ผู้จัดการรายวัน 360 - ก.ล.ต. เชือด "พิชญ์ โพธารามิก" พร้อมพวกปั่นหุ้น "MONO-JAS" สั่งปรับรวมมูลค่า 160 ล้านบาท หากไม่ดำเนินการเตรียมฟ้องต่อศาลแพ่งให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งในอัตราสูงสุด
วานนี้ (22 ต.ค.) รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายพิชญ์ โพธารามิก และผู้ร่วมกระทำความผิดอื่นอีก 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO และกับผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นอีก 3 ราย สร้างราคาหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 44,236,447 บาท และ 115,875,094 บาท
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติม พบการกระทำความผิดฐานสร้างราคาหุ้น MONO และ JAS โดยทั้ง 2 กรณีมีนายพิชญ์ เป็นตัวการทำหน้าที่แหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการสร้างราคาหุ้นดังกล่าวร่วมกับผู้กระทำความผิดอื่น
โดยกรณีสร้างราคาหุ้น MONO ช่วงระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2558 นายพิชญ์ และบุคคลอื่นอีก 4 ราย ได้แก่ 1. นางเสาวนิตย์ ถนอมสุวรรณ์ 2. นางลลนา ธาราสุข .3 นางสาวพร้อมศิริ สหบุญธรรม และ 4. นายพิรศักดิ์ เพิ่มบุญญรักษ์ ได้ร่วมรู้เห็นตกลงกันใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง และบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่น จำนวน 1 บัญชี ซื้อขายหุ้น MONO ในลักษณะผลักดันราคา พยุงราคาและทำราคาปิด ซึ่งมีแนวโน้มลดต่ำลง ไม่ให้ลดลงไปมาก อันทำให้สภาพการซื้อขายหุ้น MONO ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด มีผลให้ราคาปิดหุ้น MONO ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 0.02 ถึง 0.74 บาท ตลอดช่วงดังกล่าว
ส่วนกรณีสร้างราคาหุ้น JAS ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2559 นายพิชญ์ และบุคคลอื่นอีกจำนวนอย่างน้อย 3 ราย ได้แก่ 1. นายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล 2. นางเสาวนิตย์ และ 3. นายพิรศักดิ์ ได้ร่วมรู้เห็นตกลงกันใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายเกริกไกร นางเสาวนิตย์ นายพิรศักดิ์ รวมทั้งบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่น จำนวน 1 บัญชี ซื้อขายหุ้น JAS ในลักษณะพยุงราคาและทำราคาปิด ซึ่งมีแนวโน้มลดต่ำลง ไม่ให้ลดลงไปมาก อันทำให้สภาพการซื้อขายหุ้น JAS ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด มีผลให้ราคาปิดหุ้น JAS ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 0.02 ถึง 1.57 บาท ตลอดช่วงดังกล่าว
การกระทำดังกล่าวมีความผิด ทางคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับทั้ง 2 กรณีข้างต้น ดังนี้
กรณีหุ้น MONO ให้นายพิชญ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 42,236,447 บาท และให้นางเสาวนิตย์ นางลลนา นางสาวพร้อมศิริ และนายพิรศักดิ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท
ขณะที่ กรณีหุ้น JAS ให้นายพิชญ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 114,375,094 บาท และให้นายเกริกไกร นางเสาวนิตย์ และนายพิรศักดิ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท
สำหรับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 กรณีข้างต้น หากไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด
ก่อนหน้านี้ นายพิชญ์ โพธารามิก และนายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล ถูกสำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินคดีกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้นของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS จึงได้ลงโทษให้ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้เงินเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ รวมเป็นเงินกว่า 59 ล้านบาท.
วานนี้ (22 ต.ค.) รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายพิชญ์ โพธารามิก และผู้ร่วมกระทำความผิดอื่นอีก 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO และกับผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นอีก 3 ราย สร้างราคาหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 44,236,447 บาท และ 115,875,094 บาท
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติม พบการกระทำความผิดฐานสร้างราคาหุ้น MONO และ JAS โดยทั้ง 2 กรณีมีนายพิชญ์ เป็นตัวการทำหน้าที่แหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการสร้างราคาหุ้นดังกล่าวร่วมกับผู้กระทำความผิดอื่น
โดยกรณีสร้างราคาหุ้น MONO ช่วงระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2558 นายพิชญ์ และบุคคลอื่นอีก 4 ราย ได้แก่ 1. นางเสาวนิตย์ ถนอมสุวรรณ์ 2. นางลลนา ธาราสุข .3 นางสาวพร้อมศิริ สหบุญธรรม และ 4. นายพิรศักดิ์ เพิ่มบุญญรักษ์ ได้ร่วมรู้เห็นตกลงกันใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง และบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่น จำนวน 1 บัญชี ซื้อขายหุ้น MONO ในลักษณะผลักดันราคา พยุงราคาและทำราคาปิด ซึ่งมีแนวโน้มลดต่ำลง ไม่ให้ลดลงไปมาก อันทำให้สภาพการซื้อขายหุ้น MONO ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด มีผลให้ราคาปิดหุ้น MONO ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 0.02 ถึง 0.74 บาท ตลอดช่วงดังกล่าว
ส่วนกรณีสร้างราคาหุ้น JAS ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2559 นายพิชญ์ และบุคคลอื่นอีกจำนวนอย่างน้อย 3 ราย ได้แก่ 1. นายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล 2. นางเสาวนิตย์ และ 3. นายพิรศักดิ์ ได้ร่วมรู้เห็นตกลงกันใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายเกริกไกร นางเสาวนิตย์ นายพิรศักดิ์ รวมทั้งบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่น จำนวน 1 บัญชี ซื้อขายหุ้น JAS ในลักษณะพยุงราคาและทำราคาปิด ซึ่งมีแนวโน้มลดต่ำลง ไม่ให้ลดลงไปมาก อันทำให้สภาพการซื้อขายหุ้น JAS ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด มีผลให้ราคาปิดหุ้น JAS ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 0.02 ถึง 1.57 บาท ตลอดช่วงดังกล่าว
การกระทำดังกล่าวมีความผิด ทางคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับทั้ง 2 กรณีข้างต้น ดังนี้
กรณีหุ้น MONO ให้นายพิชญ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 42,236,447 บาท และให้นางเสาวนิตย์ นางลลนา นางสาวพร้อมศิริ และนายพิรศักดิ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท
ขณะที่ กรณีหุ้น JAS ให้นายพิชญ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 114,375,094 บาท และให้นายเกริกไกร นางเสาวนิตย์ และนายพิรศักดิ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000 บาท
สำหรับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 กรณีข้างต้น หากไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด
ก่อนหน้านี้ นายพิชญ์ โพธารามิก และนายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล ถูกสำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินคดีกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้นของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS จึงได้ลงโทษให้ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้เงินเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ รวมเป็นเงินกว่า 59 ล้านบาท.