วานนี้ (15 ม.ค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึง ปัญหาความไม่ชัดเจนในการขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค ว่า เรื่องนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบ กล่าวคือที่ประชุมวิสามัญ เสนอให้ขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค แต่ตามรธน.จะต้องใช้มติที่ประชุมส.ส. และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพรรคได้จัดประชุมพรรคทันที ในวันรุ่งขึ้น และมีมติขับออก อย่างไรก็ตาม มติที่เกิดขึ้นจะต้องตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม และจัดทำรายงานการประชุมให้กกต. ต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้รับรายงานการประชุม เรื่องการขับ 4 ส.ส. เนื่องจากมีปัญหาการประชุมส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในวันดังกล่าว มีองค์ประชุมไม่ครบ ขาดตัวแทนภาค มาร่วมประชุม นายปิยบุตร กล่าวว่า กำลังตรวจสอบ แต่ขั้นตอนในวันดังกล่าว ค่อนข้างรีบเร่ง จึงต้องไปตรวจสอบรายละเอียด และลายเซ็นผู้เข้าร่วมประชุมว่า ครบองค์ประชุมหรือไม่ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นมติไม่ชอบ ส.ส.เหล่านั้นจะไม่ถูกขับออกจากพรรคจริงๆ
เมื่อถามว่า มติที่ประชุมไม่สมบูรณ์ ใช่หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เรากำลังตรวจสอบทางเอกสาร ว่าผู้เข้าร่วมประชุมครบหรือไม่ และทำตามข้อบังคับใหม่ หรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับรธน. ส่วนหากพรรคยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการประชุมพรรคในวันดังกล่าว มีความถูกต้องหรือไม่ อาจจะส่งผลให้ 4 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ต้องสิ้นสภาพส.ส.ในวันที่ 16 ม.ค.ที่จะต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 30 วันนั้น เป็นเรื่องของกกต. จะระบุว่า ใครจะอยู่ในสังกัดพรรคใด แต่ถ้ามีชื่อซ้ำซ้อนกันทั้งสองพรรค ถือว่าหลุดจากส.ส.ทั้งสองพรรค เป็นแนวที่กกต.ดำเนินการมา
"ตอนนี้ผมกำลังตามเรื่องอยู่ทุกวัน พรรคเรามีหลายเรื่องมาก ถ้าลดจำนวนคดีให้เราน้อยๆ หน่อย จะได้มีเวลาไปทำเรื่องพวกนี้ ขณะนี้เราต้องแก้คดีทุกวัน เต็มไปหมด ทั้ง 4 คน คงไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะประกาศตัวชัดเจนแล้ว ถ้าไปปรากฏชื่อซ้อนกัน 2 พรรค ก็เป็นหน้าที่ของ กกต." นายปิยบุตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคไม่ยืนยันใช่หรือไม่ว่า ทั้ง 4 คน ยังไม่พ้นจากสมาชิกพรรค ตามกฎหมาย นายปิยบุตร กล่าวว่า ต้องไปเช็กว่าวันนั้น มีการเซ็นชื่อเข้าประชุมครบองค์ประชุม หรือไม่ พอมีมติเกิดขึ้นไม่ใช่ว่าจะมีความสมบูรณ์ทันที ต้องรอการส่งเอกสาร หนังสือรับรอง ให้กกต. เพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่า ตั้งใจหรือไม่ที่ต้องการให้ 4 ส.ส. มีชื่อซ้ำซ้อนกัน 2 พรรค นายปิยบุตร กล่าวว่า จะทำไปทำไม ภารกิจของเราคือ การจัดทำเอกสารให้ครบถ้วน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคอนาคตใหม่ แต่เป็นเรื่องของทั้ง 4 คน ที่ต้องรับผิดชอบเอง ต่อสิ่งที่กระทำไป แต่กลายเป็นว่าพรรคอนาคตใหม่ ต้องไปตามรับผิดชอบให้ ทั้ง 4 คน คงต้องดูแลตัวเองด้วย ขอให้ใจเย็นๆ ดูแล้วออกอาการไปนิด
ด้านน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึง กรณีมติขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากองค์ประชุมใหญ่ไม่ครบว่า เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการประชุมใหญ่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้า หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ไม่สามารถประชุมได้ นี่คือวิถีปฏิบัติ ไม่ทราบว่า เจตนาเพื่อขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งให้สิ้นสมาชิกภาพหรือไม่ แต่ยืนยันว่า มติสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนเองขณะนี้ ไม่สามารถเข้าสู่ระบบของในเว็บไซต์ พรรคอนาคตใหม่ได้แล้ว ในเว็บไซต์ ก็ระบุข้อมูลชัดว่า ถูกขับออกจากพรรค แม้จะไม่มีเอกสารที่พรรคออกมา และนำข้อมูลนี้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทย ซึ่ง กกต.ก็รับรองการเป็นสมาชิกพรรคท้องถิ่นไทย และได้แจ้งต่อประธานสภาฯแล้ว จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา
"หากเรื่องนี้จะมีปัญหา ผู้รับผิดชอบก็ควรจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่คิดว่ามติพรรค ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้ามีปัญหา ก็คงดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ขอแนะนำน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ให้เดินหน้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพื่อรักษาสิทธิ์วันสุดท้าย" น.ส.กวินนาถ กล่าว
** "วิษณุ"ชี้ต้องแจ้งมติต่อกกต.จึงจะมีผล
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบความชัดเจน กรณีถูกพรรคอนาคตใหม่ มีมติให้ขับออกจากพรรค แต่ไม่ได้มีการทำหนังสือพ้นสมาชิกภาพเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ไม่สามารถนำไปเป็นหลักฐาน เพื่อยื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นได้ว่า ทราบว่า น.ส.ศรีนวล ยื่นกกต.แล้ว และกกต.กำลังจะดำเนินการ ก่อนหน้านี้ ตนถึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า น.ส.ศรีนวล รู้ได้อย่างไรว่าปลดแล้ว จะอ้างว่ารู้จากสื่อก็คงจะชอบกล
เมื่อถามว่า จะทันกรอบกำหนดเวลาตามกฎหมาย หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติควรจะต้องทัน เพราะมีวิธีนับอยู่ว่า แจ้งเมื่อไร และนับอย่างไร ซึ่ง กกต.กำลังดำเนินการเรื่องนี้
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อให้สาธารณชนทราบแล้ว ไม่ถือว่าเป็นผลในการยืนยันได้ใช่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็คงไม่ดี หากพรรคเขาปฏิเสธ ในเมื่อมตินั้นมี แต่เขายังไม่ได้แจ้งต่อ กกต. ดังนั้น กกต. จึงหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นสอบถามว่า พรรคจะต้องแจ้งให้กกต.ทราบ ว่าได้ดำเนินการขับ ส.ส.คนนี้แล้ว เท่านั้นก็ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า แจ้งหรือไม่แจ้ง แต่ก็มีปัญหาว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่า มีมติ แค่ออกข่าว สมัยนี้ก็พลิกได้แล้ว
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่จริงแล้วความเป็นส.ส. ขึ้นอยู่กับการตัดสินของกกต. อย่างไรก็ตาม ถ้าเรื่องมาถึงสภาฯ ก็จะดูแลเรื่องนี้ให้
"เข้าใจว่า1 ถึง 2วันนี้ ทางสภาฯ จะรายงานเรื่องสถานภาพของ ส.ส. ทั้ง 4 คน" นายชวน กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับส.ส. ที่ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
เมื่อถามว่า มติที่ประชุมไม่สมบูรณ์ ใช่หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า เรากำลังตรวจสอบทางเอกสาร ว่าผู้เข้าร่วมประชุมครบหรือไม่ และทำตามข้อบังคับใหม่ หรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับรธน. ส่วนหากพรรคยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการประชุมพรรคในวันดังกล่าว มีความถูกต้องหรือไม่ อาจจะส่งผลให้ 4 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ต้องสิ้นสภาพส.ส.ในวันที่ 16 ม.ค.ที่จะต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 30 วันนั้น เป็นเรื่องของกกต. จะระบุว่า ใครจะอยู่ในสังกัดพรรคใด แต่ถ้ามีชื่อซ้ำซ้อนกันทั้งสองพรรค ถือว่าหลุดจากส.ส.ทั้งสองพรรค เป็นแนวที่กกต.ดำเนินการมา
"ตอนนี้ผมกำลังตามเรื่องอยู่ทุกวัน พรรคเรามีหลายเรื่องมาก ถ้าลดจำนวนคดีให้เราน้อยๆ หน่อย จะได้มีเวลาไปทำเรื่องพวกนี้ ขณะนี้เราต้องแก้คดีทุกวัน เต็มไปหมด ทั้ง 4 คน คงไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะประกาศตัวชัดเจนแล้ว ถ้าไปปรากฏชื่อซ้อนกัน 2 พรรค ก็เป็นหน้าที่ของ กกต." นายปิยบุตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคไม่ยืนยันใช่หรือไม่ว่า ทั้ง 4 คน ยังไม่พ้นจากสมาชิกพรรค ตามกฎหมาย นายปิยบุตร กล่าวว่า ต้องไปเช็กว่าวันนั้น มีการเซ็นชื่อเข้าประชุมครบองค์ประชุม หรือไม่ พอมีมติเกิดขึ้นไม่ใช่ว่าจะมีความสมบูรณ์ทันที ต้องรอการส่งเอกสาร หนังสือรับรอง ให้กกต. เพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่า ตั้งใจหรือไม่ที่ต้องการให้ 4 ส.ส. มีชื่อซ้ำซ้อนกัน 2 พรรค นายปิยบุตร กล่าวว่า จะทำไปทำไม ภารกิจของเราคือ การจัดทำเอกสารให้ครบถ้วน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคอนาคตใหม่ แต่เป็นเรื่องของทั้ง 4 คน ที่ต้องรับผิดชอบเอง ต่อสิ่งที่กระทำไป แต่กลายเป็นว่าพรรคอนาคตใหม่ ต้องไปตามรับผิดชอบให้ ทั้ง 4 คน คงต้องดูแลตัวเองด้วย ขอให้ใจเย็นๆ ดูแล้วออกอาการไปนิด
ด้านน.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึง กรณีมติขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากองค์ประชุมใหญ่ไม่ครบว่า เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการประชุมใหญ่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้า หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ไม่สามารถประชุมได้ นี่คือวิถีปฏิบัติ ไม่ทราบว่า เจตนาเพื่อขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งให้สิ้นสมาชิกภาพหรือไม่ แต่ยืนยันว่า มติสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนเองขณะนี้ ไม่สามารถเข้าสู่ระบบของในเว็บไซต์ พรรคอนาคตใหม่ได้แล้ว ในเว็บไซต์ ก็ระบุข้อมูลชัดว่า ถูกขับออกจากพรรค แม้จะไม่มีเอกสารที่พรรคออกมา และนำข้อมูลนี้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทย ซึ่ง กกต.ก็รับรองการเป็นสมาชิกพรรคท้องถิ่นไทย และได้แจ้งต่อประธานสภาฯแล้ว จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา
"หากเรื่องนี้จะมีปัญหา ผู้รับผิดชอบก็ควรจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่คิดว่ามติพรรค ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้ามีปัญหา ก็คงดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ขอแนะนำน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ให้เดินหน้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพื่อรักษาสิทธิ์วันสุดท้าย" น.ส.กวินนาถ กล่าว
** "วิษณุ"ชี้ต้องแจ้งมติต่อกกต.จึงจะมีผล
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ ไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบความชัดเจน กรณีถูกพรรคอนาคตใหม่ มีมติให้ขับออกจากพรรค แต่ไม่ได้มีการทำหนังสือพ้นสมาชิกภาพเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ไม่สามารถนำไปเป็นหลักฐาน เพื่อยื่นสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นได้ว่า ทราบว่า น.ส.ศรีนวล ยื่นกกต.แล้ว และกกต.กำลังจะดำเนินการ ก่อนหน้านี้ ตนถึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า น.ส.ศรีนวล รู้ได้อย่างไรว่าปลดแล้ว จะอ้างว่ารู้จากสื่อก็คงจะชอบกล
เมื่อถามว่า จะทันกรอบกำหนดเวลาตามกฎหมาย หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติควรจะต้องทัน เพราะมีวิธีนับอยู่ว่า แจ้งเมื่อไร และนับอย่างไร ซึ่ง กกต.กำลังดำเนินการเรื่องนี้
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อให้สาธารณชนทราบแล้ว ไม่ถือว่าเป็นผลในการยืนยันได้ใช่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็คงไม่ดี หากพรรคเขาปฏิเสธ ในเมื่อมตินั้นมี แต่เขายังไม่ได้แจ้งต่อ กกต. ดังนั้น กกต. จึงหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นสอบถามว่า พรรคจะต้องแจ้งให้กกต.ทราบ ว่าได้ดำเนินการขับ ส.ส.คนนี้แล้ว เท่านั้นก็ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า แจ้งหรือไม่แจ้ง แต่ก็มีปัญหาว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่า มีมติ แค่ออกข่าว สมัยนี้ก็พลิกได้แล้ว
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่จริงแล้วความเป็นส.ส. ขึ้นอยู่กับการตัดสินของกกต. อย่างไรก็ตาม ถ้าเรื่องมาถึงสภาฯ ก็จะดูแลเรื่องนี้ให้
"เข้าใจว่า1 ถึง 2วันนี้ ทางสภาฯ จะรายงานเรื่องสถานภาพของ ส.ส. ทั้ง 4 คน" นายชวน กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับส.ส. ที่ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน