ผู้จัดการรายวัน360'- แรงงานไทยในมาเลเซีย ลักลอบข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หนีกลับเข้าประเทศ เลี่ยงตรวจโควิด-19 เจ้าหน้าที่รวบได้อีก 25 คน เตรียมจับกักตัวพร้อมดำเนินคดี
วานนี้ (26 เม.ย.) ที่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านบือเร็ง หมู่ที่ 8 ต.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 พร้อมด้วย พ.อ.ศุภชัย สงสังข์ รองผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน (รอง ผบ.ชค.ปชด.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และเข้ารับตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 25 คน ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย และที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี ร.ท.จิรัฎฐ์ บูรณัติ รองผู้บังคับกองร้อยทหารพรานเชิงรุก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และกำลังพลให้การต้อนรับ
พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานเชิงรุก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ชุดปฏิบัติการ เดินลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณชุมชนบือเร็ง ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร หลังทราบเบาะแสมีแรงงานไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมากจะใช้ช่องทางข้ามธรรมชาติเข้ามายังฝั่งประเทศไทย
โดยขณะลาดตระเวนพบคนไทยเดินข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงได้เข้าควบคุมแรงงานทั้งหมด 25 คน หลังควบคุมเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานไทยทั้งหมดมายังจุดคัดกรองด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่คนไทยกลุ่มนี้อาศัยอยู่ให้มารับตัวที่ด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก โดยเจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดจะทำการกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ตามศูนย์ Local Quarantine เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งการดูแลเบื้องต้นก็เป็นไปตามระบบมาตรฐานสากล
ทั้งนี้ พ.อ.เอกพล ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในการตรึงกำลัง พร้อมลาดตระเวนอย่างเข้มแข็ง เพื่อเป็นการดูแลป้องกันไม่ให้มีการเดินทางเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายด้วยการลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยผู้ที่จะเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข และเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย
วานนี้ (26 เม.ย.) ที่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านบือเร็ง หมู่ที่ 8 ต.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 พร้อมด้วย พ.อ.ศุภชัย สงสังข์ รองผู้บังคับชุดควบคุมป้องกันชายแดน (รอง ผบ.ชค.ปชด.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และเข้ารับตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 25 คน ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย และที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี ร.ท.จิรัฎฐ์ บูรณัติ รองผู้บังคับกองร้อยทหารพรานเชิงรุก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และกำลังพลให้การต้อนรับ
พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานเชิงรุก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ชุดปฏิบัติการ เดินลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณชุมชนบือเร็ง ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร หลังทราบเบาะแสมีแรงงานไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมากจะใช้ช่องทางข้ามธรรมชาติเข้ามายังฝั่งประเทศไทย
โดยขณะลาดตระเวนพบคนไทยเดินข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงได้เข้าควบคุมแรงงานทั้งหมด 25 คน หลังควบคุมเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานไทยทั้งหมดมายังจุดคัดกรองด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่คนไทยกลุ่มนี้อาศัยอยู่ให้มารับตัวที่ด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก โดยเจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดจะทำการกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ตามศูนย์ Local Quarantine เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งการดูแลเบื้องต้นก็เป็นไปตามระบบมาตรฐานสากล
ทั้งนี้ พ.อ.เอกพล ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในการตรึงกำลัง พร้อมลาดตระเวนอย่างเข้มแข็ง เพื่อเป็นการดูแลป้องกันไม่ให้มีการเดินทางเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายด้วยการลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยผู้ที่จะเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข และเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย