xs
xsm
sm
md
lg

โลกของกะปอมและไดโนเสาร์

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

เหตุความไม่สงบในประเทศอิรัก ประชาชนประท้วงต่อต้านรัฐบาล
เปิดฉากสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นต้องไปว่ากันเรื่องประเภทการประท้งประท้วง ที่ช่วงระยะนี้ออกจะเป็นอะไรที่ฮอตฮิตติดชาร์ตอยู่พอสมควร โดยเฉพาะสำหรับพวกเด็กๆ หรือบรรดา “คนรุ่นใหม่” ”ทั้งหลายในแต่ละซีกโลก ไม่ว่าจะเป็นเด็กฮ่องกง ที่ยังคงประท้วงไม่ยอมเลิก นับไม่รู้กี่สิบต่อกี่สิบสัปดาห์เข้าไปแล้ว ไปจนเด็กรัสเซีย เด็กฝรั่งเศส และล่าสุด...ก็เด็กอิรักที่ออกอาการ “แดง-ไม่แดง แต่ขอให้แรงเข้าว่า” ตามประสานคนรุ่นใหม่ จนต้องล้มตายไปแล้วเป็นสิบๆ บาดเจ็บร่วมร้อย ในช่วงก่อการประท้วงเมื่อไม่กี่วันมานี้...

อย่างไรก็ตาม สำหรับการประท้วงของพวกกุมารฮ่องกงนั้น ออกจะเป็นอะไรที่น่าเหนื่อย และน่าเบื่อเต็มที เพราะได้พูด ได้เขียนกันมาเยอะแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นไปในแบบเดิมๆ อีกนั่นแหละ คือหนักไปทางดุเดือด รุนแรง ชนิดหัวไม่ตก พร้อมไล่ถีบ ไล่กระทืบ ใครต่อใครที่ขวางหน้า ขวางมือ ขวางตีน ชนิดไม่คิดจะบันยะบันยัง เอาเลยแม้แต่น้อย จนตำรวจฮ่องกงถึงกับต้องชักปืนของจริง กระสุนจริง ออกมายิงใส่ผู้ประท้วงที่อายุเพียงแค่ 18 ปีกันไปแล้วจริงๆ หรือแม้แต่พลเรือน ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ลูกจ้างบริษัท “เจพี มอร์แกน” ” ที่แค่ออกมากู่ก้องร้องตะโกน ขอให้ผู้ประท้วงเห็นแก่ “ความเป็นจีน” ” ไม่ว่าจีนฮ่องกง หรือจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยเถิด อันเนื่องจาก “We are all Chinese” ”หรือเพราะ “เราต่างก็เป็นคนจีนไปด้วยกันทั้งนั้น” ”แต่ยังมิวายถูกทุบ ถูกสาวหมัดเข้าใส่ โดยบรรดาผู้ประท้วงที่สวมหน้ากากมิดชิด จนทางการฮ่องกงเขาเลยต้องงัดเอาคำสั่ง คำประกาศ “ห้ามไม่ให้ผู้ประท้วงสวมหน้ากาก” ” กันอีกต่อไป...

ดังนั้น...วันนี้ เลยคงต้องลองเปลี่ยนบรรยากาศหันไปสำรวจตรวจสอบบรรดา “กะปอมอิรัก” ” กันแทนที่ ซึ่งได้เริ่มเปิดฉากการประท้วงตั้งแต่เมื่อช่วงวันอังคาร (1 ต.ค.) ที่ผ่านมา ทยอยเดินลงไปสู่ท้องถนนในเมืองต่างๆ ไม่ว่าแบกแดด, นาจาฟ, คาร์บาลา, ดิ คอร์ (Dhi Qar), เมย์แซน (Maysan), บาบิล และบัสรา ฯลฯ และที่ออกจะแรงเอามากๆ คือที่เมืองอัล-คุท (Al Kut) เมืองศูนย์กลางของเขตปกครอง “Wasit” ” ที่เกิดรายการ “จุดไฟในนาคร” ”ทั้งเผา ทั้งทุบทำลายอาคาร ร้านค้า สถานที่ราชการ ระดับไม่น้อยหน้าไปกว่าบรรดาพวก “กะปอมฮ่องกง” ”ทั้งหลาย จนบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองต่างๆ ต้องลากท่อดับเพลิงออกมาฉีด ต้องโยนระเบิดแก๊สน้ำตา ต้องใช้กระสุนยาง ที่อาจถูกแซมด้วย “กระสุนจริง” ” จาก “ชายชุดดำ” ” หรือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ แอบยิงใส่ผู้ประท้วง เกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย ชนิดเป็นสิบๆ ร้อยๆ จนรัฐบาลอิรักต้องประกาศ “เคอร์ฟิว” ” ไปเมื่อช่วงวันศุกร์ (4 ต.ค.) ที่ผ่านมา ถึงพอได้เงียบๆ ลงไปมั่ง...

แต่อันที่จริงแล้ว...ก่อนหน้าการลงสู่ท้องถนนโดยปกติ บรรดา “กะปอมอิรัก” ” ทั้งหลาย ก็ได้อาศัย “ถนนโซเชียล มีเดีย” ” นั่นแหละเป็นพื้นที่ในการปลุกปั่น ปลุกระดม สร้างอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มาเป็นเวลาร่วมเดือน โดยที่น่าสนใจเอามากๆ...ถ้าว่ากันตามที่สำนักข่าว “FNA” ”หรือ “Fars news Agency” ”ของทางการอิหร่าน เขาไปรวมหลักฐาน ตัวเลขสถิติ เอามาเปิดเผย บรรดาประเด็น หรือที่เรียกๆ กันว่า “Hashtags” ” ซึ่งช่วย “ปรุงแต่ง” ” ให้เกิดอารมณ์ต่างๆ นานาขึ้นมาได้นั้น จำนวนถึง 79 เปอร์เซ็นต์มาจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย 7 เปอร์เซ็นต์มาจากคูเวต โดยเพียงแค่ 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ที่มาจากบรรดาเด็กๆ ชาวอิรักล้วนๆ และโดยประเด็นที่ว่า...ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า การสร้างความรู้สึกขัดข้องหมองใจใน “ปัญหาเศรษฐกิจ” ” เป็นเรื่องหลัก “ปัญหาคอร์รัปชัน” ” เป็นอันดับสอง ตามด้วย “ปัญหาการว่างงาน” ” ซึ่งเป็นอะไรที่ “โดนใจ” ”บรรดาหนุ่มๆ-สาวๆ อิรักกันเป็นจำนวนไม่น้อย ไปจนถึงการบริการของรัฐที่ออกไปทาง “ห่วยแตก” ”ไม่ต่างไปจากบรรดารัฐที่ด้อยพัฒนาหรือกำลังพัฒนาโดยทั่วไป ฯลฯ โดยที่ปรากฏแซมๆ อยู่บ้าง ก็คือความรู้สึกไม่พอใจต่อ “นโยบายต่างประเทศ” ” ของรัฐบาล ที่หันไปคบหาสมาคมกับประเทศที่ออกไปทาง “ไม่น่าคบ” ”อย่างประเทศ “อิหร่าน” ” เป็นต้น แทนที่จะหันมาคบหากับประเทศที่สุดแสนจะก้าวหน้า ทันสมัย อย่างสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ หรือประเทศที่รวยไม่เสร็จ อย่างซาอุดีอาระเบีย น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ อะไรทำนองนั้น...

การลุกฮือของ “กะปอมอิรัก” ” ในเที่ยวนี้...จึงเป็นอะไรที่คงต้องมองกัน 2 ชั้น 3 ชั้น ไม่ผิดอะไรกับการลุกฮือของ “กะปอมฮ่องกง” ”นั่นแหละ เพราะรัฐบาลอิรักของ “นายAbdel Abdul Mahdi” ”ปัจจุบัน ก็เพิ่งเข้ามามีอำนาจเมื่อแค่ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมานี่เองโอกาสที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาคอร์รัปชัน ปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของรัฐ ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สะสมต่อเนื่องมายาวนานไม่รู้กี่ทศวรรษ ต่อกี่ทศวรรษ ให้หายเกลี้ยงไปเป็นแถบๆ มันคงต้องอาศัยอิทธิปาฏิหาริย์ระดับ “เทพเจ้ากิลกาเมช” ”หรือ “เทพเจ้าอูรุค” ” กลับมาเกิดใหม่โน่นแหละ มันถึงจะพอเป็นไปได้บ้าง แต่ภายใต้ความอึดอัดขัดใจ หรือความรู้สึกประเภท “ประเทศ...กูมี” ” ของบรรดา “กะปอมอิรัก” ” ทั้งหลายนี่เอง ย่อมสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสกัดขัดขวางความพยายายามเปลี่ยนแปลง “นโยบายต่างประเทศ” ”ของรัฐบาลอิรักชุดใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนโยบายที่เริ่มตีตัวออกห่างจากตะวันตก หันไปแสวงหาสันติภาพและเสถียรภาพในหมู่ชาวตะวันออกซะเป็นหลัก อันเป็นสิ่งที่สามารถอุบัติขึ้นมาได้ภายในชั่วข้ามคืน...

การประท้วงในอิรัก-ฮ่องกง-รัสเซีย หรือแม้แต่ฝรั่งเศส ฯลฯ จึงเป็นอะไรที่คงต้องมองกันแบบ 2 ชั้น 3 ชั้น หรือต้องใคร่ครวญหวนคิดกันในระดับ 8 ตลบ 10 ตลบ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ในภาวะที่โลกทั้งโลก มันกำลังเต็มไปด้วย “คนรุ่นใหม่” ” หรือเต็มไปด้วย “เด็กและเยาวชน” ” ที่ถูกทำให้ย่อยแยกแตกกระจาย ถูกตัดขาด ชนิดแทบไม่หลงเหลือเยื่อใย สายใย ในทางวัฒนธรรม ประเพณี อันเคยเป็นตัวเชื่อมโยงผู้คนภายในสังคมของตัวเอง ขาดพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ขาดขีดความสามารถในการเชื่อมโยงอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตให้เป็นอันหนึ่ง-อันเดียวกัน ขาดความมีเหตุ-มีผล แถมยังขาดความอดทน อดกลั้น หรือขาด “ขันติธรรม” ” อันเป็นพื้นฐานสำคัญของ “สามัคคีธรรม” ” ที่ไม่ว่าประเทศไหน ระบบไหน หรือระบอบไหน จำต้อง “พึงมี” ”ไปด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยลักษณะเฉพาะหรือลักษณะพิเศษของบรรดา “กะปอม” ” เหล่านี้นี่เอง จึงเป็นสิ่งที่บรรดา “ไดโนเสาร์” ”ในแต่ละประเทศ จะ “ดูเบา” ”ไม่ได้โดยเด็ดขาด!!!

แม้แต่ไดโนเสาร์แห่งประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาก็เถอะ ถ้ายังมัวแต่ใช้วิธีหยาบๆ ง่ายๆ เอาแต่ชี้นิ้ว ชี้โน่น ชี้นี่ หรือเอาแต่ออกอาวุธโต้พวกเด็กๆ แบบชนิดดอกต่อดอก โดยไม่ได้คิดหน้า-คิดหลัง คิดให้ลึกซึ้ง ให้เข้าถึง-เข้าใจต่อพฤติกรรมในระดับปัจเจกบุคคลไปจนถึงระดับความเป็นไปของโลกกันจริงๆ โอกาสที่จะปวดเศียร-เวียนเกล้า เพราะบรรดาพวก “กะปอม” ”ทั้งหลาย ไม่ต่างไปจากฮ่องกง-รัสเซีย-ฝรั่งเศส-และอิรัก ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...


กำลังโหลดความคิดเห็น