ผู้จัดการรายวัน360- มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา และ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ มีผลตั้งแต่ 21 ม.ค.63 พร้อมเตรียมตั้งกรรมการสอบ "บิ๊กโจ๊ก" หากพบฝ่าฝืนคำสั่งเตือน ด้าน "บิ๊กป้อม" ยันไม่มีปัญหากับ "บิ๊กตู่" ปมของ "บิ๊กโจ๊ก"
วานนี้ (28 ม.ค.) พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ ปฏิบัติราชการราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ลงนามในหนังสือหน่วยราชการในพระองค์ 904 ที่ พว. 005.1/493 ลงวันที่ 25 ม.ค. 63 ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ ใจความว่า ด้วยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ 2 นาย ดังนี้
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.63 เป็นต้นไป
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งหนังสือลาล่วงหน้ามาแจ้งก่อนจะมีคำสั่งสำนักนายกฯ ฉบับล่าสุด เพื่อแจ้งขอลากิจส่วนตัว ตามกำหนดราชการที่สามารถกระทำได้โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่งใบลา และแจ้งว่า จะเดินทางไปยังประเทศอินเดียถึง ระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-9 ก.พ. 2563 โดย หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 23 ม.ค.ซึ่งเป็นการลาถูกต้องตามระเบียบราชการ
“เรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความผิดต่างๆ ขึ้นอยู่กับต้นสังกัด คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่ถ้าเป็นกรณีที่เมื่อมีการออกคำสั่งเตือนแล้วยังมีความผิดเกิดขึ้นอีก ทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่ที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพิ่มเติมได้” นายธีรภัทร กล่าว
ในส่วนของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้นมารายงานตัวกับตนแล้ว ช่วงเย็นวันที่ 24 ม.ค. หลังมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการส่งตัวมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนการมอบหมายให้ปฏิบัติงานนั้น อยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหารระดับสูง เนื่องจาก พล.ต.อ.วิระชัย ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาชั่วคราว เพื่อรอผลสอบของ สตช.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวความสัมพันธ์ของพล.อ.ประวิตร กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่างเหิน หลังเกิดกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้น ว่า ตนยังไม่เจอกับพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ซึ่งเรื่องของตนกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไร ขอให้เลิกพูดถึง อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เป็นยศร้อยเอก ร้อยตรี อยู่กันมาตลอด จนเกษียณอายุ
เมื่อถามว่า ก่อนที่นายกฯ จะตัดสินใจอะไร จะต้องปรึกษาตนก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงการออกคำสั่งเตือนพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คุยก่อน ไม่เป็นไร สื่อถามอะไร ไม่เห็นน่าถามเลย เป็นเรื่องของบุคคล ขอให้ถามเรื่องใหญ่ๆ
วานนี้ (28 ม.ค.) พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ ปฏิบัติราชการราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ลงนามในหนังสือหน่วยราชการในพระองค์ 904 ที่ พว. 005.1/493 ลงวันที่ 25 ม.ค. 63 ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ ใจความว่า ด้วยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ 2 นาย ดังนี้
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.63 เป็นต้นไป
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งหนังสือลาล่วงหน้ามาแจ้งก่อนจะมีคำสั่งสำนักนายกฯ ฉบับล่าสุด เพื่อแจ้งขอลากิจส่วนตัว ตามกำหนดราชการที่สามารถกระทำได้โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่งใบลา และแจ้งว่า จะเดินทางไปยังประเทศอินเดียถึง ระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-9 ก.พ. 2563 โดย หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 23 ม.ค.ซึ่งเป็นการลาถูกต้องตามระเบียบราชการ
“เรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความผิดต่างๆ ขึ้นอยู่กับต้นสังกัด คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่ถ้าเป็นกรณีที่เมื่อมีการออกคำสั่งเตือนแล้วยังมีความผิดเกิดขึ้นอีก ทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่ที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพิ่มเติมได้” นายธีรภัทร กล่าว
ในส่วนของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้นมารายงานตัวกับตนแล้ว ช่วงเย็นวันที่ 24 ม.ค. หลังมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการส่งตัวมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนการมอบหมายให้ปฏิบัติงานนั้น อยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหารระดับสูง เนื่องจาก พล.ต.อ.วิระชัย ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาชั่วคราว เพื่อรอผลสอบของ สตช.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กระแสข่าวความสัมพันธ์ของพล.อ.ประวิตร กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่างเหิน หลังเกิดกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้น ว่า ตนยังไม่เจอกับพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ซึ่งเรื่องของตนกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไร ขอให้เลิกพูดถึง อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เป็นยศร้อยเอก ร้อยตรี อยู่กันมาตลอด จนเกษียณอายุ
เมื่อถามว่า ก่อนที่นายกฯ จะตัดสินใจอะไร จะต้องปรึกษาตนก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงการออกคำสั่งเตือนพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คุยก่อน ไม่เป็นไร สื่อถามอะไร ไม่เห็นน่าถามเลย เป็นเรื่องของบุคคล ขอให้ถามเรื่องใหญ่ๆ
