แผ่นดินไหว เมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ความแรง 6.4 อาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบ เขย่าถึงหลายพื้นที่ในไทย ตึกสูง กทม.สะเทือนด้วย “โรงไฟฟ้าหงสา” แจ้งหยุดเดินเครื่องชั่วคราว แต่คาดระบบไม่เสียหาย “ซีเค พาวเวอร์” เผยโรงไฟฟ้าไซยะบุรี-น้ำงึม 2 ไม่ได้รับผลกระทบ
วานนี้ (21 พ.ย.) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวที่ ประเทศลาว เมื่อเวลา 04.03 น. จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ประเทศลาว ที่ละติจูด 19.42 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.33 องศาตะวันออก ขนาด 5.9 ความลึก 5 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กิโลเมตร และมีอาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบ
โดยเริ่มตั้งแต่ 23.49 น.คืนที่ผ่านมา (20 พ.ย.) ความแรง 2.9, ต่อมาเวลา 04.03 น. วันนี้ (21 พ.ย.) เกิดแผ่นดินไหว ความแรง 5.9, เวลา 04.19 น. ความแรง 4.3, เวลา 04.23 น. ความแรง 3.1, เวลา 04.33 น. ความแรงวัดได้ 3.9, เวลา 04.41 น. ความแรงวัดได้ 3.6, เวลา 04.59 น. ความแรงวัดได้ 3.5, เวลา 05.07 น. ความแรงวัดได้ 2.3, เวลา 05.10 น. ความแรงวัดได้ 3.3, เวลา 05.17 น. ความแรงวัดได้ 3.5, เวลา 05.30 น. ความแรงวัดได้ 3.0, เวลา 05.51 น. ความแรงวัดได้ 3.2, เวลา 06.28 น. ความแรงวัดได้ 2.3 และเมื่อ 06.50 น.ที่ผ่านมาวัดความแรงได้ถึง 6.4
ทั้งนี้ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งคืนที่ผ่านมาทั้งหมดอยู่ใน สปป.ลาว แต่หลายครั้งแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายจังหวัดของภาคเหนือ โดยเฉพาะกรณีเกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดความแรง 6.4 แมกนิจูด ทุกครั้งมีศูนย์กลางห่างจากบ้านน้ำซาง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ระหว่าง 10-20 กม.เท่านั้น รู้สึกได้ทั้งใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน ลำพูน รวมไปถึงอาคารสูงใน กทม. และในพื้นที่ภาคอีสานบางส่วนด้วย
ส่วนในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีรายงานว่า โบสถ์เก่าแก่อายุ 400 กว่าปี มีรอยแตกร้าวขาดใหญ่ที่ผนังโบสถ์ จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และผนังบ้านเรือนประชาชนหลายหลังแตกร้าวเสียหายอีกด้วย
นายคทายุทธ์ ชุพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 เกี่ยวกับสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใน สปป.ลาว ศูนย์กลางห่างจากโรงไฟฟ้าหงสา ไปทางทิศใต้ประมาณ 21 กิโลเมตร ว่าระบบป้องกันความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของอุปกรณ์หลักในโรงไฟฟ้าได้ทำงานตามขั้นตอนปกติ เพื่อหยุดการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า ขณะนี้ บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้หยุดการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว และได้เริ่มเข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงไฟฟ้า ระบบสายส่งเหมืองถ่านหิน เหมืองหินปูน เขื่อนน้ำเลือก และเขื่อนน้ำแก่น
“เบื้องต้นยังไม่พบความเสียหายของโครงสร้างหลัก และสิ่งปลูกสร้างที่จำเป็นในการดำเนินงาน และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ พบเพียงความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของพื้นผิวของสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงในการตรวจสอบเบื้องต้น และจะออกแถลงการณ์รายงานความคืบหน้าของสถานการณ์และความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะ” นายคทายุทธ์ ระบุ
ขณะที่ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ออกมาระบุว่าจากการสำรวจเบื้องต้น โครงสร้างโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศลาว เมื่อเวลา 04.03 น. ของวันที่ 21 พ.ย.62 ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ยังคงเดินเครื่องผลิตและจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวตามสัญญาได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้โครงสร้างและอุปกรณ์ทุกส่วนของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
วานนี้ (21 พ.ย.) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวที่ ประเทศลาว เมื่อเวลา 04.03 น. จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ประเทศลาว ที่ละติจูด 19.42 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.33 องศาตะวันออก ขนาด 5.9 ความลึก 5 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 19 กิโลเมตร และมีอาฟเตอร์ช็อกถี่ยิบ
โดยเริ่มตั้งแต่ 23.49 น.คืนที่ผ่านมา (20 พ.ย.) ความแรง 2.9, ต่อมาเวลา 04.03 น. วันนี้ (21 พ.ย.) เกิดแผ่นดินไหว ความแรง 5.9, เวลา 04.19 น. ความแรง 4.3, เวลา 04.23 น. ความแรง 3.1, เวลา 04.33 น. ความแรงวัดได้ 3.9, เวลา 04.41 น. ความแรงวัดได้ 3.6, เวลา 04.59 น. ความแรงวัดได้ 3.5, เวลา 05.07 น. ความแรงวัดได้ 2.3, เวลา 05.10 น. ความแรงวัดได้ 3.3, เวลา 05.17 น. ความแรงวัดได้ 3.5, เวลา 05.30 น. ความแรงวัดได้ 3.0, เวลา 05.51 น. ความแรงวัดได้ 3.2, เวลา 06.28 น. ความแรงวัดได้ 2.3 และเมื่อ 06.50 น.ที่ผ่านมาวัดความแรงได้ถึง 6.4
ทั้งนี้ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งคืนที่ผ่านมาทั้งหมดอยู่ใน สปป.ลาว แต่หลายครั้งแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายจังหวัดของภาคเหนือ โดยเฉพาะกรณีเกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดความแรง 6.4 แมกนิจูด ทุกครั้งมีศูนย์กลางห่างจากบ้านน้ำซาง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ระหว่าง 10-20 กม.เท่านั้น รู้สึกได้ทั้งใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน ลำพูน รวมไปถึงอาคารสูงใน กทม. และในพื้นที่ภาคอีสานบางส่วนด้วย
ส่วนในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ มีรายงานว่า โบสถ์เก่าแก่อายุ 400 กว่าปี มีรอยแตกร้าวขาดใหญ่ที่ผนังโบสถ์ จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และผนังบ้านเรือนประชาชนหลายหลังแตกร้าวเสียหายอีกด้วย
นายคทายุทธ์ ชุพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 เกี่ยวกับสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใน สปป.ลาว ศูนย์กลางห่างจากโรงไฟฟ้าหงสา ไปทางทิศใต้ประมาณ 21 กิโลเมตร ว่าระบบป้องกันความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของอุปกรณ์หลักในโรงไฟฟ้าได้ทำงานตามขั้นตอนปกติ เพื่อหยุดการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า ขณะนี้ บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้หยุดการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว และได้เริ่มเข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงไฟฟ้า ระบบสายส่งเหมืองถ่านหิน เหมืองหินปูน เขื่อนน้ำเลือก และเขื่อนน้ำแก่น
“เบื้องต้นยังไม่พบความเสียหายของโครงสร้างหลัก และสิ่งปลูกสร้างที่จำเป็นในการดำเนินงาน และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ พบเพียงความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของพื้นผิวของสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงในการตรวจสอบเบื้องต้น และจะออกแถลงการณ์รายงานความคืบหน้าของสถานการณ์และความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะ” นายคทายุทธ์ ระบุ
ขณะที่ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ออกมาระบุว่าจากการสำรวจเบื้องต้น โครงสร้างโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศลาว เมื่อเวลา 04.03 น. ของวันที่ 21 พ.ย.62 ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ยังคงเดินเครื่องผลิตและจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวตามสัญญาได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้โครงสร้างและอุปกรณ์ทุกส่วนของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด