ผู้จัดการรายวัน360-“คลัง” เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ โครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 2 และเพิ่มค่าครองชีพบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้า ครม. เดือน ธ.ค.นี้ หวังให้เริ่มใช้จริง ม.ค.64 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน มั่นใจเสถียรภาพการเงินการคลัง สามารถก่อหนี้ได้อีกกว่า 9.8 แสนล้าน และยังมีเงินคงเหลืออีก 4 แสนล้าน จากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จัดเตรียมรายละเอียดเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบใน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การขยายเวลาโครงการคนละครึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดรับลงทะเบียนเพิ่ม รวมถึงวงเงินที่จะนำมาใช้ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีวงเงินที่เหลือจากโครงการคนละครึ่งในรอบแรก วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาทเท่าไร และจะต้องขอใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาทอีกเท่าไร และ 2.มาตรการดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ให้อยู่ 500 บาท โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน ธ.ค.นี้ และสามารถเปิดให้ลงทะเบียนจริงได้ในเดือน ม.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งแล้ว 10 ล้านคน คาดว่าจะได้รับสิทธิต่อเนื่องทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้ จะไปหารือกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ถ้าผู้รับสิทธิในรอบแรกที่มีการกระทำที่ขัดคุณสมบัติ ก็จะไม่ได้รับสิทธิในรอบ 2
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังยังเตรียมมาตรการช่วยเหลือนักเรียนและนักศึกษาที่กู้ยืมเงินกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยจะเป็นลักษณะการผ่อนปรนเงื่อนไขให้
นายอาคมกล่าวว่า ปัจจุบันไทยไม่มีปัญหาด้านเสถียรภาพการเงินและการคลัง แม้จะประสบปัญหาจากการระบาดโรคโควิด-19 เพราะมีทุนสำรองในระดับสูง โดยในปีงบประมาณ 2564 ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังแล้ว รัฐบาลยังมีความสามารถในการก่อหนี้ได้อีก 30% หรือคิดเป็น 9.8 แสนล้านบาท ในส่วนนี้ร่วมถึงงบประมาณขาดดุลประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาทแล้ว โดยวงเงินในส่วนนี้ รัฐบาลสามารถใช้ในโครงการเพื่อดูแลเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้ เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น และยังมีวงเงินที่สามารถใช้ได้อีก 4 แสนล้านบาท จากงบการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลยังมีช่องที่จะใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตามเดิม เพราะประชาชนได้เรียนรู้และมีความชำนาญในการลงทะเบียน รวมถึงใช้ระบบแอปพลิเคชันแล้ว แต่ยังต้องรอให้ ครม. พิจารณาก่อนว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเฟส 2 ได้เมื่อใด คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปลายเดือน ธ.ค.2563 เพื่อให้เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564
“สศค. จะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาหลายทางเลือก เช่น การให้ยกเลิกวงเงินที่เหลือในโครงการรอบแรก ที่ใช้ไม่ทันในวันที่ 31 ธ.ค.2563 แต่จะเป็นการจ่ายเงินรอบใหม่ให้เลย หรือจะให้นำวงเงินที่เหลือในรอบแรก ไปสมทบกับวงเงินในโครงการรอบใหม่ โดยยังต้องขอดูในภาพรวมก่อนว่าผู้ที่เข้าโครงการมีลักษณะการใช้จ่ายเงินอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ได้สิทธิแล้ว 10 ล้านคน ไม่ต้องกังวลว่าจะได้สิทธิในเฟส 2 หรือไม่ ซึ่งคาดว่าใครที่เคยลงทะเบียนแล้ว ก็จะได้รับสิทธิทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ หรือกดปุ่มให้ยืนยันเพื่อยืนยันการใช้สิทธิ เพียงแต่ขอให้รอรายละเอียดจาก ครม.ก่อน ว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือเท่าไร และระยะเวลาของมาตรการที่ขยายออกไปจะสิ้นสุดเมื่อใด
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กำลังจะนำรายละเอียดโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 และมาตรการเติมเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคนเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2563 และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง เฟส 1 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21 พ.ย.2563 มีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 23,023 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของประชาชนใช้จ่ายกว่า 11,747 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 และรัฐสมทบกว่า 11,275 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49 ส่วนร้านค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 782,000 ร้านค้า
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จัดเตรียมรายละเอียดเพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบใน 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การขยายเวลาโครงการคนละครึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดรับลงทะเบียนเพิ่ม รวมถึงวงเงินที่จะนำมาใช้ ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีวงเงินที่เหลือจากโครงการคนละครึ่งในรอบแรก วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาทเท่าไร และจะต้องขอใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาทอีกเท่าไร และ 2.มาตรการดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ให้อยู่ 500 บาท โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน ธ.ค.นี้ และสามารถเปิดให้ลงทะเบียนจริงได้ในเดือน ม.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งแล้ว 10 ล้านคน คาดว่าจะได้รับสิทธิต่อเนื่องทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากนี้ จะไปหารือกับธนาคารกรุงไทย (KTB) ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ถ้าผู้รับสิทธิในรอบแรกที่มีการกระทำที่ขัดคุณสมบัติ ก็จะไม่ได้รับสิทธิในรอบ 2
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังยังเตรียมมาตรการช่วยเหลือนักเรียนและนักศึกษาที่กู้ยืมเงินกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยจะเป็นลักษณะการผ่อนปรนเงื่อนไขให้
นายอาคมกล่าวว่า ปัจจุบันไทยไม่มีปัญหาด้านเสถียรภาพการเงินและการคลัง แม้จะประสบปัญหาจากการระบาดโรคโควิด-19 เพราะมีทุนสำรองในระดับสูง โดยในปีงบประมาณ 2564 ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังแล้ว รัฐบาลยังมีความสามารถในการก่อหนี้ได้อีก 30% หรือคิดเป็น 9.8 แสนล้านบาท ในส่วนนี้ร่วมถึงงบประมาณขาดดุลประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาทแล้ว โดยวงเงินในส่วนนี้ รัฐบาลสามารถใช้ในโครงการเพื่อดูแลเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้ เช่น โครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น และยังมีวงเงินที่สามารถใช้ได้อีก 4 แสนล้านบาท จากงบการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลยังมีช่องที่จะใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตามเดิม เพราะประชาชนได้เรียนรู้และมีความชำนาญในการลงทะเบียน รวมถึงใช้ระบบแอปพลิเคชันแล้ว แต่ยังต้องรอให้ ครม. พิจารณาก่อนว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเฟส 2 ได้เมื่อใด คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปลายเดือน ธ.ค.2563 เพื่อให้เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564
“สศค. จะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาหลายทางเลือก เช่น การให้ยกเลิกวงเงินที่เหลือในโครงการรอบแรก ที่ใช้ไม่ทันในวันที่ 31 ธ.ค.2563 แต่จะเป็นการจ่ายเงินรอบใหม่ให้เลย หรือจะให้นำวงเงินที่เหลือในรอบแรก ไปสมทบกับวงเงินในโครงการรอบใหม่ โดยยังต้องขอดูในภาพรวมก่อนว่าผู้ที่เข้าโครงการมีลักษณะการใช้จ่ายเงินอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ได้สิทธิแล้ว 10 ล้านคน ไม่ต้องกังวลว่าจะได้สิทธิในเฟส 2 หรือไม่ ซึ่งคาดว่าใครที่เคยลงทะเบียนแล้ว ก็จะได้รับสิทธิทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ หรือกดปุ่มให้ยืนยันเพื่อยืนยันการใช้สิทธิ เพียงแต่ขอให้รอรายละเอียดจาก ครม.ก่อน ว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือเท่าไร และระยะเวลาของมาตรการที่ขยายออกไปจะสิ้นสุดเมื่อใด
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กำลังจะนำรายละเอียดโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 และมาตรการเติมเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคนเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2563 และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง เฟส 1 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21 พ.ย.2563 มีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 23,023 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของประชาชนใช้จ่ายกว่า 11,747 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 และรัฐสมทบกว่า 11,275 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49 ส่วนร้านค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 782,000 ร้านค้า
