xs
xsm
sm
md
lg

"ธนาธร"ต้องดิ้นรน เพราะปากพาจน !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**มาถึงวันนี้ มองในบางมุมก็น่าเห็นใจ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อยู่เหมือนกัน เพราะในเมื่อจับพลัดจับผลู กลายมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านหลักไปเรียบร้อย แทนที่พรรคเพื่อไทยที่ "เจ้าของพรรค" เดินเกมผิดพลาดจากแผน "แตกแบงก์พัน" จนพังทั้งกระดาน จากการที่พรรคไทยรักษาชาติ ต้องถูกยุบ จนคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อไหลเทมาให้พรรคอนาคตใหม่ เพิ่มจำนวน ส.ส.แบบพรวดพราด ในปัจจุบัน ที่แม้แต่ ธนาธร และคู่หู "ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรคตั้งรับแทบไม่ทัน
ที่ว่าน่าเห็นใจก็เพราะว่าการ "เปลี่ยนบทบาท" แบบกระทันหันแบบนี้ บางครั้งมันก็สร้างความสับสนกับตัวเองได้เหมือนกัน จนบางครั้งยังมึนว่าเวลานี้ตัวเองมีสถานะแบบไหน เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง เป็นส.ส. (แม้จะถูกสั่งพักทำหน้าที่) ในปัจจุบัน กับเดิมที่เคยมีบทบาทเป็นนักเคลื่อนไหว หรือเป็นคอมเมนท์เตเตอร์การเมืองในอดีตที่แสดงบทบาทแบบ "พวกไพร่หมื่นล้าน" นั่นคือ พวก "คนรวยที่ชอบแสดงออกว่าเห็นใจและเข้าใจคนจน" ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่ก็คือ "จุดขาย" ได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน
เพราะในภาพที่แท้จริงแล้ว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นทายาทของกลุ่มทุนที่มีทรัพย์สินระดับหมื่นล้าน ทำธุรกิจที่รับรู้กันเป็นอุตสาหกรรมอะไหล่ยนต์ มีการแสวงหากำไร ตามแบบระบบทุนนิยมทั่วไป แต่ก็มีประวัติที่ด่างพร้อยให้จดจำโจมตี ก็คือบริษัทของเขาเคยบีบพนักงานที่คิดเข้าร่วมสหภาพแรงงานให้ต้องลาออกไปหลายสิบคน เมื่อหลายปีก่อน
แต่ถึงอย่างไร ในอดีตที่ผ่านมาในฐานะที่เขาเป็นบุคคลทั่วไป การแสดงออกที่แม้แต่การร่วมชุมนุมทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม คงไม่มีปัญหา และแม้ว่าจะมีภาพที่เขาไปร่วมชุมนุมกับเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร กับคนเสื้อแดง ก็ต้องถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล และ คำพูด การแสดงความเห็นในตอนนั้น อาจจะไม่มีผลผูกมัดมากนัก หรือคำพูดอาจยังไม่ได้เป็นนายมากนัก
แต่นาทีนี้ เมื่อสถานะของตัวเองเปลี่ยนแปลงเป็นคนละคน ทุกคำพูดก็เริ่มเป็นนายรัดคอตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งในสถานะใหม่ดังกล่าวมันย่อมส่งผลกระทบในทางการเมือง หรือบางครั้งก็อาจส่งผลกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อีกด้วย
**แต่ที่น่าพิจารณาก็คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังใช้สถานะของตัวเองในฐานะนักการเมือง ใช้บทบาทใหม่ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านสร้างกระแสบางอย่างเพื่อสร้างความกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางบวกให้กับตัวเอง หรือไม่ หลังจากที่ในเวลานี้เขากำลังมีคดีสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตทางการเมือง และเสี่ยงคุกหลายคดี
ไม่ว่าจะเป็นคดีถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ที่ทำให้เขาต้องถูกสั่งพักการทำหน้าที่ส.ส.ชั่วคราว นั่นแหละ ซึ่งอีกไม่นานศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะตัดสินชี้ขาดแล้ว รวมไปถึงคดีปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคอนาคตใหม่ ก็กำลังเดินหน้า ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคดีที่เขาต้องลุ้นหนัก เพราะมีผลต่ออนาคตของเขา และรวมไปถึงพรรคของเขาด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วมันมีเดิมพันสูงมาก
จะด้วยสาเหตุแบบนี้หรือเปล่า ที่ทำให้เวลานี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องเร่งเขย่าแบบหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ถูกพิจารณาว่า เหมือนกับว่าพยายามสร้างแรงกดดัน หรือสร้างกระแสเพื่อสร้างความปั่นป่วน หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดประโยชน์ให้กับตัวเอง เหมือนกับเวลานี้ที่กำลังเดินสายทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีการแสดงท่าทีจะรื้อทั้งฉบับ โดยเฉพาะมีความพยายามจะแตะ มาตรา 1 รวมไปถึงหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคิดจะไปแตะต้อง เพราะรับรู้ว่า มีความอ่อนไหว เสี่ยงที่จะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาแน่นอน
และเท่าที่เห็นก็คือ ในเวลานี้ก็มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกันแบบกราวดรูดกันมาแล้ว ก็กลายเป็นว่ามีคดีอาญาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคดี
** นอกเหนือจากนี้ ที่น่าจับตาก็คือ จากคำพูดของเขาอาจมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-จีน ในอนาคตหรือไม่ จากคำพูดเพียงไม่กี่คำในอดีต ที่พูดว่า "เหตุการณ์ในฮ่องกง เป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่" ของเขา หรือภาพที่เพิ่งปรากฏที่เขาถ่ายรูปคู่กับ "โจชัว หว่อง" แกนนำม็อบฮ่องกง และเป็นเลขาธิการพรรค เดโมซิสโต ระหว่างที่เขาได้รับเชิญไปร่วมงานเสวนา ที่จัดโดยนิตยสารดิอีโคโนมิสต์ เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ก็ไม่รู้ว่าทั้งคำพูดที่ว่าเหตุการณ์ในฮ่องกงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการตั้งพรรคอนาคตใหม่ และการร่วมบันทึกภาพยิ้มแฉ่ง กับ โจชัว หว่อง ดังกล่าวนั้น จะสร้างความรู้สึกไม่พอใจกับทางการจีนมากน้อยแค่ไหน เพราะอย่างที่รับรู้กันก็คือ เวลานี้ฮ่องกงกลายเป็นประเด็นอ่อนไหวสำหรับจีนอีกแห่งหนึ่งแล้ว โดยย้ำว่า กรณีของฮ่องกง เป็นกิจการภายใน ห้ามไม่ให้ต่างชาติยุ่งเกี่ยว แทรกแซง ตัวอย่างที่เพิ่งเห็นล่าสุดก็คือ แม้แค่มีนักกีฬาบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกา คนหนึ่งโพสต์สนับสนุนม็อบฮ่องกง ยังถูกทางการจีนประท้วงมาแล้ว
นี่คงไม่ต้องพูดถึงกรณีที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงขนาดไปบนพูดบนเวที ในฮ่องกง ย้ำว่า "ฮ่องกงเป็นแรงบันดาลใจ" รวมทั้งได้เห็นภาพบาดตาดังกล่าว มันก็เสี่ยงที่จะทำให้พญามังกร โกรธเอาได้เหมือนกัน เพราะความหมายมันก็อธิบายได้ว่า สนับสนุนม็อบ หรือเชียร์ฝ่ายไหน
**ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันนี้ มันก็เหมือนพยายามเร่งเร้าให้เกิดความปั่นป่วน ทั้งนอก ทั้งในประเทศ อาจจะจงใจหรือไม่ก็ตาม แต่ก็สามารถมองออกได้เหมือนกันว่า นี่คือภาวะดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด แต่ขณะเดียวกัน คำพูดที่หลุดออกมา มันก็เหมือนกับว่า ปากพาจนนั่นเอง !!
กำลังโหลดความคิดเห็น