ผู้จัดการรายวัน360-ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา "ปารีณา" บุกรุกป่า เจ้าตัวยันไม่กังวล ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ด้านทนายเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ชาวพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปทส. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ กรณีครอบครองที่ดินเขาสนฟาร์มรุกล้ำป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีกว่า 40 ไร่ และบุกรุกเขตป่าไม้ ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 รวมพื้นที่ทั้งหมด 46 ไร่เศษ ที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีเอาไว้
น.ส.ปารีณากล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ได้มาพบตามหมายเรียก ไม่มีความกังวลใจใดๆ และหลังจากเข้าสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง น.ส.ปารีณา ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้ให้การปฏิเสธไปทุกข้อกล่าวหา และขอทนายเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด
นายทศพลกล่าวว่า ได้ให้การปฎิเสธไปแล้วทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งความผิดในหลายข้อหา ทั้ง พ.ร.บ.ป่าไม้เกี่ยวกับการบุกรุกป่า ซึ่งเป็นที่ดินป่าสงวน และที่ดิน ส.ป.ก. โดยหลังจากนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ยื่นต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน แต่หากเสร็จก่อนก็จะมายื่นก่อน โดยให้ความสำคัญทุกประเด็น เพราะเป็นเรื่องอนาคตของ น.ส.ปารีณา
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดีน.ส.ปารีณาใน 4 ข้อหา คือ 1.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเข้ายึดถือและครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต 2.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต 3.กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ฐานเข้าไปยึดถือครอบครองก่นสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 4.พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 การกระทำหรือละเว้นกระทำด้วยประการใดโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 มี.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายทศพล เพ็งส้ม ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ชาวพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปทส. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ กรณีครอบครองที่ดินเขาสนฟาร์มรุกล้ำป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีกว่า 40 ไร่ และบุกรุกเขตป่าไม้ ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 รวมพื้นที่ทั้งหมด 46 ไร่เศษ ที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีเอาไว้
น.ส.ปารีณากล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ได้มาพบตามหมายเรียก ไม่มีความกังวลใจใดๆ และหลังจากเข้าสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง น.ส.ปารีณา ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้ให้การปฏิเสธไปทุกข้อกล่าวหา และขอทนายเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด
นายทศพลกล่าวว่า ได้ให้การปฎิเสธไปแล้วทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนแจ้งความผิดในหลายข้อหา ทั้ง พ.ร.บ.ป่าไม้เกี่ยวกับการบุกรุกป่า ซึ่งเป็นที่ดินป่าสงวน และที่ดิน ส.ป.ก. โดยหลังจากนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ยื่นต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน แต่หากเสร็จก่อนก็จะมายื่นก่อน โดยให้ความสำคัญทุกประเด็น เพราะเป็นเรื่องอนาคตของ น.ส.ปารีณา
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดีน.ส.ปารีณาใน 4 ข้อหา คือ 1.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเข้ายึดถือและครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต 2.กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต 3.กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ฐานเข้าไปยึดถือครอบครองก่นสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ 4.พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 การกระทำหรือละเว้นกระทำด้วยประการใดโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไป