xs
xsm
sm
md
lg

โพลถูกใจ"คนละครึ่ง"พึ่งได้ ดันเรตติ้ง"ลุงตู่-พปชร."พุ่ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ซูเปอร์โพล เผยประชาชนพอใจโครงการ "คนละครึ่ง" พึ่งได้ ได้ใจคนรายได้น้อย-เยาวชน ดันเรตติ้งรัฐบาลบิ๊กตู่ อยู่ต่อ อยากให้มีโครงการช่วยเหลือประชาชนในลักษณะนี้ออกมาเรื่อยๆ และพร้อมจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คนละครึ่ง พึ่งได้ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,121 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11 –14พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏผลดังนี้

เมื่อถามถึงความเห็นเกี่ยวกับ โครงการ คนละครึ่ง พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 93.6 ระบุ ช่วยกระตุ้นศก. เจ้าของร้านค้า รายย่อย พึ่งได้ รองลงมาคือร้อยละ 90.6 ระบุ คนคิด ออกแบบโครงการ คนละครึ่ง เก่ง ร้อยละ 89.8 ระบุ เดินตลาดเห็นคนจับจ่ายใช้สอย มีความสุข รักประเทศไทย รักรัฐบาลมากขึ้น ร้อยละ 89.8 ระบุ โครงการนี้ทำให้ประชาชนคุ้นเคยใช้แอปพลิเคชั่น และดิจิทัลมากขึ้น ร้อยละ 89.6 ระบุ รัฐบาลควรจัดยิ่งใหญ่อีก ในช่วงปีใหม่ ขยายโอกาสให้ชาวบ้านและบริษัทร้านค้ามากขึ้น ร้อยละ 89.3 ระบุ ช่วยกระตุ้นศก. ลดความเดือดร้อน ประชาชนพึ่งได้ และร้อยละ 85.8 ระบุ ช่วยทำให้ประชาชนมีวินัยในการออมและใช้จ่ายเงิน

ที่น่าสนใจคือ ทั้งกลุ่มเยาวชนและไม่ใช่เยาวชนส่วนใหญ่สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ถ้ามีโครงการช่วยเหลือประชาชนแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 90.5 ของกลุ่มเยาวชน และส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 89.8 ของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชน สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ถ้ามีโครงการช่วยเหลือประชาชนแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ

นอกจากนี้ กลุ่มประชาชนทุกกลุ่มรายได้เงินเดือน ส่วนใหญ่สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ถ้ามีโครงการแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 88.0 ของคนที่มีรายได้เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ในขณะที่ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 91.7 ของคนที่มีรายได้เงินเดือนระหว่าง 15,000 ถึง 30,000 บาท สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ และส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 83.5 ของคนที่มีรายได้เงินเดือนเกิน 30,000 บาทขึ้นไป สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ เช่นกัน

ที่น่าพิจารณาคือ ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง จะเลือกพรรคการเมืองใด เปรียบเทียบระหว่างก่อน และหลังโครงการคนละครึ่ง พบว่า คนจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพิ่มสูงขึ้นจาก ร้อยละ 10.9 ก่อนโครงการคนละครึ่ง มาอยู่ที่ร้อยละ 27.7 หลังโครงการคนละครึ่ง ในขณะที่คนจะเลือกพรรคร่วมรัฐบาลไม่แตกต่างกัน คือร้อยละ 5.7 ก่อนโครงการฯ และร้อยละ 5.8 หลังโครงการฯ ที่น่าเป็นห่วงคือ คนจะเลือกพรรคเพื่อไทย ลดลงจากร้อยละ 9.3 ก่อนโครงการฯ มาอยู่ที่ร้อยละ 2.5 หลังมีโครงการฯ และพรรคก้าวไกล (อนาคตใหม่เดิม) ลดลงจาก ร้อยละ 13.0 ก่อนโครงการฯ มาอยู่ที่ร้อยละ 2.1 หลังโครงการฯ ในขณะที่ คนจะเลือกพรรคอะไรก็ได้ ที่เป็นการเมืองใหม่แท้จริง ลดลงจาก ร้อยละ 59.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 16.8 แต่คนที่ตอบอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 45.1

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า โครงการ คนละครึ่ง กำลังได้ใจกลุ่มคนรายได้น้อย และคนที่เริ่มทำงานระยะแรกของชีวิต และยังได้ใจกลุ่มเยาวชน และผู้ไม่ใช่เยาวชนอีกด้วย เพราะเป็นการตอบโจทย์ตรงเป้าอย่างหนึ่งของประชาชนที่กำลังรอการช่วยเหลือจากรัฐบาล ในเรื่องปากท้อง ที่ต้องมาอันดับแรก

นอกจากนี้ โครงการ คนละครึ่ง กำลังเป็นที่นิยมของประชาชน และเกิดผลกระตุ้นศก. ทำให้ชาวบ้านทั่วไป ร้านค้ารายย่อย ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ขึ้นไป พึ่งได้ ส่งผลทำให้ฐานสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลทำให้ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ จะกลายเป็นพรรคอันดับหนึ่ง มากกว่าพรรคอื่นๆ ที่ อาจเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับเหตุปัจจัยที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เล็งเห็นว่า เป็นพรรคที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ซ้ำเติมเศรษฐกิจ ซ้ำเติมวิกฤตโควิด-19 และซ้ำเติมความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน เช่น พรรคก้าวไกล (อนาคตใหม่เดิม) หรือ พรรคเพื่อไทย ที่มีภาพของการไปสนับสนุนม็อบ ที่แตะต้องสถาบันหลักของชาติ อันเป็นหัวใจของราษฎร ที่เปราะบาง ก็เป็นไปได้

"ข้อควรปรับปรุงในโครงการ คนละครึ่ง คือ ควรขยายเวลา เอาอีก ทำอีกต่อเนื่อง กระตุ้นเศรษฐกิจเรื่อยๆ ควรมีระบบให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. อาจใช้ทั้งคนจริง หรือ มนุษย์บอต (Bot)คอยตอบคำถาม ช่วยเหลือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในลักษณะ Live Chat ให้ประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการ ร้านค้ารายย่อย และอื่นๆ จะเสริมความพึงพอใจได้มากยิ่งขึ้น" ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น