ผู้จัดการรายวัน360- ครม.มีมติไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครอง กรณีสั่งชะลอการสร้าง "ทางเลียบริมฝั่งเจ้าพระยา" ด้าน กทม.เตรียมส่งความเห็นแย้งถึงอัยการสูงสุด ยันทำถูกต้องตามกฎหมาย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (18ก.พ.)ว่า จากกรณี เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ได้ร้องเรียนไปยังศาลปกครอง ถึงความชอบธรรมด้วยกฎหมาย ในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลปกครอง มีคำสั่งห้ามไม่ให้ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้ชะลอการก่อสร้างเฉพาะในส่วนทางเดินริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จนกว่าจะมีคำพิพากษา หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่ง ครม. ถือเป็นจำเลยที่ 1 จึงได้มีมติ ไม่อุทธรณ์ต่อคำพิพากษา โดยจะรอจนกว่ามีคำสั่งสุดท้าย
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามไปยังกทม. ซึ่งทางกทม. แจ้งว่าจะทำความเห็นแย้ง ส่งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งต่อไปยังศาลปกครอง สำหรับความเห็นแย้งของ กทม.ระบุว่า ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวชอบด้วยหลักการ และเหตุผล และถูกต้องตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยสั่งห้ามมิให้กรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฉพาะในส่วนของแผนงานที่ 1 คือทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยศาลฯเห็นว่าการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็น 1 ในจำนวน 12 แผนงานในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคมกับพวกรวม 12 ราย ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 ขอให้ศาลเพิกถอนโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และสั่งกรุงเทพมหานคร ยกเลิกการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งหมด และระหว่างศาลพิจารณาคดี ขอให้มีคำสั่งห้ามกรุงเทพมหามหานครดำเนินโครงการ ซึ่งศาลฯได้มีการเรียกคู่กรณีไต่สวนไป เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีคำสั่งในครั้งนี้
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (18ก.พ.)ว่า จากกรณี เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ได้ร้องเรียนไปยังศาลปกครอง ถึงความชอบธรรมด้วยกฎหมาย ในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลปกครอง มีคำสั่งห้ามไม่ให้ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้ชะลอการก่อสร้างเฉพาะในส่วนทางเดินริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จนกว่าจะมีคำพิพากษา หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่ง ครม. ถือเป็นจำเลยที่ 1 จึงได้มีมติ ไม่อุทธรณ์ต่อคำพิพากษา โดยจะรอจนกว่ามีคำสั่งสุดท้าย
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามไปยังกทม. ซึ่งทางกทม. แจ้งว่าจะทำความเห็นแย้ง ส่งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งต่อไปยังศาลปกครอง สำหรับความเห็นแย้งของ กทม.ระบุว่า ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวชอบด้วยหลักการ และเหตุผล และถูกต้องตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยสั่งห้ามมิให้กรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฉพาะในส่วนของแผนงานที่ 1 คือทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยศาลฯเห็นว่าการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็น 1 ในจำนวน 12 แผนงานในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคมกับพวกรวม 12 ราย ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 ขอให้ศาลเพิกถอนโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และสั่งกรุงเทพมหานคร ยกเลิกการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งหมด และระหว่างศาลพิจารณาคดี ขอให้มีคำสั่งห้ามกรุงเทพมหามหานครดำเนินโครงการ ซึ่งศาลฯได้มีการเรียกคู่กรณีไต่สวนไป เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีคำสั่งในครั้งนี้