ในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ 9 ประดิษฐานบนเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 อันเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย ในวันที่ 12 ธ.ค.
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ 9 ประดิษฐานเหนือบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช
พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2506 โอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ โดยทรงบรรจุดวงพระชะตาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในองค์พระชัย และทรงประกอบพิธีสมโภช ในวันที่ 31 ต.ค. 06 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นับเป็นการจัดสร้างพระชัยประจำรัชกาล ตรงตามตำรับและพิธีที่มีมาแต่โบราณทุกประการ
พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 9 เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ประทับนั่ง ภายใต้ฉัตร 5 ชั้น ขนาดหน้าตักกว้าง 17.50 ซ.ม. สูงเฉพาะองค์พระ 22.50 ซ.ม. สูงจากฐานถึงยอดฉัตร 58.10 ซ.ม. พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชราสนะ คือประทับนั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ซ้ายวางเหนือพระเพลา ทรงตาลปัตร และพระหัตถ์ขวา ชี้ลงพระธรณีในลักษณาการมารวิชัย นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน ตรงตามคัมภีร์มหาปุริษลักขณะ พระพักตร์เป็นรูปไข่ผ่าซีก ละม้ายศิลปะสุโขทัยที่เรียกว่า“หน้านาง” พระนลาฏกว้าง พระขนงโก่ง พระเนตรมองลงยังเบื้องล่าง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียว และพระกรรณยาวเกือบจรดพระอังสะ
พระเศียรประกอบด้วยเม็ดพระศกเป็นตุ่มขนาดเล็ก พระเกตุมาลา และรัศมีรูปเปลวเพลิง องค์พระพุทธรูปครองอุตราสงค์เรียบ ห่มเฉียง มีชายอุตราสงค์พาดบนพระอังสะซ้าย ห้อยยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายเป็นลายเขี้ยวตะขาบ อันเป็นพุทธเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัย ที่สื่อถึงความสุขความเจริญ อันตรวาสกที่ทรงเรียบไม่มีริ้ว โดยปรากฏขอบที่ข้อพระบาททั้งสองข้าง ตาลปัตรที่ทรงถือ มีลักษณะเรียวแหลมคล้ายรูปใบโพธิ์หล่อด้วยเงินจำหลักลาย พระพุทธรูปประทับนั่งเหนือฐานปัทม์ ประกอบด้วยกลีบบัวหงายซ้อนกันสามชั้น ชั้นล่างเป็นฐานขาสิงห์อันสื่อถึงฐานของเขาพระสุเมรุ ตามคติความเชื่อแบบไตรภูมิ และฐานเขียงจำหลักคำจารึกภาษาบาลี เบื้องหน้าฐานมีผ้าทิพย์ขนาดใหญ่จำหลักลายลงยาสี ห้อยปกคลุมฐานปัทม์และฐานขาสิงห์ เหนือองค์พระพุทธรูปกางกั้นด้วยฉัตรทองคำฉลุลาย 5 ชั้น อันนับเป็นพุทธลักษณะที่งดงามเป็นที่ยิ่ง
พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 9 จะนำออกประดิษฐานในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลและวันเฉลิมพระชนมพรรษา นับเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญ ที่ช่วยอภิบาลพิทักษ์รักษา ตลอดจนประสิทธิประสาทพรให้กับองค์พระมหากษัตริย์ และพสกนิกรของพระองค์ตลอดมา
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 อันเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย ในวันที่ 12 ธ.ค.
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ 9 ประดิษฐานเหนือบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช
พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2506 โอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ โดยทรงบรรจุดวงพระชะตาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในองค์พระชัย และทรงประกอบพิธีสมโภช ในวันที่ 31 ต.ค. 06 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นับเป็นการจัดสร้างพระชัยประจำรัชกาล ตรงตามตำรับและพิธีที่มีมาแต่โบราณทุกประการ
พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 9 เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ประทับนั่ง ภายใต้ฉัตร 5 ชั้น ขนาดหน้าตักกว้าง 17.50 ซ.ม. สูงเฉพาะองค์พระ 22.50 ซ.ม. สูงจากฐานถึงยอดฉัตร 58.10 ซ.ม. พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชราสนะ คือประทับนั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ซ้ายวางเหนือพระเพลา ทรงตาลปัตร และพระหัตถ์ขวา ชี้ลงพระธรณีในลักษณาการมารวิชัย นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน ตรงตามคัมภีร์มหาปุริษลักขณะ พระพักตร์เป็นรูปไข่ผ่าซีก ละม้ายศิลปะสุโขทัยที่เรียกว่า“หน้านาง” พระนลาฏกว้าง พระขนงโก่ง พระเนตรมองลงยังเบื้องล่าง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียว และพระกรรณยาวเกือบจรดพระอังสะ
พระเศียรประกอบด้วยเม็ดพระศกเป็นตุ่มขนาดเล็ก พระเกตุมาลา และรัศมีรูปเปลวเพลิง องค์พระพุทธรูปครองอุตราสงค์เรียบ ห่มเฉียง มีชายอุตราสงค์พาดบนพระอังสะซ้าย ห้อยยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายเป็นลายเขี้ยวตะขาบ อันเป็นพุทธเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัย ที่สื่อถึงความสุขความเจริญ อันตรวาสกที่ทรงเรียบไม่มีริ้ว โดยปรากฏขอบที่ข้อพระบาททั้งสองข้าง ตาลปัตรที่ทรงถือ มีลักษณะเรียวแหลมคล้ายรูปใบโพธิ์หล่อด้วยเงินจำหลักลาย พระพุทธรูปประทับนั่งเหนือฐานปัทม์ ประกอบด้วยกลีบบัวหงายซ้อนกันสามชั้น ชั้นล่างเป็นฐานขาสิงห์อันสื่อถึงฐานของเขาพระสุเมรุ ตามคติความเชื่อแบบไตรภูมิ และฐานเขียงจำหลักคำจารึกภาษาบาลี เบื้องหน้าฐานมีผ้าทิพย์ขนาดใหญ่จำหลักลายลงยาสี ห้อยปกคลุมฐานปัทม์และฐานขาสิงห์ เหนือองค์พระพุทธรูปกางกั้นด้วยฉัตรทองคำฉลุลาย 5 ชั้น อันนับเป็นพุทธลักษณะที่งดงามเป็นที่ยิ่ง
พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 9 จะนำออกประดิษฐานในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลและวันเฉลิมพระชนมพรรษา นับเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญ ที่ช่วยอภิบาลพิทักษ์รักษา ตลอดจนประสิทธิประสาทพรให้กับองค์พระมหากษัตริย์ และพสกนิกรของพระองค์ตลอดมา