“กรมควบคุมโรค” เผยผลสอบผู้ใกล้ชิด “ดีเจ” ผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำทั้งหมด 570 รายเป็นลบ ส่วนกรณีผู้ปกครองติดเชื้อแล้วไปส่ง นร.ที่โรงเรียนดังมีโอกาสติดเชื้อต่ำมาก
วานนี้ (10 ก.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย มาจากซาอุดีอาระเบีย 5 ราย เป็นชายไทย อายุ 21, 22, 35 ปี อาชีพนักศึกษา และ อายุ 37 ปี ว่างงาน และหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน และ มาจากอินเดีย 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี และ บุตรชาย อายุ 2 ปี
ส่งให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมที่ 3,454 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,445 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 516 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 24 ราย ยอดรวม 3,310 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 86 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
สำหรับความคืบหน้าผลการสอบสวนกรณีผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.63 ที่ผ่านมานั้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขังชายดังกล่าว รวม 1,004 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 120 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 884 คน ส่งตรวจ 570 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ โดยส่วนใหญ่ครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว มีเพียงบางส่วนที่ต้องติดตามตัวเพื่อนัดเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนกรณีสถานศึกษาชื่อดังที่มีผู้ปกครองที่ติดเชื้อไปส่งเด็กนักเรียนนั้น พบว่าไม่ได้เข้าไปพื้นที่ด้านในโรงเรียน คนในโรงเรียนจึงไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง และโอกาสได้รับเชื้อต่ำมาก เนื่องจากไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ปกครองที่ติดเชื้อโดยตรง มีเพียงครูกับผู้ที่ทำการคัดกรองหน้าโรงเรียนเพียง 3 คนเท่านั้นที่จัดอยู่กลุ่มเสี่ยงต่ำ อีกทั้งผู้ปกครองไปโรงเรียนครั้งสุดท้ายวันที่ 25 ส.ค.63 ซึ่งเกิน 2 สัปดาห์มาแล้ว และจากการคัดกรองของโรงเรียนก็ไม่พบว่ามีครูหรือนักเรียนป่วยแต่อย่างใด
ด้าน โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา สมุทรปราการ ได้ออกหนังสือชี้แจงปิดการเรียนในวันที่ 8-11 ก.ย. 63 โดยยืนยันว่า ไม่มีนักเรียน บุคลากรติดเชื้อโควิด-19 และไม่ได้ถูกสั่งปิด แต่เป็นการประกาศงดการเรียนเพื่อทำความสะอาด ลดความกังวลของผู้ปกครอง
วานนี้ (10 ก.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย มาจากซาอุดีอาระเบีย 5 ราย เป็นชายไทย อายุ 21, 22, 35 ปี อาชีพนักศึกษา และ อายุ 37 ปี ว่างงาน และหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน และ มาจากอินเดีย 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี และ บุตรชาย อายุ 2 ปี
ส่งให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมที่ 3,454 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,445 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 516 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 24 ราย ยอดรวม 3,310 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 86 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
สำหรับความคืบหน้าผลการสอบสวนกรณีผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.63 ที่ผ่านมานั้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขังชายดังกล่าว รวม 1,004 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 120 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 884 คน ส่งตรวจ 570 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ โดยส่วนใหญ่ครบการกักกันและเฝ้าระวังแล้ว มีเพียงบางส่วนที่ต้องติดตามตัวเพื่อนัดเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนกรณีสถานศึกษาชื่อดังที่มีผู้ปกครองที่ติดเชื้อไปส่งเด็กนักเรียนนั้น พบว่าไม่ได้เข้าไปพื้นที่ด้านในโรงเรียน คนในโรงเรียนจึงไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง และโอกาสได้รับเชื้อต่ำมาก เนื่องจากไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ปกครองที่ติดเชื้อโดยตรง มีเพียงครูกับผู้ที่ทำการคัดกรองหน้าโรงเรียนเพียง 3 คนเท่านั้นที่จัดอยู่กลุ่มเสี่ยงต่ำ อีกทั้งผู้ปกครองไปโรงเรียนครั้งสุดท้ายวันที่ 25 ส.ค.63 ซึ่งเกิน 2 สัปดาห์มาแล้ว และจากการคัดกรองของโรงเรียนก็ไม่พบว่ามีครูหรือนักเรียนป่วยแต่อย่างใด
ด้าน โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา สมุทรปราการ ได้ออกหนังสือชี้แจงปิดการเรียนในวันที่ 8-11 ก.ย. 63 โดยยืนยันว่า ไม่มีนักเรียน บุคลากรติดเชื้อโควิด-19 และไม่ได้ถูกสั่งปิด แต่เป็นการประกาศงดการเรียนเพื่อทำความสะอาด ลดความกังวลของผู้ปกครอง