ผู้จัดการรายวัน360-"สมศักดิ์"สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นักโทษก่อเหตุจราจลเผาเรือนนอนและหลบหนี ย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 สุดเข้ม คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า เผยทั้งประเทศพบติดเชื้อแค่ 1 ราย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ย้ำถึงผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ ต้องเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ด้านตำรวจบุรีรัมย์ ตั้งกรรมการสอบด้วย ยังไม่ชี้ชัดปมก่อเหตุ พร้อมเร่งตามล่าผู้ต้องขังอีก 1 คนที่ยังหลบหนี
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีนักโทษเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อเหตุจราจลจุดไฟเผาเรือนนอนและหลบหนี ว่า มีนักโทษหนีออกจากเรือนจำ 11 ราย จับได้แล้ว 10 ราย หลบหนีอีก 1 ราย คือ นายธันยพงศ์ สินพูน ชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัว ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้อง ได้กระจายไปอยู่เรือนจำใกล้เคียง โดยยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ รุนแรงและไม่เคยเกิดขึ้น ความเสียหายแทบจะ 100% ซึ่งได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วว่าใครเป็นคนปลุกปั่น และสาเหตุทั้งหมดเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ยืนยันว่า มาตรการป้องกันโควิด-19 เรือนจำมีมาตรการป้องกันอย่างดี คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า มีการทำห้องกักโรค เพิ่มการคัดกรองผู้ต้องขังอย่างเข้มงวด ซึ่งจนถึงขณะนี้ เรือนทั้งทั่วประเทศ พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพียง 1 ราย
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง และเน้นย้ำให้ผู้บัญชาการเรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์การจลาจลที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ พร้อมวางมาตรการเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและปราบปรามการเกิดจลาจลภายในเรือนจำ มิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า ล่าสุด บก.ภ.จว บุรีรัมย์ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมี รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เป็นประธาน โดยวันนี้จะเข้าพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ก่อเหตุต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้แยกผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องไปเรือนจำที่ปลอดภัยในพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว ส่วนมูลเหตุยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เรื่องโควิด-19 หรือผู้ต้องขังเจตนาสร้างความวุ่นวายเพื่อหลบหนี จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่หากเป็นเรื่องภายในกรมราชทัณฑ์ ก็เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ในการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง แต่ยืนยันว่า ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบอย่างครอบคลุมทุกมิติแน่นอน
ส่วนการติดตามตัวนักโทษที่ที่หลบหนี พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจชุดเฉพาะกิจบุรีรัมย์ ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมกันติดตามผู้ต้องขังที่หลบหนีอยู่อีก 1 คน ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดว่าผู้ต้องขังรายนี้เป็นหัวโจกหรือไม่ แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวกลับมาได้โดยเร็ว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีนักโทษเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อเหตุจราจลจุดไฟเผาเรือนนอนและหลบหนี ว่า มีนักโทษหนีออกจากเรือนจำ 11 ราย จับได้แล้ว 10 ราย หลบหนีอีก 1 ราย คือ นายธันยพงศ์ สินพูน ชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัว ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้อง ได้กระจายไปอยู่เรือนจำใกล้เคียง โดยยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ รุนแรงและไม่เคยเกิดขึ้น ความเสียหายแทบจะ 100% ซึ่งได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วว่าใครเป็นคนปลุกปั่น และสาเหตุทั้งหมดเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ยืนยันว่า มาตรการป้องกันโควิด-19 เรือนจำมีมาตรการป้องกันอย่างดี คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า มีการทำห้องกักโรค เพิ่มการคัดกรองผู้ต้องขังอย่างเข้มงวด ซึ่งจนถึงขณะนี้ เรือนทั้งทั่วประเทศ พบผู้ต้องขังติดเชื้อเพียง 1 ราย
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง และเน้นย้ำให้ผู้บัญชาการเรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์การจลาจลที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ พร้อมวางมาตรการเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและปราบปรามการเกิดจลาจลภายในเรือนจำ มิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า ล่าสุด บก.ภ.จว บุรีรัมย์ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมี รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เป็นประธาน โดยวันนี้จะเข้าพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ก่อเหตุต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้แยกผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องไปเรือนจำที่ปลอดภัยในพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว ส่วนมูลเหตุยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เรื่องโควิด-19 หรือผู้ต้องขังเจตนาสร้างความวุ่นวายเพื่อหลบหนี จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่หากเป็นเรื่องภายในกรมราชทัณฑ์ ก็เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ในการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง แต่ยืนยันว่า ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบอย่างครอบคลุมทุกมิติแน่นอน
ส่วนการติดตามตัวนักโทษที่ที่หลบหนี พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจชุดเฉพาะกิจบุรีรัมย์ ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมกันติดตามผู้ต้องขังที่หลบหนีอยู่อีก 1 คน ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดว่าผู้ต้องขังรายนี้เป็นหัวโจกหรือไม่ แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวกลับมาได้โดยเร็ว