ผู้จัดการรายวัน360-“บิ๊กตู่”แย้มปีนี้บางพื้นที่จัดเลือกตั้งท้องถิ่นแน่ "บิ๊กป๊อก"ปัดตอบงบเลือกตั้งท้องถิ่นมีปัญหา ระบุรอ กกต. หารือร่วมรัฐบาลก่อน ย้ำต้องดูความพร้อมในภาพรวม "ศรีสุวรรณ" จี้จัดเลือกตั้งท้องถิ่น ถ้ายังยื้อเตรียมฟ้องศาลฟัน ครม. ทั้งคณะ “จรุงวิทย์”ยันงบเลือกตั้งท้องถิ่นของกกต. มี 800 ล้านบาท พร้อมใช้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ตนจะพิจารณาเอง ขึ้นอยู่กับกฎหมาย ความพร้อมของกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการการเลือก (กกต.) ฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็จะมีการเลือกตั้งสักอย่างหนึ่งภายในปีนี้ เดี๋ยวรอเวลาก่อน
เมื่อถามว่า งบประมาณจัดการเลือกตั้งไม่เพียงพอ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องหาทางดูก่อนว่าทำได้หรือไม่อย่างไร
เมื่อถามต่อว่า จะมีพื้นที่เลือกตั้งนำร่อง เช่น กรุงเทพฯ ก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มว่า "ผมยังไม่ได้พูดอย่างนั้น กำลังดูอยู่ว่า อันไหนจะสามารถเลือกตั้งได้ก่อน"
เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจว่าสถานการณ์โควิด-19 จะจบแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนต้องทำให้มันเกิดขึ้นได้ ประชาชนก็ต้องร่วมมือ ถ้าบอกว่านายกฯ จะทำอะไรแล้วนายกฯ ไม่ร่วมมือ มันจะทำได้หรือไม่
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปติดตามดูว่างบประมาณเป็นอย่างไร ก่อนจะเสนอมาให้รัฐบาลพิจารณา โดยยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ต้องรอ กกต. ตรวจสอบ และแบ่งเขตเลือกตั้ง ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้น กกต. ก็จะหารือร่วมกับรัฐบาล เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งต้องดูความพร้อมในภาพรวมด้วย
ขณะเดียวกัน ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2563 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบ จะต้องจัดทำข้อบัญญัติงบประมาณเสนอรัฐบาล ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือน ส.ค. และจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. ซึ่งในช่วงระหว่างนี้ หากมีประกาศให้มีการเลือกตั้ง ก็จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบสิ้นสภาพลงและไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ทำให้ไม่สามารถเสนอข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าวได้ จึงต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วย
เมื่อถามว่า ในส่วนของงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการในการเลือกตั้ง ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า เดิมรัฐบาลประกาศว่าจะดำเนินการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นได้ภายในปีนี้ แต่พบว่าถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เห็นว่า รัฐบาลพยายามประวิงเวลา ยื้ออำนาจของตนเองผ่านกลไกของท้องถิ่น และยังขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 252 ที่ระบุว่า สมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง และขัดต่อกฎหมายท้องถิ่นทุกฉบับ ขัดต่อหลักประชาธิปไตย เพราะปล่อยให้ผู้บริหารท้องถิ่นครองอำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 7-8 ปี บางแห่งรักษาการมากกว่า 5-6 ปี นับตั้งแต่ คสช. และเห็นว่า การจัดเลือกตั้งใช้งบประมาณ 2-3 พันล้านบาท สามารถใช้งบกลางได้ ซึ่งสมาคมฯ จะนำคำร้องไปยื่นให้ ครม. ได้ตัดสินใจ เพื่อให้มีมติแจ้งไปยัง กกต. เพื่อดำเนินการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศโดยเร็ว และหากยังมีการใช้เล่ห์กล ประวิงเวลาไว้ สมาคมฯ จะนำหลักฐานนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลเอาผิด ครม.ทั้งคณะต่อไป
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นของ กกต. ขณะนี้ถือว่าพร้อมระดับหนึ่ง โดยระเบียบต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ กำลังเตรียมจัดอบรมเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการแบ่งเขตขององค์การปกครองส่วนท้องแต่ละระดับ เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจทาน และประกาศราชกิจนุเบกษา ส่วนงบการเลือกตั้ง ในอดีตใช้ 3,000-4,000 ล้านบาท แต่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นตามกฎหมายใหม่ กำหนดให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ส่วน กกต. เป็นผู้กำกับดูแล งบประมาณจึงอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนของ กกต.ได้รับการจัดสรรงบที่จะใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่นในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวยังคงอยู่ และ กกต. พร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ตนจะพิจารณาเอง ขึ้นอยู่กับกฎหมาย ความพร้อมของกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการการเลือก (กกต.) ฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็จะมีการเลือกตั้งสักอย่างหนึ่งภายในปีนี้ เดี๋ยวรอเวลาก่อน
เมื่อถามว่า งบประมาณจัดการเลือกตั้งไม่เพียงพอ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องหาทางดูก่อนว่าทำได้หรือไม่อย่างไร
เมื่อถามต่อว่า จะมีพื้นที่เลือกตั้งนำร่อง เช่น กรุงเทพฯ ก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มว่า "ผมยังไม่ได้พูดอย่างนั้น กำลังดูอยู่ว่า อันไหนจะสามารถเลือกตั้งได้ก่อน"
เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจว่าสถานการณ์โควิด-19 จะจบแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนต้องทำให้มันเกิดขึ้นได้ ประชาชนก็ต้องร่วมมือ ถ้าบอกว่านายกฯ จะทำอะไรแล้วนายกฯ ไม่ร่วมมือ มันจะทำได้หรือไม่
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปติดตามดูว่างบประมาณเป็นอย่างไร ก่อนจะเสนอมาให้รัฐบาลพิจารณา โดยยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ต้องรอ กกต. ตรวจสอบ และแบ่งเขตเลือกตั้ง ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้น กกต. ก็จะหารือร่วมกับรัฐบาล เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งต้องดูความพร้อมในภาพรวมด้วย
ขณะเดียวกัน ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2563 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบ จะต้องจัดทำข้อบัญญัติงบประมาณเสนอรัฐบาล ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือน ส.ค. และจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. ซึ่งในช่วงระหว่างนี้ หากมีประกาศให้มีการเลือกตั้ง ก็จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบสิ้นสภาพลงและไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ทำให้ไม่สามารถเสนอข้อบัญญัติงบประมาณดังกล่าวได้ จึงต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วย
เมื่อถามว่า ในส่วนของงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการในการเลือกตั้ง ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า เดิมรัฐบาลประกาศว่าจะดำเนินการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นได้ภายในปีนี้ แต่พบว่าถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เห็นว่า รัฐบาลพยายามประวิงเวลา ยื้ออำนาจของตนเองผ่านกลไกของท้องถิ่น และยังขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 252 ที่ระบุว่า สมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง และขัดต่อกฎหมายท้องถิ่นทุกฉบับ ขัดต่อหลักประชาธิปไตย เพราะปล่อยให้ผู้บริหารท้องถิ่นครองอำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 7-8 ปี บางแห่งรักษาการมากกว่า 5-6 ปี นับตั้งแต่ คสช. และเห็นว่า การจัดเลือกตั้งใช้งบประมาณ 2-3 พันล้านบาท สามารถใช้งบกลางได้ ซึ่งสมาคมฯ จะนำคำร้องไปยื่นให้ ครม. ได้ตัดสินใจ เพื่อให้มีมติแจ้งไปยัง กกต. เพื่อดำเนินการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศโดยเร็ว และหากยังมีการใช้เล่ห์กล ประวิงเวลาไว้ สมาคมฯ จะนำหลักฐานนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลเอาผิด ครม.ทั้งคณะต่อไป
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นของ กกต. ขณะนี้ถือว่าพร้อมระดับหนึ่ง โดยระเบียบต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ กำลังเตรียมจัดอบรมเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องการแบ่งเขตขององค์การปกครองส่วนท้องแต่ละระดับ เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจทาน และประกาศราชกิจนุเบกษา ส่วนงบการเลือกตั้ง ในอดีตใช้ 3,000-4,000 ล้านบาท แต่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นตามกฎหมายใหม่ กำหนดให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ ส่วน กกต. เป็นผู้กำกับดูแล งบประมาณจึงอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก ส่วนของ กกต.ได้รับการจัดสรรงบที่จะใช้ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่นในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวยังคงอยู่ และ กกต. พร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น
