xs
xsm
sm
md
lg

กระสุนด้านที่ศาลยะลา และมีคนฆ่าตัวตาย 2 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"

ถ้านายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้น ศาลจังหวัดยะลา เลือกวิธีฆ่าตัวตาย โดยใช้ปืนจ่อยิงที่ขมับ หรือกรอกปาก เจตนารมณ์ “คืนคำพิพากษา ให้ผู้พิพากษา” ของเขา จะได้รับการขานรับทั่วแผ่นดิน ศาลสถิตยุติธรรมจะตกที่นั่งลำบาก ชี้แจงอย่างไรก็คงไม่ค่อยมีใครฟัง เพราะทุกคนจะยกประโยชน์ให้คนตาย ที่เสียสละชีวิตตนเอง เพื่อผดุงรักษาไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม

พรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้าโหมกระแส “รื้อ” กระบวนการยุติธรรม อย่างมีพลัง

และเงินบริจาคจากประชาชนจะหลั่งไหลเข้าบัญชีของลูกสาว ที่นายคณากร แสดงความจำนงขอรับบริจาคไว้ล่วงหน้า ชนิดนับกันไม่หวาดไม่ไหว

ความตายของนายคณากร จะส่งผลสะเทือนอย่างยิ่งใหญ่ต่อวงการตุลาการ ไม่แพ้ความตายของสืบ นาคะเสถียร เมื่อ 29 ปีที่แล้ว ที่เป็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อ การอนุรักษ์ป่ามาจนถึงทุกวันนี้

แต่นายคณากร ตัดสินใจผิด ที่เลือกยิงเข้าท้อง ไม่โดนจุดสำคัญ จึงกลายเป็นการฆ่าตัว(ไม่) ตาย ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการจัดฉาก สมคบกับคนภายนอกทำลายความน่าเชื่อถือของวงการตุลาการหรือเปล่า

การฆ่าตัว(ไม่) ตาย ของนายคณากร ทำให้เกมพลิก และมีคนฆ่าตัวตายสองคนคนแรกคือ ตัวนายคณากรเอง พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในห้องพิจารณาคดีชั้น 3 ศาลจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม หลังนายคณากร อ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลย 5 คนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกล้องสมาร์ทโฟนถ่ายทอดสด การเขียนแถลงการณ์ ในรูปแบบของคำพิพากษาภายใต้ตราครุฑ เพื่อลวงให้คนที่ไม่ได้อ่านเนื้อความทั้ง 25 หน้าโดยละเอียดเข้าใจผิดว่า เป็นคำพิพากษา และการส่งเอกสารทั้ง 25 หน้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นรายละเอียดคำพิพากษา ที่ยังไม่ได้อ่านไปให้กับพรรคอนาคตใหม่ ล่วงหน้า 1 เดือน พฤติกรรมเหล่านี้ ฟ้องว่า การยิงตัว(ไม่) ตายหน้าบัลลังก์ในวันนั้น น่าจะมีเป้าหมายเพื่อจุดกระแสเปิดเกมทำลายตุลาการ โดยนายคณากร เป็นผู้เหนี่ยวไกปืนเล็งไปที่ศาลสถิตยุติธรรม

แต่บังเอิญกระสุนด้านเพราะตัวไม่ตาย และข้ออ้างที่ว่า ถูกผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่แทรกแซง ตรวจร่างคำพิพากษาก่อน และบีบบังคับให้แก้ไขคำพิพากษาเสียใหม่นั้น ถูกหักล้างจากข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้

การตรวจร่างคำพิพากษา โดยผู้พิพากษาที่เป็นผู้บังคับบัญชา เป็นกระบวนการตรวจสอบภายในของศาลที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานแล้ว เพื่อความถูกต้อง ทั้งในเรื่องสำนวนภาษา และดุลพินิจ แต่ยังคงให้อิสระผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนที่จะพิพากษาตามดุลพินิจของตัวเอง อธิบดีผู้พิพากษาภาค หากไม่เห็นด้วย ทำได้เพียงทำความเห็นแย้งเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

คณะกรรมการตุลาการ ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีมติตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน ประเด็นสำคัญที่คณะอนุกรรมการนี้ควรจะพิจารณาด้วยคือ พฤติกรรมของนายคณากร เหมาะสมหรือไม่ ทั้งในกรณีเตรียมการเพื่อยิงตัวเองในบัลลังก์ศาล การไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก การนำคำพิพากษาซึ่งถือว่า ยังเป็นความลับจนกว่าจะอ่านให้จำเลยฟัง ไปบอกกับบุคคลภายนอก การมีใจฝักใฝ่กับพรรคการเมือง พฤติกรรมเหล่านี้ขัดต่อจรรยาบรรณ ของผู้เป็นตุลาการหรือไม่

คนที่สอง ที่ฆ่าตัวตายจากเหตุการณ์ฆ่าตัว(ไม่)ตายของ นายคณากร ก็คือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งทันทีที่ข่าวนายคณากรยิงตัวเอง ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ก็โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ตัวเองได้รับข้อมูลเหล่านี้จากผู้พิพากษามาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน และจะแถลงข่าวเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็แก้ไขข้อความในเฟซบุ๊กใหม่ถึงสองครั้งสองคราว่า ข้อมูลคำพิพากษา และแถลงการณ์ 25 หน้าของนายคณากรนั้น มีผู้หวังดีส่งมาให้

พฤติกรรมของนายปิยบุตร น่าสงสัยว่า รู้กันกับนายคณากรหรือไม่ ใครใช้ใคร หรือร่วมมือกัน เพราะนายคณากรก็แสดงท่าทีผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองว่า นิยมชมชอบในพรรคอนาคตใหม่

พรรคอนาคตใหม่ยังเรียกร้องให้ศาลเปิดเผยภาพในกล้องวงจรปิด และบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบัลลังก์ศาลอย่างละเอียด โดยอ้างว่า สอบถามจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ ชวนให้สงสัยว่า พรรคอนาคตใหม่มีการวางคนเข้าไปสังเกตการณ์ในบัลลังก์ศาล เพราะรู้ล่วงหน้าว่า จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่

คณะอนุกรรมการที่สอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ สมควรจะเรียกนายปิยบุตรมาให้ปากคำด้วยหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของนายปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่ ทำให้ทุกคนมีสิทธิตั้งข้อสงสัยว่า การฆ่าตัว(ไม่)ตายของนายคณากรนั้น ดูเหมือนจะเป็นการร่วมมือกันทำลายศาลยุติธรรม

นายคณากร คงเลียนแบบสืบ นาคะเสถียร ที่สละชีวิตตนเองเมื่อ 29 ปีก่อน เพื่อรักษาป่า แต่เจตนาต่างกัน ผลที่เกิดขึ้นจึงเป็นอย่างที่เห็นอยู่ กระสุนด้านที่ศาลจังหวัดยะลา ไม่มีคนตาย แต่มีคนฆ่าตัวตายสองคน


กำลังโหลดความคิดเห็น