ผู้จัดการรายวัน360 - “สุพัฒนพงษ์”นั่งหัวโต๊ะกบง.ไฟเขียวส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนโครงการนำร่อง 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นชีวมวลและก๊าซชีวภาพอย่างละ 75 เมกะวัตต์ เตรียมเสนอกพช.เคาะต่อไปก่อนเปิดให้เอกชนยื่นม.ค.64 รถโดยสารสาธารณะเตรียมเฮ! กบง.ปรับมติให้ราคาNGV สอดคล้องตลาดโลกหลังทิศทางราคาถูกลงมีผลตั้งแต่ 16 พ.ย. 63 ถึง 31 ธ.ค. 63 คาดปรับลดเป็น 13.30 บาทต่อกก.จากเดิม 13.62บาทต่อกก.
นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน โครงการนำร่องโดยใช้ ชีวมวลและก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย ? 25 %) มีเป้าหมาย150 เมกะวัตต์ (ชีวมวล 75 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์) ชีวมวล ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการ ก๊าซชีวภาพ ไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ โดยกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาฯ
ทั้งนี้ การเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) โดยราคาเชื้อเพลิงจะไม่มีการเปิดประมูลแข่งขันเพื่อให้ประโยชน์ตกถึงเกษตรกร ขณะที่จะมีการเปิดแข่งขัน(Bidding ) ในส่วนของต้นทุนโรงไฟฟ้า ส่วนการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิ 10% ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่โรงไฟฟ้า การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา เป็นต้น
“กบง.ได้พิจารณาตามกรอบเบื้องต้นซึ่งจะมีการนำเสนอเข้าพิจารณาในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) จากนั้นจะมีการเปิดให้เอกชนเข้ายื่นเสนอโครงการได้ประมาณเดือนมกราคม 2564 “นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมกบง.ยังได้พิจาณณาถึงมติเดิมที่กำหนดขยายเวลาส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV สำหรับ รถโดยสารสาธารณะ (ในเขต กทม./ปริมณฑล: รถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊ก/รถตู้ร่วม ขสมก. ในต่างจังหวัด: รถโดยสาร/มินิบัส/สองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร/รถตู้ร่วม บขส. และรถแท็กซี่) ถึงสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ด้วยราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) อย่างไรก็ตามในข้อเท็จจริงแล้วพบว่าราคาก๊าซธรรมชาติ(Pool) ได้ปรับลดลงตามทิศทางน้ำมันย้อนหลังซึ่งทำให้มีแนวโน้มราคา NGV จะลดต่ำลงดังนั้นกบง.จึงเห็นชอบให้กำหนดราคา NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะให้สามารถปรับลดลงตามทิศทางตลาดได้โดยให้มีผลตั้งแต่ 16 พ.ย. 63 ถึง 31 ธ.ค. 63
“คาดว่าราคาเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 63 ราคา NGV จะต่ำกว่า 13.62 บาท/กก. ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงดังนั้นมีแนวโน้มว่าราคา NGV จะลดลงอยู่ที่ 13.30 บาทต่อกก.ซึ่งจะทำให้รถโดยสารสาธารณะได้รับราคา NGV ที่ถูกลงสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยคาดว่าจะมีผลกลางพ.ย.นี้”นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ กบง.ยังรับทราบแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ในช่วงปี 2564 – 2572 ตามรูปแบบปรับปรุงแนวทางเดิมตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2560 และให้จัดทำคำสั่งคณะทำงานพิเศษพิจารณาแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 มีหน้าที่พิจารณารูปแบบการส่งเสริมการแข่งขันราคาก๊าซธรรมชาติเหลว( LNG )นำเข้า โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติที่เหมาะสม และแนวทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยส่งเสริม ให้เกิดการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม
“กบง.ยังรับทราบแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2566 เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าบางปะกง พระนครใต้ และวังน้อย มีปริมาณไม่เกิน 1.9, 1.8, 1.8 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ โดยการนำเข้า LNG ของ กฟผ. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติที่ต้องการให้มี shipper หลายราย ทั้งนี้ กฟผ. จะต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดของ TPA และข้อกำหนดอื่นๆ “นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน โครงการนำร่องโดยใช้ ชีวมวลและก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย ? 25 %) มีเป้าหมาย150 เมกะวัตต์ (ชีวมวล 75 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์) ชีวมวล ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการ ก๊าซชีวภาพ ไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ โดยกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาฯ
ทั้งนี้ การเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) โดยราคาเชื้อเพลิงจะไม่มีการเปิดประมูลแข่งขันเพื่อให้ประโยชน์ตกถึงเกษตรกร ขณะที่จะมีการเปิดแข่งขัน(Bidding ) ในส่วนของต้นทุนโรงไฟฟ้า ส่วนการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิ 10% ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่โรงไฟฟ้า การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา เป็นต้น
“กบง.ได้พิจารณาตามกรอบเบื้องต้นซึ่งจะมีการนำเสนอเข้าพิจารณาในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) จากนั้นจะมีการเปิดให้เอกชนเข้ายื่นเสนอโครงการได้ประมาณเดือนมกราคม 2564 “นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมกบง.ยังได้พิจาณณาถึงมติเดิมที่กำหนดขยายเวลาส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV สำหรับ รถโดยสารสาธารณะ (ในเขต กทม./ปริมณฑล: รถแท็กซี่/ตุ๊กตุ๊ก/รถตู้ร่วม ขสมก. ในต่างจังหวัด: รถโดยสาร/มินิบัส/สองแถว ร่วม ขสมก. รถโดยสาร/รถตู้ร่วม บขส. และรถแท็กซี่) ถึงสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ด้วยราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) อย่างไรก็ตามในข้อเท็จจริงแล้วพบว่าราคาก๊าซธรรมชาติ(Pool) ได้ปรับลดลงตามทิศทางน้ำมันย้อนหลังซึ่งทำให้มีแนวโน้มราคา NGV จะลดต่ำลงดังนั้นกบง.จึงเห็นชอบให้กำหนดราคา NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะให้สามารถปรับลดลงตามทิศทางตลาดได้โดยให้มีผลตั้งแต่ 16 พ.ย. 63 ถึง 31 ธ.ค. 63
“คาดว่าราคาเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 63 ราคา NGV จะต่ำกว่า 13.62 บาท/กก. ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงดังนั้นมีแนวโน้มว่าราคา NGV จะลดลงอยู่ที่ 13.30 บาทต่อกก.ซึ่งจะทำให้รถโดยสารสาธารณะได้รับราคา NGV ที่ถูกลงสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยคาดว่าจะมีผลกลางพ.ย.นี้”นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ กบง.ยังรับทราบแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ในช่วงปี 2564 – 2572 ตามรูปแบบปรับปรุงแนวทางเดิมตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2560 และให้จัดทำคำสั่งคณะทำงานพิเศษพิจารณาแนวทางส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 มีหน้าที่พิจารณารูปแบบการส่งเสริมการแข่งขันราคาก๊าซธรรมชาติเหลว( LNG )นำเข้า โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติที่เหมาะสม และแนวทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยส่งเสริม ให้เกิดการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม
“กบง.ยังรับทราบแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2566 เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าบางปะกง พระนครใต้ และวังน้อย มีปริมาณไม่เกิน 1.9, 1.8, 1.8 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ โดยการนำเข้า LNG ของ กฟผ. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติที่ต้องการให้มี shipper หลายราย ทั้งนี้ กฟผ. จะต้องปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดของ TPA และข้อกำหนดอื่นๆ “นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว