นายกฯ นัด ก.ต.ช.ถกเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ วันนี้ “สุวัฒน์-มนู-สุชาติ” ลุ้นระทึก สะพัดรายแรกมาแรง ต่อด้วยประชุม ก.ตร.จัดโผนายพลสีกากีวาระปี 2563 ล็อตใหญ่กว่า 200 ตำแหน่ง หยอดแคนดิเดตมีลุ้นทุกคน
วานนี้ (27 ส.ค.) รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจ้งว่า วันนี้ (28 ส.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 3/2563 โดยมีวาระแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ซึ่งจะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ทั้งนี้คณะกรรมการ ก.ต.ช. ประกอบด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์
โดยขั้นตอนการเลือก ผบ.ตร. ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 53 ระบุว่า ให้ ผบ.ตร. คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือ รอง ผบ.ตร. แล้วเสนอ ก.ต.ช. ซึ่งมีนายกฯเป็นประธาน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกฯจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
สำหรับแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ มีทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. (นรต.36) ที่แม้จะมีอาวุโสลำดับที่ 5 แต่ได้แรงหนุนจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ขณะที่ “บิ๊กมนู” พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. (นรต.38) อาวุโสลำดับที่ 3 อดีตนายเวร พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีชื่อเบียดขึ้นมา และยังมีชื่อของ “บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. (นรต.36) ที่มีอาวุโสลำดับที่ 2 ลูกชาย พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ก็เป็นแคนดิเดตที่ต้องจับตามอง และรายสุดท้ายที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน คือ “บิ๊กเบิ้ม” พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ สามี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล ส่วน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา แม้จะมีอาวุโสลำดับที่ 1 แต่อยู่ระหว่างถูกสำรองราชการ แม้ตามข้อกฎหมายถือว่ายังไม่พ้นตำแหน่งโดยสมบูรณ์ แต่ไม่น่าจะได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่อย่างใด
“สุดท้ายแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ น่าจะเสนอชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ซึ่งไว้วางใจให้คุมงานด้านความมั่นคงและงานสำคัญๆ รวมทั้งมีแรงสนับสนุนภายนอก ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่" แหล่งข่าวระดับสูงใน สตช.ระบุ
จากนั้นในวันเดียวกัน เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2563 โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจในการพิจจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., ผู้บัญชาการ (ผบช.), รอง ผบช. และผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2563 โดยตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.จะว่างลง 3 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง, ระดับ ผบช.ว่าง 13 ตำแหน่ง, ระดับรอง ผบช. ว่าง 43 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 77 ตำแหน่ง ดังนั้น ในการแต่งตั้งระดับนายพลตำรวจวาระประจำปีนี้ จะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 142 ตำแหน่ง และหากรวมการแต่งตั้งโยกสลับระนาบเดียวกันจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายรวมกว่า 200 ตำแหน่ง
โดยมีตำแหน่งต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(นรต.38) ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ โยกมาเป็น รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช.สยศ. (นรต.39) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) (นรต.37) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 (ผบช.ภ.9) (นรต.36) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) (นรต.42) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) (นรต.40) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 เบียดกับ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 (นรต.38) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) (นรต.38) ที่เพิ่งเจอมรสุมบ่อนพระราม 3 แต่คาดว่ายังสามารถอยู่ต่อตำแหน่ง ผบช.น.ต่อไป, พล.ต.ต.ณพวัฒน์ อารยางกูร รอง ผบช.ภ.2 (นรต.42) ขึ้นเป็น ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตร.) (สบ 8) (นรต.41) อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.พีรพงษ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.(นรต.38) เป็น ผบช.ภ.4, พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง จตร.(สบ 8) (นรต.41) เป็น ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) (นรต.36) เป็น ผบช.ภ.8, พล.ต.ต อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น.(นรต.43) เป็น ผบช.ภ.9
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. ขึ้นเป็น ผบช.ก., พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา รอง ผบช.ก. (นรต.44) ขึ้นเป็น ผบช.ส., พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ รอง ผบช.ก. ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หน่วยงานที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. (นรต.43) เป็น ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. (นรต.40) เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ท.สมพงษ์ ขึ้นเป็น ผบช.สตม. เป็นต้น
อีกด้าน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 3/2563 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุม ได้เห็นชอบให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) คนใหม่ แทน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สมช.ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
วานนี้ (27 ส.ค.) รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจ้งว่า วันนี้ (28 ส.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 3/2563 โดยมีวาระแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ซึ่งจะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ทั้งนี้คณะกรรมการ ก.ต.ช. ประกอบด้วยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์
โดยขั้นตอนการเลือก ผบ.ตร. ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 53 ระบุว่า ให้ ผบ.ตร. คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือ รอง ผบ.ตร. แล้วเสนอ ก.ต.ช. ซึ่งมีนายกฯเป็นประธาน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกฯจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
สำหรับแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ มีทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. (นรต.36) ที่แม้จะมีอาวุโสลำดับที่ 5 แต่ได้แรงหนุนจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ขณะที่ “บิ๊กมนู” พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. (นรต.38) อาวุโสลำดับที่ 3 อดีตนายเวร พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีชื่อเบียดขึ้นมา และยังมีชื่อของ “บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. (นรต.36) ที่มีอาวุโสลำดับที่ 2 ลูกชาย พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ก็เป็นแคนดิเดตที่ต้องจับตามอง และรายสุดท้ายที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน คือ “บิ๊กเบิ้ม” พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ สามี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจในรัฐบาล ส่วน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา แม้จะมีอาวุโสลำดับที่ 1 แต่อยู่ระหว่างถูกสำรองราชการ แม้ตามข้อกฎหมายถือว่ายังไม่พ้นตำแหน่งโดยสมบูรณ์ แต่ไม่น่าจะได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่อย่างใด
“สุดท้ายแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ น่าจะเสนอชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ซึ่งไว้วางใจให้คุมงานด้านความมั่นคงและงานสำคัญๆ รวมทั้งมีแรงสนับสนุนภายนอก ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่" แหล่งข่าวระดับสูงใน สตช.ระบุ
จากนั้นในวันเดียวกัน เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2563 โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจในการพิจจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., ผู้บัญชาการ (ผบช.), รอง ผบช. และผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2563 โดยตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.จะว่างลง 3 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง, ระดับ ผบช.ว่าง 13 ตำแหน่ง, ระดับรอง ผบช. ว่าง 43 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 77 ตำแหน่ง ดังนั้น ในการแต่งตั้งระดับนายพลตำรวจวาระประจำปีนี้ จะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 142 ตำแหน่ง และหากรวมการแต่งตั้งโยกสลับระนาบเดียวกันจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายรวมกว่า 200 ตำแหน่ง
โดยมีตำแหน่งต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(นรต.38) ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ โยกมาเป็น รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช.สยศ. (นรต.39) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) (นรต.37) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 (ผบช.ภ.9) (นรต.36) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) (นรต.42) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) (นรต.40) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 เบียดกับ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 (นรต.38) ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) (นรต.38) ที่เพิ่งเจอมรสุมบ่อนพระราม 3 แต่คาดว่ายังสามารถอยู่ต่อตำแหน่ง ผบช.น.ต่อไป, พล.ต.ต.ณพวัฒน์ อารยางกูร รอง ผบช.ภ.2 (นรต.42) ขึ้นเป็น ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตร.) (สบ 8) (นรต.41) อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.พีรพงษ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.(นรต.38) เป็น ผบช.ภ.4, พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง จตร.(สบ 8) (นรต.41) เป็น ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) (นรต.36) เป็น ผบช.ภ.8, พล.ต.ต อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น.(นรต.43) เป็น ผบช.ภ.9
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. ขึ้นเป็น ผบช.ก., พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา รอง ผบช.ก. (นรต.44) ขึ้นเป็น ผบช.ส., พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ รอง ผบช.ก. ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หน่วยงานที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. (นรต.43) เป็น ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. (นรต.40) เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ท.สมพงษ์ ขึ้นเป็น ผบช.สตม. เป็นต้น
อีกด้าน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 3/2563 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุม ได้เห็นชอบให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) คนใหม่ แทน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สมช.ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป