ผู้จัดการรายวัน360-คลังเตรียมความพร้อมเปิดโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 2 วันที่ 16 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า-5 ทุ่ม จนกว่าจะครบ 5 ล้านสิทธิ เผยล่าสุดร้านค้าเข้าร่วมแล้วเฉียด 1 ล้านราย เงินสะพัดกว่า 4.3 หมื่นล้าน ประเมินคนละครึ่ง-เงินผ่านบัตรคนจน-เราเที่ยวด้วยกัน ช่วยอัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 6 หมื่นล้านบาท หนุนจีดีพีไตรมาส 1/64 เพิ่ม 0.2% เล็งปรับลดเป้าจีดีพีปี 64 ใหม่ หลังคาดปีนี้โตเกินคาด ขณะที่คนละครึ่งเฟสแรกพบผู้กระทำผิด 700 ราย เตรียมเอาผิดตามกฎหมาย “ผยง” เผยกรุงไทยพร้อมรับมือคนแห่ลงทะเบียน มั่นใจระบบไม่ล่ม
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระบบการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 พร้อมเปิดรับลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 โดยคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่ใช่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 น.–23.00 น. จนกว่าจะครบ 5 ล้านสิทธิ โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช่สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะแรก สามารถลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ได้
สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 สามารถกดปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2563 เป็นต้นไป
โดยการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ มีขั้นตอนเช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่งระยะแรก คือ 1.ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยกรอกข้อมูลชื่อ–สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ที่จะติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” 2.รอรับ SMS แจ้งผลการลงทะเบียน และ 3.ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตน
ทั้งนี้ หลังจากดำเนินการครบถ้วนตามขั้นตอนแล้ว สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรับสิทธิเงินร่วมจ่ายจากรัฐร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–31 มี.ค.2564 ระหว่างเวลา 06.00 น.–23.00 น. ซึ่งผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก
ส่วนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิม หรือระยะที่ 1 สามารถกดปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยจะใช้จ่ายวงเงิน 3,000 บาทเดิม ได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.2564 และใช้จ่ายวงเงินเพิ่มอีก 500 บาท ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–31 มี.ค.2564 ซึ่งปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จะปรากฏเตือนบนหน้าแอปพลิเคชันทุกครั้งจนกว่าผู้ได้รับสิทธิเดิมจะกดยืนยันรับสิทธิ และปุ่มดังกล่าวจะไม่มีวันหมดอายุ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา จากการตรวจสอบการทุจริตในโครงการคนละครึ่ง เบื้องต้นพบการกระทำความผิดในส่วนร้านค้าและประชาชน จำนวน 700 คดี ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประสานงานกับตำรวจให้ดำเนินการสอบสวนกรณีเหล่านี้แล้ว หากพบมีการกระทำความผิดจริง จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวา ผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟสแรก และเฟส 2 จะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่จำแนกกลุ่มเป้าหมายของโครงการและมาตรการต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ไม่ให้ซ้ำซ้อน ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค.2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 9.7 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,537,093 คน ยอดการใช้จ่ายสะสม 43,330.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 22,156.50 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 21,174.3 ล้านบาท
“โครงการกระตุ้นการบริโภค ทั้งมาตรการส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คาดจะมีเม็ดเงินเข้าระบบไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท และผลักดันจีดีพีในไตรมาสแรกขยายตัวได้ 0.2%”น.ส.กุลยากล่าว
น.ส.กุลยากล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2564 ใหม่ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 4.5% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นจากที่คาด หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3/2563 ขยายตัวที่ติดลบ 6.4% ซึ่งดีกว่าที่คลังคาดการณ์อย่างมาก ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2563 จะขยายตัวได้ดีกว่าที่คลังเคยคาดการณ์ว่าจะติดลบสูงถึง 7.7%
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย เตรียมพร้อมระบบเพื่อรองรับการเข้ามาลงทะเบียนคนละครึ่งพร้อมกันจำนวนมาก โดยเฉพาะระบบการส่งข้อความ SMS เพื่อส่งรหัส OTP และหากประชาชนลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก อาจใช้เวลาไม่กี่นาที จะครบกำหนด 5 ล้านคน