ผู้จัดการรายวัน 360–นักลงทุนผวา! โควิด-19 ระบาดรอบสอง ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนตลาดหุ้นไทยดิ่งหนักกว่า 40 จุด ปิดที่ 1,341.99 จุด มูลค่าซื้อขายเฉียด 8.34 หมื่นล้านบาท นักวิเคราะห์แนะจับตาตัวเลขผู้ติดเชื้อ มาตรการท่องเที่ยวที่จะเข้า ครม. วันนี้ พร้อมประเมินสถานการณ์แย่สุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจทรุดหนักลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกรอบ 1,250-1,350 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (15 มิ.ย.) นักลงทุนตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาระบาดรุนแรกอีกครั้งเป็นระลอกที่สอง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงวันเดียวมีจำนวนสูงกว่า 1.4 แสนราย ส่งผลให้นักลงทุนกังวล จึงได้เทขายหุ้นออกมาจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน แม้ว่าสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ของไทยจะดีขึ้น จนรัฐบาลผ่อนคลายกิจกรรมและกิจการหลายอย่างในเฟสที่ 4 รวมถึงการยกเลิกเคอร์ฟิว โดยดัชนีหุ้นไทยลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,338.25 จุด สูงสุดที่ 1,379.78 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,341.99 จุด ลดลงจากวันก่อน 40.57 จุด หรือคิดเป็น 2.93% มูลค่าการซื้อขายรวม 83,379.76 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิรวมกว่า 4,013.75 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,240.99 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,555.08 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 6,809.83 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ราคาปิดที่ 24.20 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือคิดเป็น 3.20% มูลค่าการซื้อขายรวม 3,838.06 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ปิดที่ 98.00 บาท ลดลง 9.50 บาท หรือ 8.84% มูลค่าการซื้อขาย 3,523.06 ล้านบาท และบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ปิดที่ 1.03 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 1.90% มูลค่าการซื้อขาย 3,196.67 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า โดยตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 5,719.80 จุด ลดลง 128.00 จุด หรือคิดเป็น 2.19% ดัชนี ALL ORDINARIES ปิดที่ 5,830.00 จุด ลดลง 129.90 จุก หรือ 2.18% , ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิเกอิ ปิดที่ 21,530.95 จุด ลดลง 774.53 จุด หรือ 3.47% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 23,776.95 จุด ลดลง 524.43 จุด หรือ 2.16% , ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนี FTSE STI ปิดที่ 2,613.88 จุด ลดลง 70.75 จุด หรือ 2.64% , ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 2,890.03 จุด ลดลง 29.71 จุด หรือ 1.02% และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต (KOSPI) ปิดที่ 2,030.82 จุด ลดลง 101.48 จุด หรือ 4.76%
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวลดลง จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกทรุดหนัก แม้สถานการณ์ในไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 รวมถึงประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวแล้วก็ตาม
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ยังคงเป็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงมาตรการต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (16 มิ.ย.) โดยมีแนวโน้มอยู่ในช่วงพักฐาน หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,340-1,320 จุด และแนวต้าน 1,360-1,380 จุด
ด้าน บล.หยวนต้า ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต่อผลกระทบตลาดหุ้นไทยไว้ 3 ระดับ คือ ระดับที่ดีที่สุด ไม่มีการระบาดรอบ 2 ในประเทศไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวดีกว่าภูมิภาค แกว่งตัวในกรอบ 1,350-1,450 จุด หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว แบงก์ รับอานิสงส์รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจระดับปานกลาง มีการระบาดรอบ 2 ในไทย แต่ไม่ถึง 20 คนต่อวัน ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงภูมิภาค แกว่งในกรอบ 1,300-1,400 จุด หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ สื่อสาร โรงไฟฟ้า ค้าปลีก การแพทย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ระดับที่แย่ที่สุด มีการระบาดรอบ 2 ในไทย และเกิน 20 คนต่อวัน ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะทรุดหนักลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,350 จุด โดยปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์ หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ สื่อสาร โรงไฟฟ้า ค้าปลีก กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (15 มิ.ย.) นักลงทุนตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาระบาดรุนแรกอีกครั้งเป็นระลอกที่สอง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงวันเดียวมีจำนวนสูงกว่า 1.4 แสนราย ส่งผลให้นักลงทุนกังวล จึงได้เทขายหุ้นออกมาจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน แม้ว่าสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ของไทยจะดีขึ้น จนรัฐบาลผ่อนคลายกิจกรรมและกิจการหลายอย่างในเฟสที่ 4 รวมถึงการยกเลิกเคอร์ฟิว โดยดัชนีหุ้นไทยลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,338.25 จุด สูงสุดที่ 1,379.78 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,341.99 จุด ลดลงจากวันก่อน 40.57 จุด หรือคิดเป็น 2.93% มูลค่าการซื้อขายรวม 83,379.76 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิรวมกว่า 4,013.75 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,240.99 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,555.08 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 6,809.83 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ราคาปิดที่ 24.20 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือคิดเป็น 3.20% มูลค่าการซื้อขายรวม 3,838.06 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ปิดที่ 98.00 บาท ลดลง 9.50 บาท หรือ 8.84% มูลค่าการซื้อขาย 3,523.06 ล้านบาท และบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ปิดที่ 1.03 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 1.90% มูลค่าการซื้อขาย 3,196.67 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า โดยตลาดหุ้นออสเตรเลีย ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 5,719.80 จุด ลดลง 128.00 จุด หรือคิดเป็น 2.19% ดัชนี ALL ORDINARIES ปิดที่ 5,830.00 จุด ลดลง 129.90 จุก หรือ 2.18% , ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิเกอิ ปิดที่ 21,530.95 จุด ลดลง 774.53 จุด หรือ 3.47% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 23,776.95 จุด ลดลง 524.43 จุด หรือ 2.16% , ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนี FTSE STI ปิดที่ 2,613.88 จุด ลดลง 70.75 จุด หรือ 2.64% , ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 2,890.03 จุด ลดลง 29.71 จุด หรือ 1.02% และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต (KOSPI) ปิดที่ 2,030.82 จุด ลดลง 101.48 จุด หรือ 4.76%
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวลดลง จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกทรุดหนัก แม้สถานการณ์ในไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 รวมถึงประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวแล้วก็ตาม
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ยังคงเป็นตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงมาตรการต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (16 มิ.ย.) โดยมีแนวโน้มอยู่ในช่วงพักฐาน หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,340-1,320 จุด และแนวต้าน 1,360-1,380 จุด
ด้าน บล.หยวนต้า ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต่อผลกระทบตลาดหุ้นไทยไว้ 3 ระดับ คือ ระดับที่ดีที่สุด ไม่มีการระบาดรอบ 2 ในประเทศไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวดีกว่าภูมิภาค แกว่งตัวในกรอบ 1,350-1,450 จุด หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว แบงก์ รับอานิสงส์รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจระดับปานกลาง มีการระบาดรอบ 2 ในไทย แต่ไม่ถึง 20 คนต่อวัน ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงภูมิภาค แกว่งในกรอบ 1,300-1,400 จุด หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ สื่อสาร โรงไฟฟ้า ค้าปลีก การแพทย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ระดับที่แย่ที่สุด มีการระบาดรอบ 2 ในไทย และเกิน 20 คนต่อวัน ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะทรุดหนักลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,350 จุด โดยปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์ หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ สื่อสาร โรงไฟฟ้า ค้าปลีก กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
