“ศาลปกครองกลาง” ไต่สวนเบรกโปรเจกต์ “ถนนเลียบเจ้าพระยา” ด้าน “เครือข่ายผังเมืองเพื่อสังคม” ชี้ขาดการมีส่วนร่วมประชาชนอย่างถูกต้อง ทำลายวิถีชีวิตชุมชน วอนศาลฯลงพื้นที่เผชิญสืบก่อนมีคำวินิจฉัย
วานนี้ ( 23 ม.ค.) ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม นัดไต่สวนคดีที่เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม และมูลนิธิศิลปะวัฒนธรรมเพื่อประชาชน พร้อมประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 12 ราย ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร กรณีขอให้ศาลฯ สั่งเพิกถอนโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และระหว่างการพิจารณาคดี ขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวโดยระงับการดำเนินการโครงการดังกล่าวไว้จนกว่าศาลฯจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ด้าน นางภารณี สวัสดิรักษ์ ประธานเครือข่ายฯ กล่าวว่าในการไต่สวนได้นำพยานเข้าชี้แจง 5 ปาก เพื่อชี้ให้ศาลฯ เห็นว่าทางเครือข่ายเห็นด้วยกับการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างถนนเลียบแม่น้ำฯ เพราะต้องใช้งบประมาณมาก สิ้นเปลืองเกินจำเป็น ที่สำคัญเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมชุมชนริมแม่น้ำ ซึ่งทางเครือข่ายฯ ได้ให้ข้อมูลกับทางองค์คณะว่า แม้ทางผู้เกี่ยวข้องจะยืนยันมีการรับฟังความเห็นของประชาชนแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นการฟังอย่างครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งผลกระทบของโครงการ ก็ไม่มีความชัดเจน ที่บอกว่ามีข้อมูลผลศึกษาทางชลศาสตร์ ก็ไม่พบว่ามีการเปิดเผยต่อสาธารณะ และการไม่ดำเนินการ ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริการสาธารณะ เพราะการจัด ระเบียบแม่น้ำเจ้าพระยา มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว ส่วนผลในเชิงการท่องเที่ยว ก็ไม่ได้มีผลต่อการท่องเที่ยวของชุมชน ในทางตรงกันข้ามจะยิ่งเป็นการทำลายวิถีชีวิตชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นโครงการจึงยังไม่เป็นโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนใดๆ ที่รัฐบาลหรือ กทม. จะต้องเร่งดำเนินการก่อสร้าง โดยไม่รับฟังเสียงประชาชนอย่างครบถ้วน
“ทางเครือข่ายฯ จึงขอให้ศาลฯสั่งระงับการดำเนินการโครงการดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลฯจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และขอให้ศาลฯ มีคำสั่งเผชิญสืบลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ ที่จะทำการก่อสร้าง และสภาพพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการเพื่อประกอบการไต่สวนในครั้งนี้ด้วย” นางภารณี ระบุ
วานนี้ ( 23 ม.ค.) ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม นัดไต่สวนคดีที่เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม และมูลนิธิศิลปะวัฒนธรรมเพื่อประชาชน พร้อมประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 12 ราย ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร กรณีขอให้ศาลฯ สั่งเพิกถอนโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และระหว่างการพิจารณาคดี ขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวโดยระงับการดำเนินการโครงการดังกล่าวไว้จนกว่าศาลฯจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ด้าน นางภารณี สวัสดิรักษ์ ประธานเครือข่ายฯ กล่าวว่าในการไต่สวนได้นำพยานเข้าชี้แจง 5 ปาก เพื่อชี้ให้ศาลฯ เห็นว่าทางเครือข่ายเห็นด้วยกับการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างถนนเลียบแม่น้ำฯ เพราะต้องใช้งบประมาณมาก สิ้นเปลืองเกินจำเป็น ที่สำคัญเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมชุมชนริมแม่น้ำ ซึ่งทางเครือข่ายฯ ได้ให้ข้อมูลกับทางองค์คณะว่า แม้ทางผู้เกี่ยวข้องจะยืนยันมีการรับฟังความเห็นของประชาชนแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นการฟังอย่างครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งผลกระทบของโครงการ ก็ไม่มีความชัดเจน ที่บอกว่ามีข้อมูลผลศึกษาทางชลศาสตร์ ก็ไม่พบว่ามีการเปิดเผยต่อสาธารณะ และการไม่ดำเนินการ ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริการสาธารณะ เพราะการจัด ระเบียบแม่น้ำเจ้าพระยา มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว ส่วนผลในเชิงการท่องเที่ยว ก็ไม่ได้มีผลต่อการท่องเที่ยวของชุมชน ในทางตรงกันข้ามจะยิ่งเป็นการทำลายวิถีชีวิตชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นโครงการจึงยังไม่เป็นโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนใดๆ ที่รัฐบาลหรือ กทม. จะต้องเร่งดำเนินการก่อสร้าง โดยไม่รับฟังเสียงประชาชนอย่างครบถ้วน
“ทางเครือข่ายฯ จึงขอให้ศาลฯสั่งระงับการดำเนินการโครงการดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลฯจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และขอให้ศาลฯ มีคำสั่งเผชิญสืบลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ ที่จะทำการก่อสร้าง และสภาพพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการเพื่อประกอบการไต่สวนในครั้งนี้ด้วย” นางภารณี ระบุ
