"โสภณ องค์การณ์"
จากนี้ไปจนถึงหลังปีใหม่การเมืองคงมีเรื่องขับเคี่ยวเรื่องเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพราะจะเป็นพื้นฐานของคะแนนเสียงระดับชาติ เรื่องม็อบ 3 นิ้วและเครือข่ายอาจแผ่วไปบ้าง ต้องค้นหาประเด็นใหม่เพื่อสร้างกระแสความสนใจของชาวบ้านให้ต่อเนื่อง
ไม่น่าจะง่ายเหมือนแต่ก่อนที่ยังสนุกกับกระแสแรง ความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนและชนชั้นทำงานบางพวกซึ่งมีใจให้กับนักรณรงค์รุ่นใหม่ที่อ้างว่าจะเป็นความหวังและอนาคตของประเทศ
ก่อนสิ้นปีกระแสรับม็อบกลับแผ่วอย่างน่าห่วงสำหรับกลุ่มแกนนำและฝ่ายสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง จำนวนคนเข้าร่วมเริ่มลดลงเพราะไม่มีประเด็นน่าสนใจ
ถ้าจะหวังพลังหนุนจากชาวบ้านทั่วไปคงจะยากเพราะที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าแกนนำขับเคลื่อนเพียง 3 ประเด็นหลักคือ ไม่เอาลุงตู่ แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
เมื่อแกนนำเริ่มรุกหนัก ก็เน้นประเด็นที่ถูกมองว่าเป็นการมุ่งล้มสถาบันเสียมากกว่าและใช้แต่คำหยาบคายหลู่ เกียรติยศของสถาบันกษัตริย์อย่างที่ไม่เคยมีใครกล้ากระทำมาก่อน เป็นความลำพองและยโสซึ่งมองตัวเองว่าจะไม่ถูกกฎหมายเล่นงาน
ผลที่ตามมาคือถูกกระแสตีกลับอย่างแรง กลุ่มมวลชนต้านม็อบ 3 นิ้ว ผุดขึ้นหลายพื้นที่ แม้แต่แกนนำกลุ่มการเมืองแนวร่วม ก็ถูกขับไล่ด่าทออย่างแรงในที่สาธารณะ
ความล้มเหลวของม็อบ 3 นิ้ว คือประเด็นของการรณรงค์ไม่เกี่ยวโยงกับปัญหาและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านทั่วไปซึ่งเผชิญความทุกข์ยากกับหนี้สินครัวเรือน รายได้หายและชีวิตที่มองไม่เห็นอนาคตว่าจะหลุดจากความยากลำบากได้อย่างไร
ความลำพองของม็อบ 3 นิ้วและเครือข่ายสะท้อนให้เห็นว่าไม่ใส่ใจใยดีกับชีวิตทุกข์ยากของประชาชนและปัญหาอย่างอื่นเชิงโครงสร้างของประเทศทั้งการเมืองเศรษฐกิจสังคม ความเสื่อมในระบบคุณธรรม
สำคัญอย่างยิ่งคือกระบวนการยุติธรรมไม่มีความน่าเชื่อถือโดยเฉพาะระดับต้นน้ำและกลางน้ำ เป็นปัญหาของการบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด
เมื่อคณะราษฎรไม่เคยใส่ใจเรื่องความล้มเหลวของรัฐบาล การสร้างหนี้สิน มหาศาล และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งไม่มีสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลตั้งใจจะจัดการสมกับคำ มั่นที่ให้ไว้กับประชาชนในช่วงรับหน้าที่หลังจากการรัฐประหารและการเลือกตั้ง ปฏิกิริยาของประชาชนในการตอบรับของม็อบคณะราษฎรและเครือข่ายก็เริ่มจางหายไป เพราะเห็นชัดเจนว่าพวกเขาไม่ใส่ใจเรื่องปัญหาแท้จริงของบ้านเมือง
ประชาชนที่เคยมีใจเริ่มตาสว่างว่า แกนนำม็อบซึ่งขาดวุฒิภาวะ ความรู้ ประสบการณ์ ไม่ควรได้รับความไว้วางใจว่าจะมานำพาประเทศไปสู่สภาวะที่ดีกว่า
ประชาชนและนักสังเกตการณ์ทางการเมืองเริ่มพูดชัดเจนแล้วว่ากลุ่มม็อบเคลื่อนไหวขาดประเด็นจูงใจและโดนใจชาวบ้าน มุ่งแต่เรื่องที่ตัวเองสนใจเช่นการล้มเจ้าและบางกลุ่มยังมีพฤติกรรมชักศึกเข้าบ้านโดยเรียกร้องกับตัวแทนของสหประชาชาติและนักการเมืองอเมริกันให้เข้ามายุ่งกับกิจการภายในประเทศไทย
การแสดงออกประกอบการรณรงค์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นสภาวะของการด้อยวุฒิปัญญาและการไม่ใส่ใจต่อข้อกล่าวหาร้ายแรงในมาตรา 112 หรือเป็นการสะสมแต้มในคดีอาญานอกจากจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของแกนนำและกระบวนการ ขับเคลื่อนแล้วยังจะสร้างปัญหาถึงขั้นติดคุกได้
นั่นหมายถึงการสูญเสียอิสรภาพและอนาคตตั้งแต่ในวัยก่อนทำงาน หรือเรียนจบด้วยซ้ำ
จากพลังบริสุทธิ์ของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาในช่วงแรกของการรณรงค์ ถูกมองว่าเป็นการเสียของ เพราะประเด็นไม่มีสาระสำหรับประชาชนส่วนใหญ่เทียบกับความเดือดร้อนของประชาชนจากการจราจรติดขัดเรื่องการชุมนุม ห้างร้านต้องปิดเพื่อความปลอดภัย
หลังจากปีใหม่ถ้าไม่มีประเด็นที่น่าสนใจ ยังเป็นการพูดจาบจ้วงล่วงเกินสถาบันกษัตริย์ ม็อบคงจะไปไม่รอดและถ้าแกนนำส่วนใหญ่ต้องอยู่ในที่คุมขัง จะเป็นตัวอย่างสำหรับพวกที่เหลือ และคงจะทำให้คนไม่อยากมีปัญหากับกฎหมาย
ถ้าการจะดึงความสนใจประชาชนด้วยการใช้วิธีการพูดหยาบคายและความห้าวเหิมเกริมต่อสถาบันกษัตริย์ จุดจบของกลุ่มม็อบคงอยู่ไม่ไกล