ผู้จัดการรายวัน360-คลังเตรียมจ่ายเงินเยียวยา 5 พันบาทก้อนแรก 8-10 เม.ย.นี้ ให้กับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกล็อตแรก 1.6 ล้านคน เผยจะได้รับ SMS หรืออีเมลยืนยัน พร้อมแจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพสวมรอยล้วงข้อมูลผู้ลงทะเบียนผ่านไลน์
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้การคัดกรองผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงเท่านั้น โดยจะตรวจสอบจากคุณสมบัติจากสิ่งที่ประชาชนผู้ขอรับสิทธิ์กรอกข้อมูลเข้ามาเป็นหลัก เช่น กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ จะดูจากข้อมูลใบขับขี่สาธารณะที่จะต้องกรอกในระบบ ซึ่งระบบ AI จะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับกรมการขนส่งทางบกว่าเป็นจริงหรือไม่ หรือถ้าเป็นอาชีพอิสระ จะดูช่องทางที่ประกอบอาชีพว่าขายของที่ไหน ตลาดอะไร ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
สำหรับกลุ่มที่รัฐบาลต้องแสดงความเสียใจ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรการ คือ นักเรียน นักศึกษา แรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 แต่ภาครัฐจะมีมาตรการเยียวยาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนเกษตรกร กำลังจะมีมาตรการเยียวยาเฉพาะ ขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังพอทำงานหรือประกอบอาชีพได้ เช่น คนขายของออนไลน์ โปรแกรมเมอร์ คนงานก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ยังมีความยืดหยุ่นในการทำงาน สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ก็จะทยอยออกมาตรการช่วยเหลือตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุด มีผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์รวม 24 กว่าล้านคน มีผู้ขอยกเลิกเกือบ 3 แสนคน โดยระบบจะเริ่มแจ้งผลทั้งผู้ผ่านและไม่ผ่านการคัดเลือกในวันที่ 8 เม.ย.2563 ทาง SMS หรืออีเมลที่แจ้งไว้ โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจะเริ่มได้รับเงินเยียวยาในวันเดียวกันเลย ซึ่งการจ่ายเงินจะทยอยจ่ายตามลำดับผลการคัดกรอง ไม่มีการกำหนดโควตาว่าจะจ่ายวันละกี่คน รวมถึงไม่ใช่การจ่ายทั้งล็อตของเดือนเม.ย.2563 เพราะการลงทะเบียนยังไม่สิ้นสุด การตรวจสอบคัดกรองแต่ละคนก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน ถ้าผ่านก็จะรีบจ่ายเงินให้ทันที
อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนผู้ลงทะเบียนว่าขณะนี้มีมิจฉาชีพหลอกลวงขอข้อมูลผู้ลงทะเบียนผ่าน LINE ซึ่งกระทรวงการคลังขอยืนยันว่า มาตรการนี้ ไม่มีการขอข้อมูล หรือสอบถามผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติมผ่าน LINE เพราะการพิจารณาข้อมูลต่างๆ จะดูจากสิ่งที่ท่านกรอกไว้ตั้งแต่ตอนลงทะเบียนอยู่แล้ว อยากให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างเต็มที่ โดยสถานการณ์ปัจจุบันอาจจะไม่เป็นปกติ ทำให้ท่านต้องปรับตัวบ้าง แต่กระทรวงการคลังจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่หลากหลายให้กับพวกท่านทุกกลุ่มให้ดีที่สุด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-6 เม.ย.2563 มีผู้มาลงทะเบียน 24.3 ล้านราย มีผู้ขอยกเลิกการลงทะเบียน 3.3 แสนคน และตั้งแต่วันที่ 8-10 เม.ย.2563 ซึ่งครบกำหนด 7 วันทำการ กระทรวงการคลังจะทยอยส่ง SMS ผลการคัดกรองและโอนเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ในวันเดียวกัน มียอดรวมประมาณ 1.6 ล้านคน อาชีพส่วนใหญ่ คือ ค้าขายกว่า 1 ล้านคน และ 4 กลุ่มอาชีพเดิมที่เคยแจ้งไปก่อนหน้าแล้ว ได้แก่ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ มัคคุเทศก์ และผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนผู้ลงทะเบียนที่เหลือ กำลังเร่งทำให้อย่างสุดความสามารถ เพราะเข้าใจดีว่าเงินเยียวยายิ่งได้เร็วเท่าไร ยิ่งเป็นประโยชน์ แต่ข้อมูล 24 ล้านคนต้องใช้เวลาในการประมวลผลมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้การคัดกรองผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงเท่านั้น โดยจะตรวจสอบจากคุณสมบัติจากสิ่งที่ประชาชนผู้ขอรับสิทธิ์กรอกข้อมูลเข้ามาเป็นหลัก เช่น กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ จะดูจากข้อมูลใบขับขี่สาธารณะที่จะต้องกรอกในระบบ ซึ่งระบบ AI จะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับกรมการขนส่งทางบกว่าเป็นจริงหรือไม่ หรือถ้าเป็นอาชีพอิสระ จะดูช่องทางที่ประกอบอาชีพว่าขายของที่ไหน ตลาดอะไร ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
สำหรับกลุ่มที่รัฐบาลต้องแสดงความเสียใจ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรการ คือ นักเรียน นักศึกษา แรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 แต่ภาครัฐจะมีมาตรการเยียวยาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนเกษตรกร กำลังจะมีมาตรการเยียวยาเฉพาะ ขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังพอทำงานหรือประกอบอาชีพได้ เช่น คนขายของออนไลน์ โปรแกรมเมอร์ คนงานก่อสร้าง ซึ่งกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ยังมีความยืดหยุ่นในการทำงาน สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ก็จะทยอยออกมาตรการช่วยเหลือตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุด มีผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์รวม 24 กว่าล้านคน มีผู้ขอยกเลิกเกือบ 3 แสนคน โดยระบบจะเริ่มแจ้งผลทั้งผู้ผ่านและไม่ผ่านการคัดเลือกในวันที่ 8 เม.ย.2563 ทาง SMS หรืออีเมลที่แจ้งไว้ โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจะเริ่มได้รับเงินเยียวยาในวันเดียวกันเลย ซึ่งการจ่ายเงินจะทยอยจ่ายตามลำดับผลการคัดกรอง ไม่มีการกำหนดโควตาว่าจะจ่ายวันละกี่คน รวมถึงไม่ใช่การจ่ายทั้งล็อตของเดือนเม.ย.2563 เพราะการลงทะเบียนยังไม่สิ้นสุด การตรวจสอบคัดกรองแต่ละคนก็ใช้เวลาไม่เท่ากัน ถ้าผ่านก็จะรีบจ่ายเงินให้ทันที
อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนผู้ลงทะเบียนว่าขณะนี้มีมิจฉาชีพหลอกลวงขอข้อมูลผู้ลงทะเบียนผ่าน LINE ซึ่งกระทรวงการคลังขอยืนยันว่า มาตรการนี้ ไม่มีการขอข้อมูล หรือสอบถามผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติมผ่าน LINE เพราะการพิจารณาข้อมูลต่างๆ จะดูจากสิ่งที่ท่านกรอกไว้ตั้งแต่ตอนลงทะเบียนอยู่แล้ว อยากให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างเต็มที่ โดยสถานการณ์ปัจจุบันอาจจะไม่เป็นปกติ ทำให้ท่านต้องปรับตัวบ้าง แต่กระทรวงการคลังจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่หลากหลายให้กับพวกท่านทุกกลุ่มให้ดีที่สุด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-6 เม.ย.2563 มีผู้มาลงทะเบียน 24.3 ล้านราย มีผู้ขอยกเลิกการลงทะเบียน 3.3 แสนคน และตั้งแต่วันที่ 8-10 เม.ย.2563 ซึ่งครบกำหนด 7 วันทำการ กระทรวงการคลังจะทยอยส่ง SMS ผลการคัดกรองและโอนเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ในวันเดียวกัน มียอดรวมประมาณ 1.6 ล้านคน อาชีพส่วนใหญ่ คือ ค้าขายกว่า 1 ล้านคน และ 4 กลุ่มอาชีพเดิมที่เคยแจ้งไปก่อนหน้าแล้ว ได้แก่ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ มัคคุเทศก์ และผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนผู้ลงทะเบียนที่เหลือ กำลังเร่งทำให้อย่างสุดความสามารถ เพราะเข้าใจดีว่าเงินเยียวยายิ่งได้เร็วเท่าไร ยิ่งเป็นประโยชน์ แต่ข้อมูล 24 ล้านคนต้องใช้เวลาในการประมวลผลมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม