วานนี้ (27ม.ค.) การประชุม กกต. เพื่อพิจารณากำหนดวันเลือกตั้ง และวันสมัครรับเลือกตั้ง หลังมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.กำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 2 แทนตำแหน่งที่ว่าง แทน พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตส.ส.เขต 2 กำแพงเพชร ที่ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. เหตุต้องคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก ในคดีล้มการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่พัทยา เมื่อปี 2552
โดยให้ วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. เวลา 08.00-17.00 น. เป็นวันเลือกตั้ง และให้เปิดรับสมัครใน วันพุธที่ 29 ม.ค.-วันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. เวลา 08:30 - 16:30 น. ที่ ที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นผู้กำหนด
โดยพรรคการเมืองที่ประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องมีสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้น การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กฎหมายกำหนด และการสรรหาให้ดำเนินการตามข้อบังคับของพรรคการเมืองนั้น และให้หัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองผู้สมัคร ที่ได้รับการสรรหาตามแบบที่สำนักงาน กกต.กำหนด
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ให้คำนวณจากที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจนถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคนต้องใช้จ่าย ในการเลือกตั้งไม่เกิน 1 ล้าน 5 แสนบาท
โดยให้ วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. เวลา 08.00-17.00 น. เป็นวันเลือกตั้ง และให้เปิดรับสมัครใน วันพุธที่ 29 ม.ค.-วันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. เวลา 08:30 - 16:30 น. ที่ ที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นผู้กำหนด
โดยพรรคการเมืองที่ประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องมีสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้น การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กฎหมายกำหนด และการสรรหาให้ดำเนินการตามข้อบังคับของพรรคการเมืองนั้น และให้หัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองผู้สมัคร ที่ได้รับการสรรหาตามแบบที่สำนักงาน กกต.กำหนด
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ให้คำนวณจากที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจนถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคนต้องใช้จ่าย ในการเลือกตั้งไม่เกิน 1 ล้าน 5 แสนบาท