ผู้จัดการรายวัน 360 - “อุตตม” เผยได้ชื่อ บอร์ด รฟท.ชุดใหม่แล้ว ชี้ TOR ไฮสปีด 3 สนามบินยืดหยุ่นพอสมคววร แต่ขึ้นอยู่กับ “ก.คมนาคม” อนุฯเร่งรัดนัดถก รฟท.ประเด็นส่งมอบพื้นที่ “อนุทิน” โวชีวิตมั่นคงแล้ว ไม่ต้องเอื้อธุรกิจครอบครัว พร้อมท้าหยิบปากกามาเซ็นสัญญา เชื่อส่งสารถึง “เจ้าสัวธนินท์” ที่วอนให้รัฐช่วยรับความเสี่ยงร่วมกับกลุ่ม CPH “ศักดิ์สยาม” ยังเชื่อเที่ยงตรง วันที่ 25 ต.ค.ได้เซ็นสัญญา แจงไม่บีบเอกชน แค่ทำตาม TOR ขู่ไม่มาตามนัดก็ต้องติดแบล็คลิสต์ เผย “บิ๊กตู่” สั่ง 3 รองนายกฯร่วมแก้ข้อพิพาทสัมปทานทางด่วน เชื่อภายในเดือนนี้มีความชัดเจน
วานนี้ (9 ต.ค.) ที่กรมธนารักษ์ นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือ บอร์ด ร.ฟ.ท.ว่างลง หลังบอร์ดชุดเก่าลาออกยกชุด ส่งผลให้การลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ล่าช้าออกไปว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงคมนาคม ในการจัดตั้งบอร์ด ร.ฟ.ท. ชุดใหม่ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน หลังจากตกลงแล้วจะส่งรายชื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยปัจจุบันรายชื่อถูกส่งมายังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว
หวัง คค.ยืดหยุ่นไฮสปีด 3 สนามบิน
ส่วนกรณีข้อติดขัดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) มองว่าเป็นการผลักภาระความเสี่ยงให้เอกชนฝ่ายเดียวนั้น นายอุตตมกล่าวว่า ทุกโครงการที่เกิดขึ้น มีการประเมินทั้งบทบาทของเอกชนและภาครัฐว่าเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงโดยรวมอะไรบ้าง ซึ่งทุกวันนี้รัฐบาลเดินตามข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) ที่ได้ตกลงเรื่องความเสี่ยงที่รับผิดชอบโดยรวมอยู่แล้ว
“วันนี้เอกชนยังเจรจากับกระทรวงคมนาคมเพื่อให้เกิดข้อยุติ และมองว่า TOR ที่ทำร่วมกัน ก็มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง แต่กระทรวงการคลังไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรง เรื่องทั้งหมดจะอยู่ที่กระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลกำกับ” นายอุตตม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 10 ต.ค. คณะอนุกรรมการเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แต่งตั้ง ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดการส่งมอบพื้นที่ในโครงการ เพื่อให้ผู้รับจ้างสามารถวางแผนในการก่อสร้างในจุดที่พร้อมส่งมอบได้ก่อน โดยก่อนหน้านี้ รฟท.ระบุว่าพร้อมส่งมอบพื้นที่ 72% ตามกำหนด
“อนุทิน” ท้า “ธนินท์” หยิบปากกาเซ็นสัญญา
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul ระบุว่า “ชีวิตดีแล้ว มั่นคงมาก ไม่จำเป็นต้องเอื้อธุรกิจของครอบครัวหรือของใคร ถ้าไม่เอื้อของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเอื้อใคร และจะใช้ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมดที่มีรักษาผลประโยชน์ให้บ้านเมือง รับมือกันให้อยู่ก็แล้วกัน ใครกันแน่ที่จะเอาเปรียบรัฐ ใครกันแน่ที่พยายามเลี่ยงไม่ทำตามผลของการประมูล ใครกันแน่ที่พยายามขอให้รัฐผ่อนปรนเพิ่มประโยชน์ให้ตัวเอง ไม่ต้องไปบีบสื่อให้ออกข่าว งานนี้ง่ายมาก ทำตามเงื่อนไขที่รัฐประกาศไว้ ไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องจ่าย เอาปากกามาด้ามเดียวแล้วเซ็นสัญญา กล้าๆหน่อย พร้อมสนับสนุนทุกอย่างให้ทำงานโดยสะดวก ราบรื่น ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ไม่พูดเยอะ เจ็บลิ้นไก่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อความของนายอนุทินน่าจะหมายถึงความล่าช้าในการลงสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กับกลุ่ม CPH ผู้ชนะการประมูล ที่กำหนดลงนามในสัญญาใหม่วันที่ 25 ต.ค. โดยก่อนหน้านี้ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ออกมาระบุว่า โครงการดังกล่าวมีความเสี่ยง และเงื่อนไขการร่วมประมูล (TOR) ยังมีบางอย่างที่ไม่ใช่ รัฐควรมีส่วนในการรับผิดชอบร่วมกับเอกชนด้วย ไม่ใช่ให้เอกชนแบกรับอยู่ฝ่ายเดียว พร้อมกับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กระทรวงคมนาคม ที่นายอนุทินกำกับดูแลกำลังกดดันกลุ่ม CPH อย่างหนักด้วย
”ศักดิ์สยาม” เชื่อเที่ยงตรง 25 ต.ค.ได้เซ็น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้ทำหนังสือแจ้งให้กลุ่ม CPH ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เวลา 12.00 น.แทน ซึ่งจะลงนามกันที่ รฟท. สาเหตุที่เลื่อนเป็นเพราะต้องรอการเห็นชอบจากบอร์ด รฟท.ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ หลังจากชุดเก่าลาออกไปยกชุด สำหรับการแต่งตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ ทาง สคร.ได้พิจารณารายชื่อบอร์ดรฟท. และส่งกลับมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสามารถเสนอครม.ได้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ เพื่อแต่งตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ และเริ่มประชุมเรื่องการเซ็นสัญญาในโครงการดังกล่าวทันที
“การเซ็นสัญญาในวันที่ 25 ต.ค.นี้ มั่นใจว่าเอกชนจะมาลงนามในสัญญาร่วมกัน ตามที่นัดหมายไว้อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นวันสุดท้ายที่จะมีโอกาสเซ็นสัญญาแล้ว และจะไม่มีการขยายเวลาเพิ่มให้อีกต่อไป หากเอกชนไม่มาทำสัญญาตามกำหนด ก็ต้องเป็นผู้ทิ้งงานภาครัฐและติดแบล็คลิสต์ ซึ่งเชื่อว่าหากทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ ยึดตามกฎหมาย และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้” นายศักดิ์สยามกล่าว
นายกฯสั่ง 3 รองฯแก้พิพาททางด่วน
ขณะที่กรณีการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า จะต้องมีการเสนอ ครม.เพื่อขอทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ต.ค.61 ที่ให้ กทพ.หาแนวทางบรรเทาความเสียหายของรัฐด้วยการเจรจาต่อรอง โดยมอบให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นรัฐบาลชุดเก่าที่หมดวาระไปแล้ว โดยล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือให้รองนายกรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ นายวิษณุ เครืองาม, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล และตนในฐานะ รมว.คมนาคม ประชุมหารือกัน ในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นหลายชุดเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาข้อพิพาท ซึ่งภายในเดือนต.ค.นี้จะมีความชัดเจน
“อนุทิน-ศักดิ์สยาม” ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนที่นายกฯจะเดินทางออกไปเยี่ยมชมภารกิจสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและมอบนโยบาย ณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล อาคารลาดพร้าวฮิลล์ ซอยลาดพร้าว 4 ถนนลาดพร้าว กรุงเทพฯ ทั้งนี้คาดว่า นายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม เดินทางพบนายกฯ เพื่อหารือถึงปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่ยังมีปัญหาลงนามไม่ได้เนื่องจากบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ลาออกยกชุด ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งใหม่ ซึ่งนายศักดิ์สยามจะเสนอบอร์ดรฟท. ชุดใหม่ เข้าครม.ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ จึงมาแจ้งต่อนายกฯ
วานนี้ (9 ต.ค.) ที่กรมธนารักษ์ นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หรือ บอร์ด ร.ฟ.ท.ว่างลง หลังบอร์ดชุดเก่าลาออกยกชุด ส่งผลให้การลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ล่าช้าออกไปว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงคมนาคม ในการจัดตั้งบอร์ด ร.ฟ.ท. ชุดใหม่ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน หลังจากตกลงแล้วจะส่งรายชื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยปัจจุบันรายชื่อถูกส่งมายังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว
หวัง คค.ยืดหยุ่นไฮสปีด 3 สนามบิน
ส่วนกรณีข้อติดขัดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) มองว่าเป็นการผลักภาระความเสี่ยงให้เอกชนฝ่ายเดียวนั้น นายอุตตมกล่าวว่า ทุกโครงการที่เกิดขึ้น มีการประเมินทั้งบทบาทของเอกชนและภาครัฐว่าเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงโดยรวมอะไรบ้าง ซึ่งทุกวันนี้รัฐบาลเดินตามข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) ที่ได้ตกลงเรื่องความเสี่ยงที่รับผิดชอบโดยรวมอยู่แล้ว
“วันนี้เอกชนยังเจรจากับกระทรวงคมนาคมเพื่อให้เกิดข้อยุติ และมองว่า TOR ที่ทำร่วมกัน ก็มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง แต่กระทรวงการคลังไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรง เรื่องทั้งหมดจะอยู่ที่กระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลกำกับ” นายอุตตม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 10 ต.ค. คณะอนุกรรมการเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แต่งตั้ง ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดการส่งมอบพื้นที่ในโครงการ เพื่อให้ผู้รับจ้างสามารถวางแผนในการก่อสร้างในจุดที่พร้อมส่งมอบได้ก่อน โดยก่อนหน้านี้ รฟท.ระบุว่าพร้อมส่งมอบพื้นที่ 72% ตามกำหนด
“อนุทิน” ท้า “ธนินท์” หยิบปากกาเซ็นสัญญา
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul ระบุว่า “ชีวิตดีแล้ว มั่นคงมาก ไม่จำเป็นต้องเอื้อธุรกิจของครอบครัวหรือของใคร ถ้าไม่เอื้อของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเอื้อใคร และจะใช้ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมดที่มีรักษาผลประโยชน์ให้บ้านเมือง รับมือกันให้อยู่ก็แล้วกัน ใครกันแน่ที่จะเอาเปรียบรัฐ ใครกันแน่ที่พยายามเลี่ยงไม่ทำตามผลของการประมูล ใครกันแน่ที่พยายามขอให้รัฐผ่อนปรนเพิ่มประโยชน์ให้ตัวเอง ไม่ต้องไปบีบสื่อให้ออกข่าว งานนี้ง่ายมาก ทำตามเงื่อนไขที่รัฐประกาศไว้ ไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องจ่าย เอาปากกามาด้ามเดียวแล้วเซ็นสัญญา กล้าๆหน่อย พร้อมสนับสนุนทุกอย่างให้ทำงานโดยสะดวก ราบรื่น ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ไม่พูดเยอะ เจ็บลิ้นไก่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อความของนายอนุทินน่าจะหมายถึงความล่าช้าในการลงสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กับกลุ่ม CPH ผู้ชนะการประมูล ที่กำหนดลงนามในสัญญาใหม่วันที่ 25 ต.ค. โดยก่อนหน้านี้ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ออกมาระบุว่า โครงการดังกล่าวมีความเสี่ยง และเงื่อนไขการร่วมประมูล (TOR) ยังมีบางอย่างที่ไม่ใช่ รัฐควรมีส่วนในการรับผิดชอบร่วมกับเอกชนด้วย ไม่ใช่ให้เอกชนแบกรับอยู่ฝ่ายเดียว พร้อมกับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กระทรวงคมนาคม ที่นายอนุทินกำกับดูแลกำลังกดดันกลุ่ม CPH อย่างหนักด้วย
”ศักดิ์สยาม” เชื่อเที่ยงตรง 25 ต.ค.ได้เซ็น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้ทำหนังสือแจ้งให้กลุ่ม CPH ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เวลา 12.00 น.แทน ซึ่งจะลงนามกันที่ รฟท. สาเหตุที่เลื่อนเป็นเพราะต้องรอการเห็นชอบจากบอร์ด รฟท.ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ หลังจากชุดเก่าลาออกไปยกชุด สำหรับการแต่งตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ ทาง สคร.ได้พิจารณารายชื่อบอร์ดรฟท. และส่งกลับมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสามารถเสนอครม.ได้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ เพื่อแต่งตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ และเริ่มประชุมเรื่องการเซ็นสัญญาในโครงการดังกล่าวทันที
“การเซ็นสัญญาในวันที่ 25 ต.ค.นี้ มั่นใจว่าเอกชนจะมาลงนามในสัญญาร่วมกัน ตามที่นัดหมายไว้อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นวันสุดท้ายที่จะมีโอกาสเซ็นสัญญาแล้ว และจะไม่มีการขยายเวลาเพิ่มให้อีกต่อไป หากเอกชนไม่มาทำสัญญาตามกำหนด ก็ต้องเป็นผู้ทิ้งงานภาครัฐและติดแบล็คลิสต์ ซึ่งเชื่อว่าหากทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ ยึดตามกฎหมาย และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้” นายศักดิ์สยามกล่าว
นายกฯสั่ง 3 รองฯแก้พิพาททางด่วน
ขณะที่กรณีการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า จะต้องมีการเสนอ ครม.เพื่อขอทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ต.ค.61 ที่ให้ กทพ.หาแนวทางบรรเทาความเสียหายของรัฐด้วยการเจรจาต่อรอง โดยมอบให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นรัฐบาลชุดเก่าที่หมดวาระไปแล้ว โดยล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือให้รองนายกรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ นายวิษณุ เครืองาม, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล และตนในฐานะ รมว.คมนาคม ประชุมหารือกัน ในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นหลายชุดเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาข้อพิพาท ซึ่งภายในเดือนต.ค.นี้จะมีความชัดเจน
“อนุทิน-ศักดิ์สยาม” ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนที่นายกฯจะเดินทางออกไปเยี่ยมชมภารกิจสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและมอบนโยบาย ณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล อาคารลาดพร้าวฮิลล์ ซอยลาดพร้าว 4 ถนนลาดพร้าว กรุงเทพฯ ทั้งนี้คาดว่า นายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม เดินทางพบนายกฯ เพื่อหารือถึงปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่ยังมีปัญหาลงนามไม่ได้เนื่องจากบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ลาออกยกชุด ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งใหม่ ซึ่งนายศักดิ์สยามจะเสนอบอร์ดรฟท. ชุดใหม่ เข้าครม.ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ จึงมาแจ้งต่อนายกฯ