“กาลเวลา ย่อมกินตัวมันเอง และอายุของสรรพสัตว์” (รวมถึงอายุของสรรพสิ่ง) นี่คือพุทธพจน์
โดยนัยแห่งพุทธพจน์ดังกล่าวข้างต้น หมายความว่า กาลเวลาได้กินกาลเวลาเอง โดยการเปลี่ยนแปลงจากน้อยไปหามาก คือ จากวินาทีเป็นนที จากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวัน จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี
ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองดังกล่าวข้างต้น ได้ทำให้อายุของสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งเพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นของอายุ ก็กระทำให้การมีชีวิตอยู่น้อยลงทุกๆ ขณะที่กาลเวลาเปลี่ยนไป จึงอาจพูดเป็นสัจธรรมได้ว่า อายุที่สรรพสัตว์ และสรรพสิ่งเพิ่มขึ้นนั้นก็คือ เวลาที่จะอยู่ในโลกนี้น้อยลงนั่นเอง หรือพูดสั้นๆ ได้ว่า อายุที่เราได้มาคือเวลาที่เราเสียไป
ดังนั้น เมื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี อายุของทุกชีวิตจะเพิ่มขึ้น 1 ปี นั่นหมายความว่า โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ได้ลดลง 1 ปี และในขณะเดียวกัน ทุกๆ วันที่ 1 มกราคม ทุกชีวิตจะต้องเริ่มต้นการมีชีวิต และเวลาในชีวิตที่ผ่านมาได้กลายเป็นอดีตที่สูญเสียไป โดยที่ไม่มีทางนำมาได้อีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าเราทุกคนมองเห็นสัจธรรมข้อนี้ ก็จะต้องถามตนเองว่า ในปีเก่าที่ผ่านไป เราได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง และสังคมโดยรวมบ้าง และพร้อมกันนี้ เมื่อถึงวันปีใหม่ ก็จะถามตนเองว่า ในปีใหม่นี้ เรามีแผนจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง และสังคมโดยรวมบ้างไหม?
นอกจากมองชีวิตในแง่ของคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว การมองการเปลี่ยนแปลงกาลเวลาในแง่ของการบริหารธุรกิจ ก็จะพบข้อความจริงที่ว่า เวลาเป็นปัจจัยการผลิตที่แพงที่สุด ทั้งนี้อนุมานค่าของเวลาดังต่อไปนี้
1. เวลาไปเกี่ยวข้องกับคน เป็นเงินเดือน และค่าจ้าง
2. เวลาไปเกี่ยวข้องกับเงินทุน ก็เป็นดอกเบี้ย
3. ตัวเวลาเองก็เป็นโอกาส ซึ่งเป็นต้นทุนประการหนึ่ง (Opportunity Cost)
ด้วยเหตุดังที่กล่าวมาแล้ว ไม่ว่าท่านจะมองการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาในแง่ของคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือมองในแง่ของการบริหาร ท่านจะต้องใช้เวลาในชีวิตของท่านให้คุ้มค่า ทั้งแก่ตนเองและสังคมโดยรวม โดยการทำในสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้ ทั้งเป็นประโยชน์แก่ตนเอง และสังคมโดยรวม อย่ามัวแต่มองหาความผิดของคนอื่น และเรียกร้องให้เขาแก้ไข โดยที่ตนเองไม่เคยหาความผิดของตนเอง และแก้ไขให้ถูกต้องก่อนแล้วสอนคนอื่นดำเนินการ โดยเฉพาะความผิดในระดับประเทศ ที่คนทั้งประเทศจะต้องช่วยกันแก้ มิใช่ให้คนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแก้ไขโดยที่ตนเองไม่ทำอะไร และไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขด้วย
สุดท้ายขอจบด้วยกลอนบทนี้
วันเวลา ล่วงเลย ไม่เคยกลับ
อดีตลับ สูญหาย กลายเป็นฝัน
ชีวิตจริง เที่ยงแท้ แค่ปัจจุบัน
อนาคตนั้น เป็นแค่หวัง หากยังอยู่