ช่วงสายวานนี้ (12 ม.ค.) ร.ต.อ.สุนทร ประดิษฐสันติกุล ร้อยเวร สภ.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถสิบล้อขนส่งก๊าซ LPG มาเต็มคัน เสียหลักชนกับรถที่สัญจรมาบนถนนลานสัก-หนองฉาง รวม 4 คันรวด ส่งผลให้มีผูเบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิตคาที่ ติดภายในรถ 1 ราย
ในที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo Cab สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บฉ 2993 อุทัยธานี จอดอยู่ริมถนน สภาพด้านหน้าไปจนถึงบริเวณหลังคารถฝั่งคนขับยุบไปทั้งแถบ นายธานี อ่อนบาง อายุ 46 ปี หมู่ที่ 9 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี คนขับพร้อมลูกชายบาดเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้ยังพบรถกระบะ แบบแคป ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บฉ 4690 อุทัยธานี ถูกอัดติดอยู่กับต้นไม้ข้างทางพังยับเยิน ภายในรถมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นิภารัตน์ พันธ์โหมด อายุ 35 ปี เสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกสาว ทราบชื่อคือ ดญ.ธนัชชา มูลเมือง อายุ 14 ปี บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
ใกล้กันพบรถบรรทุกก๊าซ หมายเลขทะเบียน73-9833 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย และถังน้ำมันรถรั่ว คนขับคือ นายทวี ขันสาลี อายุ 42 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ และยังพบรถกระบะแคป สีแดง หมายเลขทะเบียน บท 6093 อุทัยธานี ชนอัดติดอยู่กับรถบรรทุกก๊าซ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถัดมาพบรถเก๋งฮอนด้า ยี่ห้อ city สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กง 9245 พิจิตร ถูกชนเสียหายจอดอยู่ริมถนนอีก 1 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
นายธานี คนขับรถกระบะที่ถูกชนคันแรก เล่าว่ากำลังขับรถพาลูกชายไปเรียนพิเศษในตัวอำเภอหนองฉาง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ เห็นรถบรรทุกก๊าซคันดังกล่าว ซึ่งขับมาจากหนองฉาง ลักษณะส่ายไปมาห่างจากรถของตนประมาณ 400 เมตร ตนเห็นท่าไม่ดีจึงชะลอรถลงแล้วค่อยๆหลบเข้าข้างทาง หวังจะหลบไม่ให้รถบรรทุกก๊าซเฉี่ยวชน แต่สุดท้ายก็ไม่พ้น ตัวถังที่บรรทุกก๊าซนั้นได้สะบัดมาชนกับรถของตน ทั้งยังสะบัดไปชนกับรถกระบะอีกหนึ่งคันที่ขับตามหลังตนมา และชนรถคันที่ขับต่อๆกันมาอีก รวม 4 คัน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้านนายทวี คนขับรถบรรทุกก๊าซ เล่าว่า ขับรถบรรทุกก๊าซมาจากกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 01.00 น. ซึ่งตลอดทางก็พักผ่อนมาเต็มที่ แต่ก่อนถึงที่เกิดเหตุ เป็นช่วงทางโค้งจู่ๆ รถก็เกิดอาการล้อดึงข้างหนึ่ง ทำให้รถเกิดเสียการทรง ตัวส่ายไปมา ตนพยายามดึงรถให้ทรงตัวได้ แต่ก็เอาไม่อยู่ จึงทำให้ตัวถังบรรทุกก๊าซ สะบัดไปชนกับรถกระบะคันแรก ก่อนจะสะบัดไปชนรถที่ขับสวนคันต่อๆ มา ดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำคนขับรถทุกราย พร้อมทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ในที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อ Toyota รุ่น Vigo Cab สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บฉ 2993 อุทัยธานี จอดอยู่ริมถนน สภาพด้านหน้าไปจนถึงบริเวณหลังคารถฝั่งคนขับยุบไปทั้งแถบ นายธานี อ่อนบาง อายุ 46 ปี หมู่ที่ 9 ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี คนขับพร้อมลูกชายบาดเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้ยังพบรถกระบะ แบบแคป ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บฉ 4690 อุทัยธานี ถูกอัดติดอยู่กับต้นไม้ข้างทางพังยับเยิน ภายในรถมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นิภารัตน์ พันธ์โหมด อายุ 35 ปี เสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกสาว ทราบชื่อคือ ดญ.ธนัชชา มูลเมือง อายุ 14 ปี บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
ใกล้กันพบรถบรรทุกก๊าซ หมายเลขทะเบียน73-9833 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย และถังน้ำมันรถรั่ว คนขับคือ นายทวี ขันสาลี อายุ 42 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ และยังพบรถกระบะแคป สีแดง หมายเลขทะเบียน บท 6093 อุทัยธานี ชนอัดติดอยู่กับรถบรรทุกก๊าซ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถัดมาพบรถเก๋งฮอนด้า ยี่ห้อ city สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กง 9245 พิจิตร ถูกชนเสียหายจอดอยู่ริมถนนอีก 1 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
นายธานี คนขับรถกระบะที่ถูกชนคันแรก เล่าว่ากำลังขับรถพาลูกชายไปเรียนพิเศษในตัวอำเภอหนองฉาง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ เห็นรถบรรทุกก๊าซคันดังกล่าว ซึ่งขับมาจากหนองฉาง ลักษณะส่ายไปมาห่างจากรถของตนประมาณ 400 เมตร ตนเห็นท่าไม่ดีจึงชะลอรถลงแล้วค่อยๆหลบเข้าข้างทาง หวังจะหลบไม่ให้รถบรรทุกก๊าซเฉี่ยวชน แต่สุดท้ายก็ไม่พ้น ตัวถังที่บรรทุกก๊าซนั้นได้สะบัดมาชนกับรถของตน ทั้งยังสะบัดไปชนกับรถกระบะอีกหนึ่งคันที่ขับตามหลังตนมา และชนรถคันที่ขับต่อๆกันมาอีก รวม 4 คัน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้านนายทวี คนขับรถบรรทุกก๊าซ เล่าว่า ขับรถบรรทุกก๊าซมาจากกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 01.00 น. ซึ่งตลอดทางก็พักผ่อนมาเต็มที่ แต่ก่อนถึงที่เกิดเหตุ เป็นช่วงทางโค้งจู่ๆ รถก็เกิดอาการล้อดึงข้างหนึ่ง ทำให้รถเกิดเสียการทรง ตัวส่ายไปมา ตนพยายามดึงรถให้ทรงตัวได้ แต่ก็เอาไม่อยู่ จึงทำให้ตัวถังบรรทุกก๊าซ สะบัดไปชนกับรถกระบะคันแรก ก่อนจะสะบัดไปชนรถที่ขับสวนคันต่อๆ มา ดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำคนขับรถทุกราย พร้อมทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป