วานนี้ (24 พ.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคปชป. ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของความล่าช้าในการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรงต่อ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ เนื่องจากผู้ร้องคือ ตนเองไม่ได้มาให้ข้อเท็จจริง แล้วกลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้นั้น ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อน เพราะตนได้ไปให้การกับ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่มี นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา เป็นประธาน เมื่อ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลานัดหมาย โดยมีนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธาน กมธ. ป.ป.ช. เป็นพยาน และยังเป็นผู้ให้การกล่าวโทษ นายสรศักดิ์ เพิ่มเติมอีกด้วย
นายวัชระ ยืนยันว่า ตนมีพยาน 2 คนเข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานตลอดจนจบคำให้การ ในประเด็นของการคุกคามทางเพศ ครบทุกถ้อยกระบวนความที่ให้กรรมการได้เห็นจนสามารถชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎของก.ร.ได้ทันที และได้ขอให้ทบทวน คณะกรรมการชุดนี้ เพราะจะเกิดความไม่เที่ยงธรรมในการพิจารณา เพราะครบกำหนดเวลา 15 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
วันเดียวกันนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า อาจจะมีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ เพราะตนได้สอบถามฝ่ายตรวจสอบแล้วว่า ทำไมถึงล่าช้า ก็พบว่าปัญหาเกิดจากฝ่ายผู้ร้อง ซึ่งเป็นข้าราชการหญิง ซึ่งอ้างว่าได้รับความเสียหายนั้น ไม่ยอมมาให้ข้อเท็จจริง แต่กลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้ เลยต้องส่งให้กรรมการเจ้าของเรื่องพิจารณา หลังจากนี้หากผู้ร้องไม่มาอีก ก็ต้องเร่งดำเนินการ
"ยืนยันว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยไม่ละเว้นเพราะต้องยึดความจริง ถ้าที่ร้องมาเป็นความจริง ก็ต้องยึดตามกฎหมายไม่อาจไปปกป้องใครได้" นายชวน กล่าว
ด้านนายวัชระ กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากเลขาฯ นายชวน แจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิดที่ให้สัมภาษณ์ไปเช่นนั้น และผู้ที่ไม่มาให้ข้อมูลคือ ข้าราชการหญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ ดังนั้น ตนจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้าราชการหญิงคนดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่า นับแต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อเพื่อไปให้ข้อมูลเลย
นอกจากนี้ ตนยังได้รับข้อมูลว่า หลังจากที่ได้ร้องเรียน และมีการตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว นายสรศักดิ์ ยังคงใช้อำนาเลขา สภาฯ เซ็นโยกย้ายข้าราชการอีก 21 คน ไปหน่วยงานอื่น เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นมีข้าราชการหญิงคนดังกล่าวรวมอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีความประสงค์จะโยกย้ายแต่อย่างใด จึงถือเป็นการกดดันอย่างหนึ่ง
ดังนั้น ในวันนี้ (25 พ.ย.) ตนจะเข้ายื่นหนังสือต่อ นายชวน เพื่อขอให้มีคำสั่งให้นายสรศักดิ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการสอบสวนเสร็จสิ้น
นายวัชระ ยืนยันว่า ตนมีพยาน 2 คนเข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานตลอดจนจบคำให้การ ในประเด็นของการคุกคามทางเพศ ครบทุกถ้อยกระบวนความที่ให้กรรมการได้เห็นจนสามารถชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎของก.ร.ได้ทันที และได้ขอให้ทบทวน คณะกรรมการชุดนี้ เพราะจะเกิดความไม่เที่ยงธรรมในการพิจารณา เพราะครบกำหนดเวลา 15 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
วันเดียวกันนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า อาจจะมีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ เพราะตนได้สอบถามฝ่ายตรวจสอบแล้วว่า ทำไมถึงล่าช้า ก็พบว่าปัญหาเกิดจากฝ่ายผู้ร้อง ซึ่งเป็นข้าราชการหญิง ซึ่งอ้างว่าได้รับความเสียหายนั้น ไม่ยอมมาให้ข้อเท็จจริง แต่กลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้ เลยต้องส่งให้กรรมการเจ้าของเรื่องพิจารณา หลังจากนี้หากผู้ร้องไม่มาอีก ก็ต้องเร่งดำเนินการ
"ยืนยันว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยไม่ละเว้นเพราะต้องยึดความจริง ถ้าที่ร้องมาเป็นความจริง ก็ต้องยึดตามกฎหมายไม่อาจไปปกป้องใครได้" นายชวน กล่าว
ด้านนายวัชระ กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากเลขาฯ นายชวน แจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิดที่ให้สัมภาษณ์ไปเช่นนั้น และผู้ที่ไม่มาให้ข้อมูลคือ ข้าราชการหญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ ดังนั้น ตนจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้าราชการหญิงคนดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่า นับแต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อเพื่อไปให้ข้อมูลเลย
นอกจากนี้ ตนยังได้รับข้อมูลว่า หลังจากที่ได้ร้องเรียน และมีการตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว นายสรศักดิ์ ยังคงใช้อำนาเลขา สภาฯ เซ็นโยกย้ายข้าราชการอีก 21 คน ไปหน่วยงานอื่น เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นมีข้าราชการหญิงคนดังกล่าวรวมอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีความประสงค์จะโยกย้ายแต่อย่างใด จึงถือเป็นการกดดันอย่างหนึ่ง
ดังนั้น ในวันนี้ (25 พ.ย.) ตนจะเข้ายื่นหนังสือต่อ นายชวน เพื่อขอให้มีคำสั่งให้นายสรศักดิ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการสอบสวนเสร็จสิ้น