ผู้จัดการรายวัน360 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก 6 เดือน "เปรมชัย" โดยไม่รอลงอาญา คดีซุกอาวุธปืนล่าสัตว์ในบ้านพัก ยกคำอุทธร์จำเลยป่วยร้ายแรง ขอให้รอลงอาญาฟังไม่ขึ้น เหตุเรือนจำมีโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีแพทย์รักษาอยู่แล้ว ชี้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษานั้นเหมาะสมแล้ว ขณะที่จำเลยขอประกันตัวสู้ในชั้นฎีกา ศาลตีหลักประกันเพิ่มเป็น 5 แสนบาท
วานนี้ (11 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 66 ปี อดีตประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 7ก.พ.61 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล3 กระบอก และปืนแก๊บ1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพัก ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. โดยนายเปรมชัย ให้การรับสารภาพ
คดีนี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้จำคุก 1 ปี ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 จึงไม่อาจรอการลงโทษได้ จำเลยได้รับการประกันตัว 2 แสนบาท ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย
ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่โจทก์อุทธรณ์ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน อาวุธปืนมีหลายกระบอก ได้ปืนมาคนละครั้งคราวนั้น ศาลเห็นว่าโจทก์ ไม่มีการกล่าวอ้างในคำฟ้องตั้งแต่ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย ส่วนที่โจทก์ขออุทธรณ์ ขอให้ลงโทษสถานหนักนั้น เห็นว่าศาลชั้นต้นวางโทษไว้เหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง
ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นอาวุธของบิดาที่ถึงแก่กรรมแล้ว ซึ่งลูกจ้างได้ขนย้ายเอามาวางไว้ในบ้านโดยจำเลยไม่ทราบ ศาลเห็นว่าขัดกับคำรับสารภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ว่ากันในศาลชั้นต้น จึงไม่รับวินิจฉัย และที่จำเลยอุทธรณ์ว่าป่วยร้ายแรงนั้น ในเรือนจำมีโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีแพทย์ให้การรักษาอยู่แล้ว หากมีอาการร้ายแรง อาจส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา
ภายหลัง นายเปรมชัยได้ยื่นประกันตัว โดยเพิ่มหลักทรัพย์อีก 3 แสนบาท รวมกับหลักทรัพย์เดิมเป็น 5 แสนบาท
วานนี้ (11 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 66 ปี อดีตประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 7ก.พ.61 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล3 กระบอก และปืนแก๊บ1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพัก ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. โดยนายเปรมชัย ให้การรับสารภาพ
คดีนี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้จำคุก 1 ปี ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 จึงไม่อาจรอการลงโทษได้ จำเลยได้รับการประกันตัว 2 แสนบาท ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย
ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่โจทก์อุทธรณ์ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน อาวุธปืนมีหลายกระบอก ได้ปืนมาคนละครั้งคราวนั้น ศาลเห็นว่าโจทก์ ไม่มีการกล่าวอ้างในคำฟ้องตั้งแต่ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย ส่วนที่โจทก์ขออุทธรณ์ ขอให้ลงโทษสถานหนักนั้น เห็นว่าศาลชั้นต้นวางโทษไว้เหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง
ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นอาวุธของบิดาที่ถึงแก่กรรมแล้ว ซึ่งลูกจ้างได้ขนย้ายเอามาวางไว้ในบ้านโดยจำเลยไม่ทราบ ศาลเห็นว่าขัดกับคำรับสารภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ว่ากันในศาลชั้นต้น จึงไม่รับวินิจฉัย และที่จำเลยอุทธรณ์ว่าป่วยร้ายแรงนั้น ในเรือนจำมีโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีแพทย์ให้การรักษาอยู่แล้ว หากมีอาการร้ายแรง อาจส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา
ภายหลัง นายเปรมชัยได้ยื่นประกันตัว โดยเพิ่มหลักทรัพย์อีก 3 แสนบาท รวมกับหลักทรัพย์เดิมเป็น 5 แสนบาท