“สมาคมค้ายาสูบไทย” ให้ข้อมูล อนุกมธ.สภาฯ โวย “บุหรี่เถื่อน” ทะลักช่วงโควิด-19 วอน ภาครัฐเพิ่มความเข้มข้นปราบปรามพื้นที่ชายแดน ยัน "ยิ่งขึ้นภาษี ราคาบุหรี่ยิ่งแพง แต่แก้ปัญหาไม่ได้"
วานนี้ (6 ส.ค.) นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญสมาคมฯ เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาภาษียาสูบอันทำให้เกิดการลักลอบค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยแม้จะเป็นช่วงการล็อกดาวน์ ปิดด่านพรมแดนถาวร และด่านชั่วคราว แต่ปัญหาการค้าขายบุหรี่เถื่อนกลับไม่ได้ลดลง เห็นได้ชัดจากการที่มีข่าวจับกุมบุหรี่เถื่อนที่เกิดขึ้นรายวันตามแนวชายแดน และแต่ละครั้งที่เจ้าหน้าที่จับได้ก็เป็นลอตใหญ่ มูลค่าครั้งละ 3-10 ล้าน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ ส่งออกไปขายตามจังหวัดต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคใต้ ทำให้สมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งเป็นร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบอย่างมาก
นางวราภรณ์ กล่าวต่อว่า จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่เพิ่มความเข้มข้นในนโยบายการป้องกันและปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการประชุมกับคณะอนุฯ ได้รับปากที่จะประสานให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น และสมาคมฯ ก็จะได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะประสานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเร่งให้ช่วยจัดการปัญหาบุหรี่เถื่อนโดยเร็ว
ด้านเจ้าของร้านค้าปลีด ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันร้านขายของชำที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบมากมาย แต่ยอดขายบุหรี่ถูกกฎหมายกลับลดลง จากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่มีราคาถูกกว่ามาก บุหรี่เถื่อนก็มีเกลื่อนเมือง โดยเฉพาะในหาดใหญ่ ทั้งในร้านถ่ายเอกสาร ร้านขายอาหาร ฯลฯ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ, อบจ., เจ้าหน้าที่เทศบาล หรือเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จริงจังในการปราบปรามบุหรี่เถื่อนมากกว่านี้ ไม่ใช่แต่จะมาจ้องตรวจสอบเฉพาะร้านที่เสียภาษี
“บุหรี่ราคาแพงขึ้นๆ ทุกปี เพราะรัฐบอกว่า ยอดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องเก็บภาษีบุหรี่ให้แพงขึ้น แต่ยิ่งขึ้นภาษี บุหรี่ราคาแพงขึ้น แล้วยิ่งปล่อยปละละเลยให้บุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง รายได้ภาษีของหาดใหญ่ก็ไม่เพิ่มขึ้นอยู่ดี” เจ้าของร้านค้าปลีก กล่าว
วานนี้ (6 ส.ค.) นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญสมาคมฯ เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาภาษียาสูบอันทำให้เกิดการลักลอบค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยแม้จะเป็นช่วงการล็อกดาวน์ ปิดด่านพรมแดนถาวร และด่านชั่วคราว แต่ปัญหาการค้าขายบุหรี่เถื่อนกลับไม่ได้ลดลง เห็นได้ชัดจากการที่มีข่าวจับกุมบุหรี่เถื่อนที่เกิดขึ้นรายวันตามแนวชายแดน และแต่ละครั้งที่เจ้าหน้าที่จับได้ก็เป็นลอตใหญ่ มูลค่าครั้งละ 3-10 ล้าน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ ส่งออกไปขายตามจังหวัดต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคใต้ ทำให้สมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งเป็นร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบอย่างมาก
นางวราภรณ์ กล่าวต่อว่า จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่เพิ่มความเข้มข้นในนโยบายการป้องกันและปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการประชุมกับคณะอนุฯ ได้รับปากที่จะประสานให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น และสมาคมฯ ก็จะได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะประสานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเร่งให้ช่วยจัดการปัญหาบุหรี่เถื่อนโดยเร็ว
ด้านเจ้าของร้านค้าปลีด ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันร้านขายของชำที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบมากมาย แต่ยอดขายบุหรี่ถูกกฎหมายกลับลดลง จากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่มีราคาถูกกว่ามาก บุหรี่เถื่อนก็มีเกลื่อนเมือง โดยเฉพาะในหาดใหญ่ ทั้งในร้านถ่ายเอกสาร ร้านขายอาหาร ฯลฯ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ, อบจ., เจ้าหน้าที่เทศบาล หรือเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จริงจังในการปราบปรามบุหรี่เถื่อนมากกว่านี้ ไม่ใช่แต่จะมาจ้องตรวจสอบเฉพาะร้านที่เสียภาษี
“บุหรี่ราคาแพงขึ้นๆ ทุกปี เพราะรัฐบอกว่า ยอดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องเก็บภาษีบุหรี่ให้แพงขึ้น แต่ยิ่งขึ้นภาษี บุหรี่ราคาแพงขึ้น แล้วยิ่งปล่อยปละละเลยให้บุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง รายได้ภาษีของหาดใหญ่ก็ไม่เพิ่มขึ้นอยู่ดี” เจ้าของร้านค้าปลีก กล่าว