต่ผู้ประกอบธุรกิจเอกชนต้องแจ้ง การใช้แรงงานเท่าไหร่ ทั้งแรงงานมีฝีมือและไม่มีฝีมือ ต้องไม่ปกปิดข้อมูล โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่มีจำนวนมาก รัฐไม่สามารถไปตรวจได้ครบถ้วนในระยะเวลาอันสั้น และคนเหล่านี้ ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ตนได้ให้นโยบายในการผ่อนผัน ขึ้นบัญชีต่างๆ ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ตรงนี้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของโรงงาน หากแจ้งเท็จ จะถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์"

ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ พร้อมคณะ ได้ถึงจังหวัดระยอง นายกฯไปยังจุดตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่และประชาชนกลุ่มเสี่ยง จำนวนเกือบ 100 คน ที่ไปรอคิวตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19

"สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นต้องเฝ้าระวังมาก เนื่องจากแนวโน้มการติดเชื้อยังเพิ่มต่อเนื่อง แต่อย่างไร เชื่อว่าจะสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ หากชาวระยองทุกคนร่วมมือกัน และให้เข้มแข็งเพื่อร่วมฟันฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ โดยรัฐบาลได้ทำทุกวิถีในการแก้ปัญหานี้"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศด้านหน้า รพ.ระยอง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำม็อบคณะราษฎร 63 ได้นำพวงหรีด ข้อความไว้อาลัยแก่นายกฯ มายืนรอเพื่อที่จะพบกับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับมีป้ายข้อความว่า นายกไม่มีสมองมาระยอง=กักตัว




กทม.พบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 14 ราย

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมศบค.กทม.ว่า ที่ประชุมมีมติให้แจ้งด่วน ถึงประชาชนที่ไปใช้บริการ ร้านอาหารอีสานกรองแก้ว และ ร้านน้องใหม่คาราโอเกะหรือร้านน้องใหม่พลาซ่า ซึ่งอยู่ภายในซอยออมสิน หลังห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ตั้งแต่วันที่ 15-29 ธ.ค.63 โดยให้ติดต่อด่วนที่สำนักอนามัย เบอร์02-203-2393 และ02-203-2396 เนื่องจากมีผู้ป่วยจากจ.นนทบุรีมาใช้บริการ และพบพนักงานในร้านติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตามขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 14 ราย รวมทั้งสิ้น 108 ราย โดยในจำนวน 14 ราย มี 11 ราย พบในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนอีก 3 รายอยู่ระหว่างการสอบสวน




ระยองยกระดับ 4 อำเภอ- ปิดห้าง-ผับบาร์-รร.ทั้งจังหวัด

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง พร้อมด้วย นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของ จ.ระยอง มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 56ราย รวมเป็น148 ราย ทั้งหมดที่พบใหม่นี้ เชื่อมโยงจากบ่อนการพนัน ผู้ติดเชื้อกระจายไปหลายอำเภอ ทำให้ต้องยกระดับเพิ่มอีก 4 อำเภอ เป็นพื้นที่ควบคุมประกอบด้วย อ.บ้านฉาง อ.นิคมพัฒนา อ.บ้านค่าย และอ.แกลง

ปิดโรงเรียนทั้งจังหวัด สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิงทั้งจังหวัด ศูนย์เด็กเล่น-ผู้สูงอายุ อาบอบนวด ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต คลีนิคเสริมความงาม อุทยานการเรียนรู้ ห้องสมุด ร้านสัก โรงมหรสพ สวนน้ำ สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร สถานที่ราชการ ร้านบริการเครือข่ายอุปกรณ์มือถือ ยังเปิดได้ ส่วนร้านอาหารในห้าง ให้นำกลับไปรับประทาน ที่สำคัญห้ามจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารเด็ดขาด




นร.ติดเชื้อ 1 รายจากผู้ปกครองเชื่อมโยงบ่อน

น.ส.ภรณ์ภัทร์ธัญ งามวงศ์เงิน ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมตากสิน ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง รายงานว่า พบนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย เชื่อมโยงผู้ปกครองที่เข้าไปที่บ่อนพนัน โดยทางโรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด




ศิริราชติดตามอาการผู้ว่าฯสมุทรสาครใกล้ชิด

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรสาคร ที่ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้นายวีระศักดิ์ อยู่ในห้องไอซียู เพื่อแยกโรค และมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด




สมุทรสาครติดโควิดเพิ่ม 16 ราย ยอดรวมสะสม 1,606 ราย

แฟนเพจ COVID-19 สมุทรสาคร ได้เผยแพร่ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร รายงานโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ยอดล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย เป็นคนไทย 14 ราย ต่างด้าว 2 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมจากการระบาดรอบใหม่อยู่ที่ 1,606 ราย

สำหรับการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนนับจากที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากตลาดกลางกุ้ง เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ได้ดำเนินการไปแล้ว 14,439 ราย ตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว 12,470 ราย มีผลเป็นบวก (พบเชื้อ) 1,370 ราย เป็นคนไทย 80 ราย ต่างด้าว 1,290 ราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เผยพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ รวม 5 ราย คนไทย 5 ราย ในส่วนของจังหวัดชลบุรี พบผู้ป่วยเพิ่ม 12 ราย ทำให้จังหวัดชลบุรีมีผู้ป่วยสะสมรวม 36 ราย ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 12 ราย, อ.บางละมุง 22 ราย, อ.สัตหีบ 2 ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น