เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีหมอดูท่านหนึ่งได้ออกมาบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงสองสมัยหรือ 8 ปี
เมื่อข่าวนี้ได้แพร่ออกไป ได้มีผู้ที่สนใจในกิจการบ้านเมืองหลายท่านได้ถามผู้เขียนว่า มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคำทำนายข้างต้นที่ว่านี้ จึงทำให้ผู้เขียนในฐานะโหรสมัครเล่นต้องนำเรื่องนี้มาเขียน เพื่อเป็นคำตอบแก่ท่านที่อยากรู้
แต่ก่อนที่จะเขียนถึงอนาคตทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามนัยของหมอดู ซึ่งปรากฏเป็นข่าวจะต้องนำดวงเมืองมาพิจารณาควบคู่กันไปกับดวงชะตาของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อความแน่นอนและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ดวงเมืองก็คือ ดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 เวลา 06.54 น.

ในการทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งมีผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบ จะต้องนำดาวจรโดยเฉพาะดาวใหญ่คือ พฤหัส (5) เสาร์ (7) ราหู (8) และมฤตยู (0) มาพิจารณาควบคู่กับดวงเดิมหรือพื้นดวง
ในขณะนี้ ดาวพฤหัสโคจรในราศีพิจิก ซึ่งเป็นเรือนมรณะจนถึงวันที่ 31 ต.ค.และโคจรเข้าราศีธนูในวันที่ 1 พ.ย. ดังนั้น ในช่วงที่ดาวพฤหัสโคจรในเรือนมรณะส่งผลในทางลบคือ ทำให้กระบวนการยุติธรรมในส่วนที่เกี่ยวกับการเมืองถูกบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยเริ่มตั้งแต่ 25 พ.ค. เป็นต้นมาจนถึง 31 ต.ค.
แต่จาก 1 พ.ย.เป็นต้นไปจนถึง 23 ก.ย. 63 กระแสแห่งการบิดเบือนจะค่อยๆ ลดลงและหมดไป และกระบวนการยุติธรรมจะกลับมาเข้มแข็งขึ้น ความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างเป็นรูปธรรมจะเกิดขึ้น
ดาวเสาร์โคจรในเรือนปุระกับพฤหัส และเสาร์เดินมาตั้งแต่ 1 ธ.ค. 60 และจะคงอยู่ในเรือนนี้ต่อไปจนถึง 1 มี.ค. 63 ดังนั้น ในช่วงนี้จึงทำให้เกิดปัญหา ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากความจนของคนในระดับรากหญ้า ทั้งในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม
ปัญหาที่ว่านี้ จะเริ่มคลี่คลายลงเมื่อดาวพฤหัสโคจรเข้าสู่เรือนศุภะในวันที่ 1 พ.ย. 62 เป็นต้นไปจนถึง 23 ก.ย. 63
ราหูโคจรในเรือนสหัชชะตั้งแต่ 22 ก.พ. 62 และจะยังคงอยู่ในเรือนนี้จนถึง 10 ก.ย. 63 จึงทำให้เกิดอุทกภัยและปัญหาทุจริต คอร์รัปชันเกิดขึ้น
ดาวมฤตยูจึงโคจรในราศีเมษทับลัคนา และดวงอาทิตย์มาตั้งแต่ 6 มี.ค. 59 และจะยังคงอยู่ต่อไปตลอดปี 63 ดังนั้น จึงทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ แต่ดาวมฤตยูจะอ่อนแรงลงเมื่อดาวพฤหัสโคจรในเรือนศุภะ โดยเริ่มจาก 1 พ.ย. 62 เป็นต้นไป
สำหรับอนาคตทางการเมืองของรัฐบาล ถ้าดูจากดวงเมืองแล้วก็พออนุมานได้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแน่นอนในช่วง 1 พ.ย. 62-23 ก.ย. 63 แต่จะหนักและถึงขั้นเปลี่ยนแปลงผู้นำหรือไม่ก็ปรับ ครม.ครั้งใหญ่ในช่วง 1 พ.ย.-31 พ.ค.
เมื่อข่าวนี้ได้แพร่ออกไป ได้มีผู้ที่สนใจในกิจการบ้านเมืองหลายท่านได้ถามผู้เขียนว่า มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคำทำนายข้างต้นที่ว่านี้ จึงทำให้ผู้เขียนในฐานะโหรสมัครเล่นต้องนำเรื่องนี้มาเขียน เพื่อเป็นคำตอบแก่ท่านที่อยากรู้
แต่ก่อนที่จะเขียนถึงอนาคตทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามนัยของหมอดู ซึ่งปรากฏเป็นข่าวจะต้องนำดวงเมืองมาพิจารณาควบคู่กันไปกับดวงชะตาของพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อความแน่นอนและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ดวงเมืองก็คือ ดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 เวลา 06.54 น.
ในการทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งมีผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบ จะต้องนำดาวจรโดยเฉพาะดาวใหญ่คือ พฤหัส (5) เสาร์ (7) ราหู (8) และมฤตยู (0) มาพิจารณาควบคู่กับดวงเดิมหรือพื้นดวง
ในขณะนี้ ดาวพฤหัสโคจรในราศีพิจิก ซึ่งเป็นเรือนมรณะจนถึงวันที่ 31 ต.ค.และโคจรเข้าราศีธนูในวันที่ 1 พ.ย. ดังนั้น ในช่วงที่ดาวพฤหัสโคจรในเรือนมรณะส่งผลในทางลบคือ ทำให้กระบวนการยุติธรรมในส่วนที่เกี่ยวกับการเมืองถูกบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยเริ่มตั้งแต่ 25 พ.ค. เป็นต้นมาจนถึง 31 ต.ค.
แต่จาก 1 พ.ย.เป็นต้นไปจนถึง 23 ก.ย. 63 กระแสแห่งการบิดเบือนจะค่อยๆ ลดลงและหมดไป และกระบวนการยุติธรรมจะกลับมาเข้มแข็งขึ้น ความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างเป็นรูปธรรมจะเกิดขึ้น
ดาวเสาร์โคจรในเรือนปุระกับพฤหัส และเสาร์เดินมาตั้งแต่ 1 ธ.ค. 60 และจะคงอยู่ในเรือนนี้ต่อไปจนถึง 1 มี.ค. 63 ดังนั้น ในช่วงนี้จึงทำให้เกิดปัญหา ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากความจนของคนในระดับรากหญ้า ทั้งในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม
ปัญหาที่ว่านี้ จะเริ่มคลี่คลายลงเมื่อดาวพฤหัสโคจรเข้าสู่เรือนศุภะในวันที่ 1 พ.ย. 62 เป็นต้นไปจนถึง 23 ก.ย. 63
ราหูโคจรในเรือนสหัชชะตั้งแต่ 22 ก.พ. 62 และจะยังคงอยู่ในเรือนนี้จนถึง 10 ก.ย. 63 จึงทำให้เกิดอุทกภัยและปัญหาทุจริต คอร์รัปชันเกิดขึ้น
ดาวมฤตยูจึงโคจรในราศีเมษทับลัคนา และดวงอาทิตย์มาตั้งแต่ 6 มี.ค. 59 และจะยังคงอยู่ต่อไปตลอดปี 63 ดังนั้น จึงทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ แต่ดาวมฤตยูจะอ่อนแรงลงเมื่อดาวพฤหัสโคจรในเรือนศุภะ โดยเริ่มจาก 1 พ.ย. 62 เป็นต้นไป
สำหรับอนาคตทางการเมืองของรัฐบาล ถ้าดูจากดวงเมืองแล้วก็พออนุมานได้ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแน่นอนในช่วง 1 พ.ย. 62-23 ก.ย. 63 แต่จะหนักและถึงขั้นเปลี่ยนแปลงผู้นำหรือไม่ก็ปรับ ครม.ครั้งใหญ่ในช่วง 1 พ.ย.-31 พ.ค.